บอร์ด สกสค.มีมติระงับการซื้อที่ดิน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมตั้ง กก.2 ชุดศึกษาด้าน กม.และประเมินประโยชน์ และให้รายงานวันที่ 1 ก.พ.นี้ “ศศิธารา” ในฐานะประธานบอร์ด ชี้ “สันติภาพ” เข้าใจว่า ที่ดินเป็นทรัพย์สินองค์การค้าฯ ในฐานะ ผอ.จึงมีสิทธิดำเนินการ
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า บอร์ด สกสค.ได้หารือเรื่องที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินของ องค์การค้า (อค.) สกสค.ซึ่ง 1 ในนั้นมีที่ดินในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 48 ไร่ ที่มีข่าวออกมาว่า นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ ผู้อำนวยการ อค.สกสค.ได้ขายไปในราคา 47 ล้านบาท แต่ต้นทุนเดิมนั้นซื้อมาในราคา 12 ล้านบาท โดยขณะนี้ได้ทำสัญญาใช้จ่ายไว้เพียง 3 ล้านบาทและยืดเวลาให้ 9 เดือนในการชำระส่วนที่เหลือ 33 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กว้างขวางเนื่องจากการขายที่ดินใดก็ตาม บอร์ด สกสค.จะมีการส่งคณะกรรมการไปประเมินแล้วมารายงานต่อบอร์ด สกสค.ก่อนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อมีมติว่าอนุมัติให้ขายได้หรือไม่ แต่กรณีที่ดิน จ.สุราษฎร์ธานี ที่ นายสันติภาพ ขายไปนั้นยังไม่ได้ผ่านการประเมินและยังไม่มีมติบอร์ด สกสค.อนุมัติให้ดำเนินการ เมื่อตรวจสอบพบว่า เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการตีความระหว่าง นายสันติภาพ และ บอร์ด สกสค.โดย นายสันติภาพ ตีความว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของ อค.สกสค.ในฐานะ ผอ.อค.สกสค.เห็นว่าหากขายและดำเนินการเพื่อประโยชน์ของ อค.สกสค.อย่างไรก็ตาม บอร์ด สกสค.จึงมีมติให้หยุดกระบวนการซื้อขายออกไปก่อน และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด โดยชุดแรกให้มีนิติกร ของ สกสค.ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ทางกฎหมายไปศึกษา และชุดที่ 2 ให้มีคณะกรรมการไปประเมินดูที่ดินและศึกษาดูว่าการขายนั้นได้หรือไม่ได้ประโยชน์ต่อ อค.สกสค. จากนั้นให้นำมารายงานต่อที่ประชุมบอร์ด สกสค.วันที่ 1 ก.พ.นี้
“การตีความว่าใครมีอำนาจในการขายนั้นยังไม่มีข้อสรุป จึงได้ให้หยุดการซื้อขายไปก่อนและรอดูการวิเคราะห์ข้อมูลจากกรรมการทั้ง 2 ชุดว่าที่ดินนั้นจะนำมารวมเป็นกรณีเดียวกันได้หรือไม่”น.ส.ศศิธารา กล่าว
ถามว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน นายสันติภาพหรือไม่ น.ส.ศศิธารา กล่าวว่า ต้องรอดูรายงานจากคณะกรรมการ 2 ชุดก่อนจึงจะสามารถบอกได้ ส่วนที่มีการตกลงซื้อขายไปก่อนหน้านั้น หากผู้ซื้อต้องการฟ้องร้องก็ต้องไปฟ้องร้องต่อตัวนายสันติภาพ ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาซื้อขายร่วมกัน
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงใน สกสค.เปิดเผยว่า นายสันติภาพ รู้อยู่แล้วว่าการซื้อขายที่ดินเป็นอำนาจของ คณะกรรมการ สกสค.มิใช่อำนาจของ ผอ.อค.สกสค.การกระทำของนายสันติภาพ จึงเป็นการละเมิดอำนาจคณะกรรมการ สกสกค.โดยปกติ ต้องตั้งกรรมการสอบวินัย และสั่งพักงานนายสันติภาพ เลย แต่ นางศศิธารา กลับชิงเสนอตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อหาทางออกให้นายสันติภาพ เนื่องจากมีความสนิทสนมกัน ทั้งนายสันติภาพยังเคยกล่าวกับคนใกล้ชิด ว่า สมัยที่ตนเป็น ส.ว.เคยช่วยเหลือนางศศิธาราให้มีความก้าวหน้าในทางราชการ