บอร์ด สกสค.เดินหน้าแจกหนังสือค้างโกดังขององค์การค้าฯ กว่า 2 ล้านเล่มต่อ เริ่ม 29 ธ.ค.นี้ เพื่อให้เด็กที่น้ำท่วมได้ใช้ประโยชน์ในการเรียน และตั้งคณะทำงานไปร่วมตรวจสอบข้อมูลกับองค์การค้าฯ อีกครั้ง 28 ธ.ค.นี้ พร้อมลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจไว้เป็นหลักฐานยันการเดินหน้าหาคนรับผิดชอบสั่งพิมพ์เกินจำนวน จนกลายเป็นหนี้ถึง 138 ล้านต่อ
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงกรณีที่บอร์ด สกสค.ได้มีมติในการประชุมครั้งก่อนให้องค์การค้า ของ สกสค.นำหนังสือเรียนตามหลักสูตรเก่าที่จัดพิมพ์ตั้งแต่ปี 2552-54 แต่จำหน่ายไม่หมดเหลือค้างโกดังกว่า 2 ล้านเล่ม มูลค่าต้นทุน 138 ล้านบาท ซึ่งแม้จะเป็นหนังสือตามหลักสูตรเก่าแต่เนื้อหาประมาณ 85% ยังใช้ได้อยู่ ถ้านำไปแจกฟรีให้กับนักเรียนที่ประสบภัยแล้ว นอกจากจะเป็นการประหยัดแล้วยังช่วยอำนวยความสะดวกให้นักเรียนมีหนังสือเรียนใช้ทันเปิดภาคเรียนด้วย เพราะการจัดซื้อหนังสือใหม่หลังน้ำท่วมให้ทันเปิดภาคเรียนนั้น ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ลำบาก
อย่างไรก็ตาม ศธ.ได้เตรียมการแจกหนังสือเหล่านี้ตั้งแต่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่มีอันต้องเลื่อนออกไปเพราะตนได้รับหนังสือร้องเรียนจากนายธรรมนูญ ฤทธิรัตน์ อดีตที่ปรึกษาขององค์การค้าฯ ว่า หนังสือที่เหลือค้างโกดังนั้น เกิดจากความผิดพลาดในการสั่งพิมพ์เกินจำนวนจึงจำหน่ายไม่หมด ต้องมีการสอบสวนว่าเป็นความผิดของใคร หากนำหนังสือเหล่านี้ไปแจกจ่ายจนหมดก็เท่ากับเป็นการทำลายหลักฐานและอาจจะมีการนำหนังสือรายการอื่น ๆ แทรกเข้ามาด้วย จึงขอให้ ศธ.ระงับการแจกออกไปก่อน เพราะฉะนั้น เพื่อความรอบคอบ ตนจึงได้หารือกับ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ขอให้ชะลอการแจกหนังสือไปก่อนเพื่อให้มีการตรวจสอบ
“ในที่ประชุมบอร์ด สกสค.วันนี้ ได้มีการอภิปรายกันกว้างขวาง และยืนยันว่า ควรนำหนังสือไปแจกให้นักเรียนที่ประสบภัยจะเป็นประโยชน์กว่าเก็บไว้ในโกดังต่อไป โรงเรียนจะได้ไม่ต้องไปจัดซื้อใหม่ให้สิ้นเปลืองงบฯ และหากยิ่งแจกให้เด็กช้าหนังสือก็ยิ่งตกรุ่นไปอีก กทั้ง กรณีของนายธรรมนูญ นั้น ที่ประชุมเห็นว่า เมื่อครั้งนายธรรมนูญ อยู่ที่องค์การค้าฯ ก็ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องหนังสือเรียนดังกล่าวแต่เจ้าตัวถูก นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ ผอ.องค์การค้าฯ ได้ปลดนายธรรมนูญออกจากตำแหน่ง จึงพยายามโยงเรื่องนี้ไปเกี่ยวข้องกับการแจกหนังสือเรียนให้เด็กที่ประสบภัย เพราะฉะนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้แจกหนังสือต่อ โดยให้เริ่มแจกตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.นี้” น.ส.ศศิธารา กล่าว
ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะแจกหนังสือเรียน บอร์ด สกสค.มีมติให้มมีการตรวจสอบ บันทึกข้อมูลหนังสือเรียนที่ค้างโกดังไว้เป็นหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ โดยได้ตั้งคณะทำงานของ สกสค.ไปร่วมตรวจสอบกับองค์การค้า และให้เชิญนายธรรมนูญมาร่วมตรวจสอบด้วย พร้อมให้ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจเพื่อมารับทราบและถ่ายรูปหนังสือ ดังกล่าวเป็นหลักฐานเก็บไว้ใช้ในการสอบสวนต่อไป หากไม่มีอะไรติดขัดก็จะเดินหน้าแจกหนังสือตามกำหนด 29 ธ.ค.นี้
“ยืนยันว่า การหาสาเหตุและผู้รับผิดชอบกรณีที่มีการสั่งพิมพ์หนังสือเรียนเกินจำนวนจนองค์การค้าต้องขาดทุน 138 ล้านบาท ยังคงดำเนินต่อไป แต่ไม่จำเป็นต้องเก็บหนังสือไว้เป็นโกดัง เป็นเข่ง เพื่อเป็นของกลาง หลักฐานสอบสวน มีระบบวิธีเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากมาย และอาจเก็บเป็นตัวอย่างหนังสือไว้” น.ส.ศศิธารา กล่าว