xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบต้านเหล้าบุกทำเนียบร้องออกกฎเหล็กลดเจ็บ-ตาย ช่วงสงกรานต์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ม็อบเครือข่ายต้านเหล้า บุกทำเนียบ ร้องรัฐคลอดกฎเหล็ก ลดเจ็บ-ตายสงกรานต์ หลังพบยอดคร่าชีวิต 2,219 ศพ พร้อมโชว์ละครสะท้อนสงกรานต์ฉาว ต้นตอจากน้ำเมา ชี้ วัยโจ๋ยังน่าห่วงดื่มหนัก 10 เท่า ขณะที่ รองนายกฯ รับปาก นำเข้า ครม.พรุ่งนี้

วันนี้ (28 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ มูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์กรุงเทพ และเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กว่า 80 คน รวมตัวกันยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เพื่อเรียกร้องให้มีมาตรการใหม่ลดผลกระทบช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555

ทั้งนี้ เครือข่ายเยาวชนฯ ได้มีการแสดงละคร ตีแผ่พฤติกรรมฉาวสงกรานต์ 2554 อาทิ โป๊เปลือย โชว์ลามก ก่อเหตุทะเลาะวิวาท และอุบัติเหตุสื่อถึงพฤติกรรมการเล่นสงกรานต์ที่ขาดสติ เพราะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งชูป้ายด้วยข้อความต่างๆอาทิ หยุดสงกรานต์เมา หยุดทำลายประเพณีไทยและสนับสนุนกฎหมาย ห้ามขาย-ดื่มเหล้าบนถนน เป็นต้น

นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า เครือข่ายฯเป็นองค์กรภาคประชาชนที่เฝ้าระวังการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งการมีส่วนร่วมเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยงและเหตุการณ์ที่นำไปสู่ความสูญเสีย หากย้อนดูข้อมูลศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์จะเห็นได้ชัดเจน ว่าในรอบ 6 ปี 2549-2554 เทศกาลสงกรานต์ได้คร่าชีวิตมากถึง 2,219 ราย และมียอดผู้บาดเจ็บกว่า 27,198 ราย สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเมาสุรา นอกจากความสูญเสียนี้แล้ว ปัญหาที่รุนแรงไม่น้อยไปกว่ากันคือ การเล่นน้ำที่รุนแรง ทะเลาะวิวาท พฤติกรรมล่อแหลม แต่งตัววาบหวิว การคุกคามทางเพศ ในพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการดื่มขาดสติและไม่มีการควบคุมที่ดีพอเช่นกรณีสีลม พิจิตร และอีกหลายๆจังหวัด

สงกรานต์ทุกปี กลุ่มที่น่าห่วงยังคงเป็นเยาวชน ซึ่งมีแนวโน้มดื่มอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) สะท้อนว่า เยาวชนมีพฤติกรรมการดื่มหนักในช่วงสงกรานต์เพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า ผู้บาดเจ็บอายุน้อยกว่า 20 ปี ที่ดื่มก่อนเกิดเหตุมีเพิ่มถึง 4.4 เท่า นอกจากนี้ ข้อมูลองค์การอนามัยโลกปี 2547 ยังพบว่า ประเทศสมาชิกกว่า 40.0% ได้ควบคุมการดื่มในที่สาธารณะและท้องถนน ในจำนวนนี้ 2 ใน 3 ห้ามอย่างเด็ดขาดเพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั้งที่ดื่มและไม่ดื่มโดยเฉพาะนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันยังมีข้อมูลจากเอแบคโพลล์ ที่สอดรับว่า ประชาชนคนไทย 87.3% เห็นด้วยกับมาตรการห้ามดื่มบนยานพาหนะ และประชาชน 86.5% เห็นด้วยกับการจัดโซน ปลอดเหล้าช่วงสงกรานต์” นายธีระ กล่าว

นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ แกนนำเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กล่าวว่า เพื่อให้สงกรานต์ปีนี้ มีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมไปถึงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลสำคัญๆเครือข่ายฯขอแสดงจุดยืนและเรียกร้องดังนี้ 1.ขอให้เร่งออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 27(8) และ 31(7) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 กำหนดห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนถนน ซึ่งคลอบคลุมถึงยานพาหนะที่วิ่งบนถนน และบนทางสาธารณด้วย เพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้ทันก่อนสงกรานต์ปีนี้ รวมถึงร่างอนุบัญญัติอื่นๆ อาทิ ห้ามขายเหล้าปั่น ควบคุมร้านเหล้ารอบสถานศึกษา และการห้ามขายห้ามดื่มในโรงงานอุตสาหกรรม 2.ขอให้มีนโยบายสั่งการทุกจังหวัดให้จัดโซนเล่นน้ำสงกรานต์ที่ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เชิญชวนประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทยในเทศกาลสงกรานต์ และขอให้กำชับมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ กลายเป็นผู้ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เสียเอง 3. ขอให้รัฐบาลพึงระมัดระวัง ส่วนราชการต่างๆ ในการร่วมมือกับอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งการร่วมทำกิจกรรม ประชาสัมพันธ์ ทำ CSR ที่เป็นไปเพื่อสร้างภาพลักษณ์และสร้างเครดิตให้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสินค้าที่สร้างปัญหาให้สังคมทุกมิติ และอาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรา 30 และ 32 รวมถึงควรรู้เท่าทันและไม่ร่วมมือกับองค์กรหน้าฉากที่ตั้งขึ้นโดยมีอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่เบื้องหลัง ซึ่งจะนำไปสู่การเข้ามาแทรกแซงนโยบาย ส่งผลให้การควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประเทศไทยอ่อนแอลงในที่สุด

จากนั้น พลเอก ยุทธศักดิ์ กล่าวภายหลังรับเรื่องว่า ขอบคุณความปรารถนาดีของเครือข่ายฯที่เห็นถึงความสำคัญ ซึ่งตนในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ พร้อมสนับสนุนและจะดำเนินการแก้ปัญหา โดยจะนำข้อเรียกร้องของเครือข่ายฯ เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (29 มี.ค.)
กำลังโหลดความคิดเห็น