มติบอร์ด สกสค.เด้ง “สันติภาพ” พ้นองค์การค้าชั่วคราว

มติบอร์ด สกสค.เด้ง “สันติภาพ” พ้นองค์การค้าชั่วคราว ตั้ง “บำเหน็จ” ขึ้นรักษาการแทน และมอบ “ดนัย” เป็นประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เวลาทำงาน 2 เดือน ด้าน “สันติภาพ” น้อมรับมติบอร์ด แต่จะหยุดทำงานต่อเมื่อมีคำสั่งจากเลขาธิการ สกสค.เท่านั้น

ตามที่กลุ่มสหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภา นำโดย นายอารีย์ สืบวงศ์ ประธานสหภาพฯ จำนวนกว่า 200 คนได้มาชุมนุมที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) วานนี้ (15 ก.พ.) เพื่อเรียกร้องให้ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ใช้อำนาจสั่งย้าย นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ ผู้อำนวยการองค์การค้า สกสค.โดย ศ.ดร.สุชาติ ได้โทรศัพท์สั่งการให้ น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ดำเนินการ

วันนี้ (16 ก.พ.) น.ส.ศศิธารา กล่าวภายหลังประชุมบอร์ด สกสค.นัดพิเศษ เพื่อพิจารณากรณีที่สหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภา ได้เรียกร้องให้ย้าย นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ ออกจากโรงพิมพ์องค์การค้า สกสค.ว่า บอร์ด สกสค.มีมติให้ นายสันติภาพ ออกจากตำแหน่ง ผอ.องค์การค้า สกสค.ชั่วคราว และไปช่วยราชการที่สำนักงาน สกสค.และให้ นายบำเหน็จ ทิพย์อักษร รองเลขาธิการ สกสค. รักษาการ ผอ.องค์การค้าแทน เพื่อเปิดทางให้กับการสอบสวนข้อเท็จจริงซึ่งมีการร้องเรียนหลายเรื่อง เช่น การซื้อขายที่ดิน จ.สุราษฎร์ธานี และการซื้อขายหนังสือเรียนและอุปกรณ์การเรียนให้กับกองทุนครอบครัวข่าว 3 เป็นต้น

ทั้งนี้ บอร์ด สกสค.ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีการร้องเรียนต่างๆ เรียบร้อยแล้ว โดยมีนายดนัย มหิพันธ์ รองเลขาธิการ สกสค.เป็นประธาน และมีนิติกร ฝ่ายกฎหมายจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สกสค.และกรรมการบอร์ด สกสค.ร่วมเป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยให้เวลาในการตรวจสอบ 2 เดือนซึ่งต้องรายงานผลภายในวันที่ 30 เมษายนนี้ อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (17 ก.พ.) ตนจะเดินทางไปโรงพิมพ์องค์การค้า สกสค.เพื่อประชุมร่วมกับ นายสันติภาพ และสหภาพฯเพื่อเปิดโอกาสรับฟังข้อมูลจากสองฝ่าย ทั้งนี้ นายสันติภาพ จะต้องออกจากตำแหน่งหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรรมการ

ด้าน นายสันติภาพ กล่าวว่า ถ้าเป็นมติบอร์ดตนก็ยินดีทำตามเพราะบอร์ด สกสค.เป็นนายจ้าง แต่คำสั่งที่จะมีผลให้ตนหยุดปฏิบัติหน้าที่จะมีผลก็ต่อเมื่อนายเกษม กลั่นยิ่ง เลขาธิการ สกสค.เป็นผู้ลงนามเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมให้ตรวจสอบ และพร้อมตอบทุกคำถาม และยืนยันว่า ไม่เคยทุจริต เพราะตนมีธุรกิจส่วนตัวที่มีรายได้มากอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องโกงกิน