สวธ.ประกาศขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาระดับชุมชนครั้งแรก ปี 55 เปิดทางให้ชุมชนคัดเลือกกันเอง ก่อนดันเป็นมรดกภูมิปัญญาระดับชาติ ปรับกระบวนการเก็บข้อมูลใหม่เหมือนสมาชิกอาเซียน-เตรียมสู่ภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวน รักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก
นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า การสำรวจและพิจารณาการประกาศรายชื่อมรดกภูมิปัญญาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำปี 2555 จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมที่ประกาศขึ้นทะเบียนเฉพาะในระดับชาติ ในปีนี้จะเพิ่มให้ชุมชนเสนอภูมิปัญญาระดับชุมชนด้วย จากนั้นคณะกรรมการจะไปคัดเลือกภูมิปัญญาพื้นบ้านเหล่านี้มาขึ้นทะเบียนเป็นระดับชาติอีกครั้ง
สำหรับข้อมูลภูมิปัญญาชุมชน จะมอบให้ทางชุมชนเป็นผู้เก็บรายละเอียดเอง ทาง สวธ.จะส่งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ช่วยและอบรมวิธีการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ จากนั้นเปิดเวทีประชาคมคัดเลือกว่าภูมิปัญญานี้เป็นมรดกของชุมชนจริงหรือไม่ ยกตัวอย่าง การทอผ้า ตั้งแต่วัสดุ เนื้อผ้า วิธีการทอ ลายผ้า การสืบทอดมีเฉพาะชุมชนนี้ เมื่อทุกฝ่ายเห็นชอบร่วมกันจะนำขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาระดับชุมชน
นางปริศนา กล่าวว่า การทะเบียนมรดกภูมิปัญญาระดับชุมชน และระดับชาติ จะใช้กระบวนการเดียวกับการขึ้นทะเบียนตามกฎของภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวน รักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากอนาคตไทยเข้าร่วมภาคีดังกล่าว รวมถึงเป็นการเก็บข้อมูลมาตรฐานเดียวกันกับสมาชิกประเทศอาเซียนด้วย อย่างไรก็ตาม การประกาศรายชื่อเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาพื้นบ้านและระดับชาติได้ในเดือนสิงหาคม 2555 นี้ โดยรายชื่อมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ คาดว่าจะประกาศขึ้นทะเบียน ประมาณ 20 รายการแล้ว
นางปริศนา กล่าวต่อว่า การดำเนินการเข้าร่วมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวน รักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ขณะนี้อยู่ระหว่างขอความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่ได้แสดงความคิดเห็นกลับมาแล้ว เหลืออีกเพียง 10 หน่วยงานที่ยังไม่ได้ส่งความคิดเห็นมา ดังนั้น จึงได้เชิญ 10 หน่วยงานมารับฟังความเป็นมา เนื้อหา ประโยชน์ และผลกระทบจากการเข้าร่วมภาคีเรียบร้อยแล้ว สวธ.จะรอหนังสือแสดงความคิดเห็นจาก 10 หน่วยงานกลับมาก่อน หลังจากนั้นจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไปเนื่องจากเกี่ยวข้องความสัมพันธ์ต่างประเทศ ก่อนประกาศเข้าร่วมเป็นภาคี คาดว่า จะต้องใช้เวลาดำเนินการระยะหนึ่ง แต่จะพยายามผลักดันเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายใน 2 ปี