ครม.ไฟเขียวซื้อแท็บเล็ตจากจีนแบบรัฐต่อรัฐ แจกเด็ก ป.1 รับเปิดเทอมปี 55 พร้อมทำระบบไร้สาย 1.9 พันล้านบาท “ปู” สั่งคุมเข้ม ห่วงไม่ได้ตามสเปก หลังราคาถูกหั่นเหลือ 2,500 บาทต่อเครื่อง
วันนี้ (22 ก.พ.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จ.อุดรธานี นางฐิติมา ฉายแสง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอเรื่องขออนุมัติหลักการ งบประมาณในการดำเนินงานโครงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ให้แก่โรงเรียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยสำนักงบประมาณได้ตั้งงบประมาณสำหรับเบิกจ่ายเกินได้ ไว้ที่ 1,937 ล้านบาท ส่วนการจัดซื้อในปีต่อไปนั้นให้บรรจุไว้ใน พ.ร.บ.งบประมาณประจำปีงบประมาณ ปี 56 โดยให้งบประมาณของโครงการนี้เป็นงบประมาณแบบผูกพัน
“ส่วนราคาเครื่องละ 2,500 บาท จากเดิมเครื่องละ 3,000 บาท ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กังวลว่า ราคาเครื่องละ 2,500 บาท จะได้ตรงตามสเปกที่กำหนดเอาไว้หรือไม่ จึงขอให้กลับไปดูเทคโนโลยีให้มันมีความคุ้มค่าด้วย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ สั่งการให้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนนั้นยังไม่ได้กำหนดออกมา วันนี้เป็นการพิจารณาแค่กรอบ” นางฐิติมา กล่าว
นางฐิติมา กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางในการดำเนินการดังนี้ 1.อนุมัติจัดหาแท็บเล็ต ดำเนินการแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมอบผู้แทนกระทรวงต่างประเทศ ที่ รมว.ต่างประเทศแต่งตั้ง ให้เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยในการเจรจากับรัฐบาลจีน 2.อนุมัติในหลักการให้จัดหาในรูปแบบรัฐต่อรัฐกับรัฐบาลจีน ซึ่งรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนได้มีบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในสาขาการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศไทย และมอบให้ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศใช้รายละเอียดครุภัณฑ์คุณลักษณะเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นหลักในการเจรจากับจีน หากมีการเปลี่ยนแปลงให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาตกลงร่วมกัน เพื่อหาข้อยุติที่เหมาะสมกับการเรียนการสอนและสอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่ ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน
3.อนุมัติให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นผู้จัดหาเครื่อง จัดวางระบบเครือข่าย wi-fi และจัดทำระบบบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับโครงการ เนื่องจากมีบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจ และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะในด้านคอมพิวเตอร์ เป็นหน่วยงานที่ดูแลในด้านเครือข่ายและการวางระบบความปลอดภัยในการใช้เครื่องฯ โดยให้กระทรวงศึกษาฯเป็นผู้ดำเนินการพัฒนาหลักสูตร สื่อการเรียนการสอน การพัฒนาบุคลากร และสร้างความเข้าใจ เพื่อการใช้งานเครื่อง
4.อนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงไอซีที เป็นหน่วยงานเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี งบประมาณ 2555 ของส่วนราชการต่างๆ จำนวนเงิน 1,794 ล้านบาท ยกเว้นงบประมาณของกทม.และเมืองพัทยา เนื่องจากมีกฎหมายเฉพาะจึงให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้พิจารณาก่อน แต่ทั้งนี้ ในส่วนของสเปกและราคาของสินค้าในส่วนของกทม.และพัทยาต้องเหมือนกัน
**ครม.มอบบัวแก้วเจรจาจีนจัดหาแท็บเล็ตแบบจีทูจี
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวว่า ครม.ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศไปประสานงานกับรัฐบาลจีนต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานในวันที่ 23 ก.พ.นี้ ทันที โดยตั้งเป้าจะให้เด็ก ป.1 ได้ใช้แท็บเล็ตทันเปิดเทอมหน้า หรือ ปลายเดือนพฤษภาคมนี้
สำหรับการจัดหาแท็บเล็ตจำนวน 860,000 เครื่องนั้น เบื้องต้นได้กำหนดราคาต่อเครื่องไว้ที่ 3,100 บาท และราคาประกอบ 300 บาท รวมราคาแล้ว 3,400 บาท/เครื่อง ซึ่งเป็นราคาที่ตั้งขึ้น ยังไม่ใช่ราคาต่อรอง โดยงบประมาณเบื้องต้นอยู่ที่ 1,900 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณจัดสรรของปี 2555 หากไม่พอสามารถของบประมาณเพิ่มเติมได้
ทางด้านการกำหนดสเปกของแท็บเล็ตเด็ก ป.1 ที่ภาครัฐกำหนดไว้ คือ ขนาดจอแสดงผลขั้นต่ำ 7 นิ้ว ความละเอียดขั้นต่ำ 1024x768 Pixel หน่วยบันทึกข้อมูลนั้นขนาดไม่น้อยกว่า 16 GB หน่วยประมวลผลกลางไม่ต่ำกว่า 1 GHz และเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Dual Core และหน่วยความจำหลักไม่น้อยกว่า 512 MB
