รก.ผอ.องค์การค้าฯ ให้คำมั่นจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์ พร้อมเผยรับข้อเสนอจากทางสหภาพฯ และตกลงร่วมกันจะทำงานด้วยความปรองดอง และสร้างภาพลักษณ์ อค.สกสค.ให้ดีขึ้น เรียกความเชื่อมั่นจากภายนอก
นายบำเหน็จ ทิพย์อักษร รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ในฐานะรักษาการผู้อำนวยองค์การค้าของ สกสค.เปิดเผยว่า ภายหลังได้รับคำสั่งให้มารักษาการตำแหน่ง ผอ.อค.สกสค.นั้น สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภาได้ยื่นข้อเรียกร้องมาถึงตน 6 ข้อ ดังนี้ 1.ขอให้อนุญาตตามคำขอของสหภาพฯในการใช้สิทธิขออนุญาตตามกฎหมาย หรือ ตามสภาพการจ้าง หรือ ตามสัญญาข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีอยู่เดิม 2.ขอให้สหภาพใช้ห้องสำนักงานสหภาพแรงงาน และห้องประชุมสหภาพฯตามสิทธิและสัญญาข้อตกลง 3.ให้เร่งรัดการดำเนินการสอบสวนทางวินัยพนักงานเจ้าหน้าที่ที่แจ้งความจำนงจะออกจากงาน หรือผู้ที่จะเกษียณอายุให้แล้วเสร็จโดยเร็ว 4.เร่งรีบหาแนวทางการจ่ายบำเหน็จให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ออกจากงานหรือผู้เกษียณอายุโดยเร็ว 5.เร่งบรรจุเจ้าหน้าที่ในโครงการอัตราจ้างรายปีที่มีความรู้ความสามารถและมีผลการปฏิบัติงานที่ดีครบ 2 ปี และ 6.ขอให้หาแนวทางให้เจ้าหน้าที่ที่เต็มขั้นในตำแหน่งได้รับการพิจารณาปรับระดับเลื่อนไหลในอัตราเงินเดือนที่เต็มขั้นต่อไปได้
“จากการหารือร่วมกันได้มีข้อตกลงร่วมกันว่าในการดำเนินการจะยึดมั่นในวิถีทำงานด้วยความปรองดอง ให้ทุกฝ่ายทำงานอย่างเต็มความรู้ความสามารถ เพื่อสามารถหารายได้มาเลี้ยงตัวเอง และมีผลกำไรให้แก่ อค.สกสค.รวมถึงเพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรและเป็นที่เชื่อมั่นต่อทั้งส่วนราชการภาครัฐ เอกชน และสาธารณะ ส่วนข้อเรียกร้องข้อ 5 และ 6 นั้น ผมได้ชี้แจงว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของบอร์ด สกสค.หากมีข้อสรุปและข้อคิดเห็นอย่างไร อค.สกสค.จะดำเนินการไปตามนั้น” นายบำเหน็จ กล่าวและว่า สำหรับกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ชี้มูลการทุจริตการจัดพิมพ์หนังสือขององค์การค้าฯ นั้น ขณะนี้บอร์ด สกสค.ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว โดยรวมถึงกรณีการขายที่ดินที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วย อย่างไรก็ตาม ในฐานะรักษาการ ผอ.อค.สกสค.ตนจะทำงานความซื่อสัตย์สุจริต จะไม่ให้มีเรื่องการทุจริตเกิดขึ้นในองค์การค้าอีกต่อไป
นายบำเหน็จ ทิพย์อักษร รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ในฐานะรักษาการผู้อำนวยองค์การค้าของ สกสค.เปิดเผยว่า ภายหลังได้รับคำสั่งให้มารักษาการตำแหน่ง ผอ.อค.สกสค.นั้น สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภาได้ยื่นข้อเรียกร้องมาถึงตน 6 ข้อ ดังนี้ 1.ขอให้อนุญาตตามคำขอของสหภาพฯในการใช้สิทธิขออนุญาตตามกฎหมาย หรือ ตามสภาพการจ้าง หรือ ตามสัญญาข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีอยู่เดิม 2.ขอให้สหภาพใช้ห้องสำนักงานสหภาพแรงงาน และห้องประชุมสหภาพฯตามสิทธิและสัญญาข้อตกลง 3.ให้เร่งรัดการดำเนินการสอบสวนทางวินัยพนักงานเจ้าหน้าที่ที่แจ้งความจำนงจะออกจากงาน หรือผู้ที่จะเกษียณอายุให้แล้วเสร็จโดยเร็ว 4.เร่งรีบหาแนวทางการจ่ายบำเหน็จให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ออกจากงานหรือผู้เกษียณอายุโดยเร็ว 5.เร่งบรรจุเจ้าหน้าที่ในโครงการอัตราจ้างรายปีที่มีความรู้ความสามารถและมีผลการปฏิบัติงานที่ดีครบ 2 ปี และ 6.ขอให้หาแนวทางให้เจ้าหน้าที่ที่เต็มขั้นในตำแหน่งได้รับการพิจารณาปรับระดับเลื่อนไหลในอัตราเงินเดือนที่เต็มขั้นต่อไปได้
“จากการหารือร่วมกันได้มีข้อตกลงร่วมกันว่าในการดำเนินการจะยึดมั่นในวิถีทำงานด้วยความปรองดอง ให้ทุกฝ่ายทำงานอย่างเต็มความรู้ความสามารถ เพื่อสามารถหารายได้มาเลี้ยงตัวเอง และมีผลกำไรให้แก่ อค.สกสค.รวมถึงเพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรและเป็นที่เชื่อมั่นต่อทั้งส่วนราชการภาครัฐ เอกชน และสาธารณะ ส่วนข้อเรียกร้องข้อ 5 และ 6 นั้น ผมได้ชี้แจงว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของบอร์ด สกสค.หากมีข้อสรุปและข้อคิดเห็นอย่างไร อค.สกสค.จะดำเนินการไปตามนั้น” นายบำเหน็จ กล่าวและว่า สำหรับกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ชี้มูลการทุจริตการจัดพิมพ์หนังสือขององค์การค้าฯ นั้น ขณะนี้บอร์ด สกสค.ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว โดยรวมถึงกรณีการขายที่ดินที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วย อย่างไรก็ตาม ในฐานะรักษาการ ผอ.อค.สกสค.ตนจะทำงานความซื่อสัตย์สุจริต จะไม่ให้มีเรื่องการทุจริตเกิดขึ้นในองค์การค้าอีกต่อไป