วธ.จัดวันมวยไทย 6 ก.พ. - เร่งคัดมรดกภูมิปัญญาขึ้นทะเบียนปี 55 เพิ่มขึ้นทะเบียนระดับชุมชน แย้มมี 20 รายการแล้ว
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นางสุกุมล คุณ
ปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีบวงสรวงสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) เนื่องในวันมวยไทย 6 กุมภาพันธ์ ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันมวยไทย โดยถือวันที่สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) เสด็จขึ้นครองราชย์ ด้วยพระองค์ทรงพระปรีชาสามารถด้านมวยไทยเป็นที่ประจักษ์ และมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ปรากฏชัดเจน ที่สำคัญ วธ.ได้ประกาศขึ้นทะเบียนมวยไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2553 เพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงความสำคัญขององค์ความรู้และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้านมวยไทย รวมถึงเพื่อร่วมกันเผยแพร่ชื่อเสียงเกียรติภูมิของประเทศที่มีมรดกวัฒนธรรมอันเก่าแก่ ทรงคุณค่า และงดงามให้ปรากฏไปทั่วโลก ที่สำคัญ เป็นการอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาให้คงอยู่ต่อไป กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) จึงจัดพิธีไหว้ครูมวยไทย และการรำไหว้ครูมวยไทยของเยาวชน 200 คน และการสาธิตการแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทยและมวยไทย 5 สาย คือ มวยไทยสายโคราช มวยไทยสายลพบุรี มวยไทยสายไชยา มวยไทยสายท่าเสา และมวยไทยสายพลศึกษา รวมทั้งนิทรรศการเกี่ยวกับมวยไทยสายต่างๆ ด้วย
นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล อธิบดี สวธ.กล่าวว่า ความคืบหน้าการสำรวจและพิจารณาการประกาศรายชื่อมรดกภูมิปัญญาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำปี 2555 นั้น ยังคงมี 6 สาขาเหมือนเดิม ได้แก่ 1.สาขาศิลปะการแสดง 2. สาขางานช่างฝีมือดั้งเดิม 3.สาขาวรรณกรรมพื้นบ้าน 4.สาขากีฬาภูมิปัญญาไทย 5.สาขาแนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรมและงานเทศกาล และ 6.สาขาความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล แต่ในปี 2555 จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบกระบวนการคัดเลือกใหม่ จากเดิมที่ประกาศขึ้นทะเบียนเฉพาะในระดับชาติเท่านั้น
นางปริศนา กล่าวว่า ปีนี้จะเพิ่มให้ชุมชน เสนอภูมิปัญญาระดับชุมชนของตนเองขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาพื้นบ้าน จากนั้นคณะกรรมการจะไปคัดเลือกภูมิปัญญาพื้นบ้านเหล่านี้มาขึ้นทะเบียนเป็นระดับชาติอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาพื้นบ้าน รวมทั้งระดับชาติปีนี้จะใช้กระบวนการขึ้นทะเบียนตามกฎของภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวน รักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เพื่อความสะดวกหากอนาคตไทยเข้าร่วมภาคีดังกล่าวจะได้ไม่เกิดต้องคัดเลือกรายชื่อใหม่
“การประกาศรายชื่อเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาพื้นบ้านและระดับชาติได้ในเดือนสิงหาคมนี้ โดยรายชื่อมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ที่คาดว่าจะประกาศขึ้นทะเบียนขณะนี้มีอยู่ประมาณ 20 รายการแล้ว” นางปริศนา กล่าว