วันนี้ (22 ก.พ.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จ.อุดรธานี นางฐิติมา ฉายแสง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอเรื่องขออนุมัติหลักการ งบประมาณในการดำเนินงานโครงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้เครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ให้แก่โรงเรียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยสำนักงบประมาณได้ตั้งงบประมาณสำหรับเบิกจ่ายเกินได้ ไว้ที่ 1,937 ล้านบาท ส่วนการจัดซื้อในปีต่อไปนั้นให้บรรจุไว้ใน พ.ร.บ.งบประมาณประจำปีงบประมาณ ปี 56 โดยให้งบประมาณของโครงการนี้เป็นงบประมาณแบบผูกพัน
“ส่วนราคาเครื่องละ 2,500 บาท จากเดิมเครื่องละ 3,000 บาท ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กังวลว่า ราคาเครื่องละ 2,500 บาท จะได้ตรงตามสเปกที่กำหนดเอาไว้หรือไม่ จึงขอให้กลับไปดูเทคโนโลยีให้มันมีความคุ้มค่าด้วย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ สั่งการให้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนนั้นยังไม่ได้กำหนดออกมา วันนี้เป็นการพิจารณาแค่กรอบ” นางฐิติมา กล่าว
นางฐิติมา กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางในการดำเนินการดังนี้ 1.อนุมัติจัดหาแท็บเล็ต ดำเนินการแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมอบผู้แทนกระทรวงต่างประเทศ ที่ รมว.ต่างประเทศแต่งตั้ง ให้เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยในการเจรจากับรัฐบาลจีน 2.อนุมัติในหลักการให้จัดหาในรูปแบบรัฐต่อรัฐกับรัฐบาลจีน ซึ่งรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนได้มีบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในสาขาการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศไทย และมอบให้ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศใช้รายละเอียดครุภัณฑ์คุณลักษณะเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นหลักในการเจรจากับจีน หากมีการเปลี่ยนแปลงให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาตกลงร่วมกัน เพื่อหาข้อยุติที่เหมาะสมกับการเรียนการสอนและสอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่ ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน
3.อนุมัติให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นผู้จัดหาเครื่อง จัดวางระบบเครือข่าย wi-fi และจัดทำระบบบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับโครงการ เนื่องจากมีบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจ และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะในด้านคอมพิวเตอร์ เป็นหน่วยงานที่ดูแลในด้านเครือข่ายและการวางระบบความปลอดภัยในการใช้เครื่องฯ โดยให้กระทรวงศึกษาฯเป็นผู้ดำเนินการพัฒนาหลักสูตร สื่อการเรียนการสอน การพัฒนาบุคลากร และสร้างความเข้าใจ เพื่อการใช้งานเครื่อง
4.อนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงไอซีที เป็นหน่วยงานเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี งบประมาณ 2555 ของส่วนราชการต่างๆ จำนวนเงิน 1,794 ล้านบาท ยกเว้นงบประมาณของกทม.และเมืองพัทยา เนื่องจากมีกฎหมายเฉพาะจึงให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้พิจารณาก่อน แต่ทั้งนี้ ในส่วนของสเปกและราคาของสินค้าในส่วนของกทม.และพัทยาต้องเหมือนกัน
**ครม.มอบบัวแก้วเจรจาจีนจัดหาแท็บเล็ตแบบจีทูจี
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวว่า ครม.ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศไปประสานงานกับรัฐบาลจีนต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานในวันที่ 23 ก.พ.นี้ ทันที โดยตั้งเป้าจะให้เด็ก ป.1 ได้ใช้แท็บเล็ตทันเปิดเทอมหน้า หรือ ปลายเดือนพฤษภาคมนี้
สำหรับการจัดหาแท็บเล็ตจำนวน 860,000 เครื่องนั้น เบื้องต้นได้กำหนดราคาต่อเครื่องไว้ที่ 3,100 บาท และราคาประกอบ 300 บาท รวมราคาแล้ว 3,400 บาท/เครื่อง ซึ่งเป็นราคาที่ตั้งขึ้น ยังไม่ใช่ราคาต่อรอง โดยงบประมาณเบื้องต้นอยู่ที่ 1,900 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณจัดสรรของปี 2555 หากไม่พอสามารถของบประมาณเพิ่มเติมได้
ทางด้านการกำหนดสเปกของแท็บเล็ตเด็ก ป.1 ที่ภาครัฐกำหนดไว้ คือ ขนาดจอแสดงผลขั้นต่ำ 7 นิ้ว ความละเอียดขั้นต่ำ 1024x768 Pixel หน่วยบันทึกข้อมูลนั้นขนาดไม่น้อยกว่า 16 GB หน่วยประมวลผลกลางไม่ต่ำกว่า 1 GHz และเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Dual Core และหน่วยความจำหลักไม่น้อยกว่า 512 MB