รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย ขณะนี้ประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอัตราป่วยจากโรคมะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดี สูงที่สุดในโลก พบได้ 30-40 คนต่อประชากรทุก 1แสนคน เตรียมผลักดันโครงการแก้ไข เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และมีแผนจัดหาเครื่องตรวจหามะเร็ง 2 ชนิดนี้ ในโรงพยาบาลชุมชน เชื่อมั่นว่า จะรักษาชีวิตประชาชนได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50
นายแพทย์ สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ประชาชนไทย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสาน กำลังเผชิญกับปัญหาโรคมะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดี จากการประชุมร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา มีการเสนอข้อมูลน่าสนใจ พบว่าอัตราการป่วยจากโรคมะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดี เมื่อเทียบกับประชากรทุก 100,000 คน กา ซึ่งค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 1-2 คน แต่สำหรับประเทศไทยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 10-15 คน โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบอัตราป่วยมะเร็งชนิดนี้สูง 30-40 คน มากกว่าที่ใดๆ ในโลก ยิ่งไปกว่านี้ ในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป จะมีอัตราเกิดโรคมะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดีสูงถึงประมาณ 80 คนต่อแสนประชากร ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น่าตกใจ จัดว่าเป็นปัญหาของภาคนี้โดยตรง ต้องเร่งแก้ไขเป็นการด่วน
นายแพทย์ สุรวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดทำโครงการตรวจหาผู้ป่วยโรคมะเร็งทั้ง 2 ชนิดนี้ ร่วมกับโรงพยาบาลศูนย์ของกระทรวงสาธารณสุข 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลอุดรธานี โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี และโรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา ซึ่งจะขยายเครือข่ายลงสู่โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด
“ในอนาคต จะเสนอแผนจัดหาเครื่องอัลตร้าซาวด์แบบดิจิตอลตรวจหาโรคมะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดี และโรคอื่นๆ เช่น โรคนิ่ว ในโรงพยาบาลชุมชน ที่มีราคาไม่สูงมากนัก ราคาประมาณเครื่องละ 500,000- 800,000 บาท จะทำให้เราสามารถตรวจหามะเร็ง 2 ชนิดนี้ได้เร็วขึ้น การรักษาก็จะได้ผลมากกว่าเดิม ซึ่งปัจจุบันอัตราการรอดชีวิตหลังรักษาต่ำกว่าร้อยละ 10 แต่หากเราสามารถตรวจและรู้ได้เร็ว ให้การรักษาเร็ว จะทำให้การรักษาได้ผลเพิ่มขึ้น อัตราตายภายใน 10 ปีอาจลดลงได้ถึงร้อยละ 50 ก็ได้ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะนำเสนอรัฐบาล เพื่อเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วน ระดับต้นๆ ที่ต้องทำการรณรงค์ป้องกัน โดยเน้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” นายแพทย์ สุรวิทย์ กล่าว
นายแพทย์ สุรวิทย์ กล่าวต่ออีกว่า สาเหตุของของโรคมะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งตับ เชื่อว่า เกิดมาจากพฤติกรรมการกินปลาดิบจำพวกปลาน้ำจืดที่มีเกล็ด ทำให้เกิดพยาธิใบไม้ในตับ นอกจากนี้ ประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังชอบกินปลาร้าดิบที่อาจมีสารก่อมะเร็งชนิดนี้ ดังนั้น แนวทางแก้ไขปัญหาจะต้องเริ่มที่การเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร โดยขณะนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ทำโครงการรณรงค์เรื่องนี้อย่างกว้างขวาง ในระดับโรงเรียน ได้จัดทำหลักสูตรเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารในกลุ่มเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ส่วนในกลุ่มประชาชน จะอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อย่างเข้มข้นในเรื่องการแนะนำ การรณรงค์ชาวบ้าน ไม่ให้กินอาหารสุกๆ ดิบๆ หรือปลาร้าดิบ