xs
xsm
sm
md
lg

สพฐ.จัดตลาดนัดเรียนต่อม.1และม.4 15-17 มี.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สพฐ.จัดมหกรรมตลาดนัดเรียนต่อม.1 และม.4 ขณะที่โรงเรียนยอดนิยมเตรียมมาเปิดให้นักเรียนทดสอบว่าผ่านเกณฑ์ของโรงเรียนหรือไม่ก่อนเข้าสนามจริง 15-17 มี.ค.นี้

นายชินภัทร ภูมิรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงการรับนักเรียน ชั้น ม.1 และม.4 ปีการศึกษา 2555 ของโรงเรียนยอดนิยมและโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง ว่า ในปีนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) จะพยายามดำเนินการในเรื่องนี้ให้เป็นระบบ และมีแผนการรับที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ปกครองและนักเรียนมีข้อมูลในการตัดสินสมัครเข้าเรียนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการวางแผนและเตรียมตัว ซึ่งขณะนี้นักเรียนที่จะเข้าเรียนในชั้น ม.1 และม.4 นั้น โดยปกตินักเรียนก็มีที่นั่งเพียงพออยู่แล้ว แต่ปัญหาก็มักจะเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากค่านิยมและความเชื่อในโรงเรียนยอดนิยมจึงทำให้จำนวนของผู้สมัครสูงกว่าจำนวนที่นั่งของโรงเรียนที่จะรับได้ ซึ่งสพฐ.ได้สำรวจแล้วว่ามีโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงอยู่ประมาณ 290 แห่งทั้วประเทศ ซึ่งโรงเรียนเหล่านี้ก็จำเป็นที่จะต้องจัดสรรโอกาสในการคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียน จึงมีความจำเป็นที่ผู้ปกครองจะต้องได้รับทราบข้อมูลของโรงเรียนเหล่านี้
ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
เพื่อให้ผู้ปกครองและนักเรียน ได้ศึกษาข้อมูลเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนตัดสินใจ สพฐ.จะจัดงานมหกรรมตลาดนัดเรียนต่อ ชั้น ม.1,และ ม.4 ระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคม นี้ เพื่อให้ผู้ปกครองและนักเรียนได้รับทราบนโยบายและแนวทางในการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2555 โดยเฉพาะผู้ที่ประสงค์จะเข้าเรียนในโรงเรียนยอดนิยมและโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงได้ไปทดสอบสมรรถนะ หรือทดลองทำข้อสอบของโรงเรียนที่นักเรียนต้องการเข้าเรียนก่อนสอบจริง เนื่องจากโรงเรียนเหล่านี้จะสอบเพียงรอบเดียว ทั้งนักเรียนในเขตพื้นที่บริการและนักเรียนนอกเขตพื้นที่บริหาร และการรับเด็กนอกเขตพื้นที่บริการทางโรงเรียนก็จำเป็นต้องมีการสอบคัดเลือก ดังนั้น นักเรียนสามารถไปทดลองสอบความรู้ได้ก่อน เช่น ใครอยากเข้าสวนกุหลาบฯ เทพศิรินทร์ สตรีวิทยาฯ เตรียมอุดมฯ ก็สามารถไปทดลองสอบได้และข้อสอบจะออกโดยครูของร.ร.นั้น ๆ และจะรู้ผลทันทีว่านักเรียนสามารถทำคะแนนได้เท่าใด และคะแนนที่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่จะเข้าเรียนได้หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อให้นักเรียนมีข้อมูลที่ชัดเจนขึ้นในการประกอบการตัดสิตใจ” นายชินภัทร กล่าว

นายชินภัทร กล่าวถึงนโยบายการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ปีการศึกษา 2555 นี้ว่า สพฐ.กำหลังจัดทำแนวทางของปีการศึกษา 2555และ 2556 สำหรับของปีการศึกษา2555 นั้น คงยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักเนื่องจากได้ของบประมาณในการดำเนินการในเรื่องนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม หากจะมีการยืดหยุ่นก็จะต้องไปพิจารณาว่าจะสามารถยืดหยุ่นในจุดใดได้บ้าง สำหรับงบฯปีการศึกษา 2556 นั้น สพฐ.กำลังกำหนดสูตรในการจัดสรรเงินอุดหนุนรายหัวเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น โดยสพฐ.จะนำผลการวิจัยของม.ธรรมศาสตร์ มาพิจารณาประกอบในการกำหนดสูตรดังกล่าวนี้

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า สำหรับรายการที่รัฐจะจัดสรรให้นักเรียนยังคงมี 5 รายการเมือนเดิม ส่วนค่าพาหนะในการเดินทางให้กับนักเรียนเดิมมีอยู่แล้ว ดังนั้น ก็จะยังคงมีเหมือนเดิมต่อไป และขณะนี้ สพฐ.กำลังสำรวจการใช้ค่าพาหะนะที่จัดบริการไม่ปลอดภัย โดยดูการเดินทางของนักเรียนทั้งเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพรถที่ใช้รับ-ส่งนักเรียนที่มีสภาพเก่าและไม่จำกัดที่นั่ง จนเด็กต้องปีนขึ้นไปนั่งบนหลังคาทำให้เกิดอัตราย รวมถึงสำรวจโรงเรียนขนาดเล็กว่ามีการบริหารจัดการอย่างไร ดังนั้น สพฐ.จึงเปิดเป็นตัวช่วยไว้ หากโรงเรียนสามารถเคลื่อนย้ายนักเรียนไปเรียนในโรงเรียนเป็นกลุ่มก่อนกันมากขึ้น อย่างเช่น ที่แก่นจันทร์โมเดล หรือที่ จ.นครสวรรค์ ที่จัดให้เด็กไปเรียนในโรงเรียนที่มีความพร้อมมากกว่าได้ก็จะทำให้การแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กได้ด้วย

“การจะทำให้เกิดความเป็นธรรม เราจะต้องดูทั้งระดับตัวบุคคล ระดับโรงเรียนที่มีความขาดแคลน และพื้นที่ รวมถึงจะต้องทำนโยบายพิเศษขึ้นมา แต่ก็ยังคงรักษาการให้สิทธิกับทุกคน ส่วนที่เพิ่มการช่วยเหลือให้กับผู้ด้อยโอกาสนั้นก็เพื่อต้องการลดความเหลื่อมล้ำของนักเรียนและกลุ่มผู้ด้อยโอกาสให้มากขึ้น ดังนั้น หาก สพฐ.ใช้สูตรใหม่ในการอุดหนุน ก็คงไม่ต้องรณรงค์ให้ผู้ที่มีฐานะดีบริจาคให้กับคนยากจนอีกแล้ว เพราะคนที่มีฐานะดีก็ได้รับการอุดหนุนขั้นพื้นฐานไปตามสิทธิ ส่วนคนด้อยโอกาสก็จะได้รับการอุดหนุนเพิ่มขึ้น แต่จะได้รับเพิ่มเท่าใดนั้นจะต้องรอสูตรใหม่ที่จะนำมาใช้ด้วยว่าจะกำหนดจุดเริ่มต้นอยู่ที่เท่าไร ทั้งนี้ สพฐ.จะหารือกับสำนักงบฯ ว่าจะสามารถใช้ดัชนีค่าครองชีพมาประกอบการให้อุดหนุนเพิ่มได้หรือไม่ สำหรับปีการศึกษา 2556 เนื่องจากปีการศึกษา 2555 ไม่สามารถดำเนินการได้ทัน” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น