“มงคลกิตติ์” ยื่น ป.ป.ช.ขออายัดเงิน ผอ.เตรียมน้อม คนใกล้ชิด โยกย้าย “ชินภัทร-ผอ.เตรียมน้อม” ไปประจำสำนักนายก นั่งเก้าอี้ ผอ.โรงเรียนชายแดนใต้ ระบุ 26 มิ.ย. ยื่น ป.ป.ช.เช็กบิล ผอ.ร.ร.10 แห่ง ร่ำรวยผิดปกติ
วันนี้ (10 มิ.ย.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ กล่าวว่า เมื่อเช้านี้ ผมเดินทางไปคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปยื่นหนังสือซึ่ง ป.ป.ช.ได้รับเรื่องแล้ว เพราะเรื่องนี้สำคัญมากและเป็นเรื่องสะเทือนจิตใจพี่น้องประชาชนอย่างมาก เนื่องจากทุกคนก็มีบุตรหลานกันทุกคน เพราะฉะนั้นผลกระทบเป็นวงกว้าง อาจจะเป็นเรื่องเล็กแต่เมื่อรวมตัวเลขการทุจริตคอรัปชั่นแล้วเป็นจำนวนมหาศาล สำหรับเรื่องที่ยื่น ป.ป.ช.มี 3 เรื่อง คือ 1.ขอความอนุเคราะห์ให้ตั้งหน่วยเฉพาะกิจประสานงานร่วมกันระหว่าง ป.ป.ช., ปปง., ป.ป.ท., ดีเอสไอ, สตง., ภตช.(องค์กรภาคประชาชน) อายัดบัญชีทรัพย์สินของผู้อำนวยการโรงเรียน บัญชีเงินเถื่อนจากการระดมทรัพยากรนอกระบบของโรงเรียน เช็กเส้นทางการเงินของญาติพี่น้องที่เกี่ยวข้อง ขึ้นบน 3 ชั่วโคตร ลงล่าง 3 ชั่วโคตร และผู้ใกล้ชิดผู้บริหารเฉพาะโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง 366 โรงเรียน เฉพาะรายที่ร่ำรวยผิดปกติ อายัดเอาไว้ตรวจสอบก่อน ถ้าเช็กแล้วถูกต้องสุจริตเอาเงินไปใช้ได้ ถ้าเช็กแล้วแสดงที่มาที่ไปไม่ได้ก็ให้อายัดเงินไว้ก่อน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
2.ตรวจสอบ กรณี นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปล่อยปละละเลยหน้าที่ของตนเองไม่ควบคุมดูแลการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2554 ให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมจนเกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน และไม่ปฏิบัติตามนโยบายอย่างเต็มความสามารถ ของ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตรงตามประมวลกฎหมาอาญามาตรา 157
3.ตรวจสอบกรณี นายสรายุทธ ฟูทรัพย์นิรันดร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เลือกปฏิบัติไม่มีความเป็นกลางจนทำให้ นายเนติรัฐ ศรีอรัญ เสียสิทธิการเข้าศึกษาต่อ ม.4 ดังสิทธิเดิมที่ควรได้รับ
นายมงคลกิตติ์ ได้ยื่นหนังสือถึง รมว.ศธ.เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ข้าราชการไปช่วยราชการ เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ขอให้ นายชินภัทร ช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือไปรักษาราชการกำกับโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้นายสรายุทธ ไปช่วยราชการประจำกระทรวงศึกษาธิการ หรือไปรักษาราชการผู้อำนวยการโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ขาดแคลน เพื่อเป็นการชดเชยความผิดที่ได้กระทำไว้
“ผมจะไม่โต้แย้งในเรื่องที่เป็นประเด็นส่วนตัว ผอ.สรายุทธ กล่าวหาว่า ฝากเด็กไม่ได้แล้วโวยวาย ผมทำหนังสือซึ่งเป็นตัวอย่างหนังสือขอความอนุเคราะห์เพื่อความยุติธรรม ต่างจากอนุเคราะห์เพื่อฝากเด็กมันคนละเรื่องกัน” นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เราเช็กได้ว่า ไม่ใช่ไปฝากเรียนอีกแห่งหนึ่ง เช่น สมาคมเคยฝากเด็กได้ 5 คน ภายหลังมีนโยบายรับเด็กอ้อมด้านหลังได้ จึงขยายโควตาผู้มีอุปการคุณ เป็น15-20 ตำแหน่ง หมายความว่ามากกว่าเดิม ซึ่งโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงจะดำเนินการประมาณนี้ หรือประมาณ 60% ใช้วิธีนี้
นายมงคลกิตติ์ ให้เหตุผลในการย้ายผู้บริหาร 2 คนออกไปก่อน ว่า การตรวจสอบต้องใช้หน่วยงานภายนอกตรวจสอบเพื่อความบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นดีเอสไอ, ป.ป.ท., ป.ป.ช.และหน่วยงานภาคประชาชน เพื่อให้ความจริงได้ประจักษ์แก่สังคมว่าการทุจริตคอร์รัปชันโดยเฉพาะการรับนักเรียน ซึ่งไม่ยุติธรรมกับสังคมไทยจริงๆ ผมไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เพราะ เลขาธิการ กพฐ.และ ผอ.เตรียมอุดมน้อมเกล้า ทำงานกันมานาน ผมไม่อยากให้ผิดถึงขนาดออกจากราชการ แต่อยากให้ข้าราชการไทยมีสำนึกกันบ้าง เพราะเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า วันที่ 20 มิ.ย.จะทำบุญที่วัดชนะสงคราม เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ชาติบ้านเมืองพ้นจากภัยอันตรายจากการทุจริตคอร์รัปชัน เหตุที่ต้องไปวัดชนะฯ เพราะนี่คือส งครามการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น หลังจากนั้นจะทำพิธีสาปแช่งผู้ที่ทุจริตคอรัปชั่นให้หมดไป เราจะไม่ประนีประนอมและไม่ยอมให้ใครมาปู้ยี่ปู้ยำอีกต่อไป
นายมงคลกิตติ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า วันที่ 26 มิ.ย.จะไปยื่นหนังสือ ป.ป.ช.ฟ้องผู้บริหารสถานศึกษา ประมาณ 10 ราย ซึ่งร่ำรวยผิดปกติ มีรถเบนซ์ เครื่องเพชรเต็มตัว ส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารในกรุงเทพฯ
