รมช.สธ.เตรียมเสนอตั้ง “ศูนย์เมดิคัลฮับ” ใน มข. พร้อมให้บริการรักษาประชาชนทุกโรค ใช้งบลงทุน 4,000 ล้านบาท พร้อมนำเสนอที่ประชุม ครม.สัญจรที่อุดรวันที่ 21-22 ก.พ.นี้
นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมหารือกับคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น เมื่อเช้าวันนี้ (5 ก.พ.) ว่า ผลการหารือจะมีการจัดตั้งศูนย์บริการทางการแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางระดับสูง หรือเมดิคัลฮับ (Medical Hub) ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อขยายการให้บริการในระดับเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะทางทุกสาขา สำหรับประชาชนไทยและต่างชาติ ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดตั้งศูนย์บริการระดับเชี่ยวชาญเฉพาะทางดังกล่าวแล้ว ที่ภาคกลาง ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ภาคเหนือได้เตรียมการที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาคใต้ได้จัดเตรียมและดำเนินการตั้งแล้วที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
“โครงการจัดตั้งศูนย์บริการทางการแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางระดับสูงของมหาวิทยาลัยขอนแก่นนี้ จัดเป็นโครงการหนึ่งของจังหวัดขอนแก่น โดยจะใช้งบประมาณทั้งหมด 4,000 ล้านบาท โดยทางโรงพยาบาลศรีนครินทร์ฯ คาดว่าจะช่วยเหลือตัวเองได้ประมาณ 1,600 ล้านบาท และที่เหลืออีกประมาณ 2,400 ล้านบาท ผมจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ซึ่งจะประชุมที่จังหวัดอุดรธานีในวันที่ 21-22 กุมภาพันธ์ 2555 ที่จะถึงนี้ เพื่อขอสนับสนุนจากงบประมาณรัฐบาล โดยแบ่งออกเป็น 4 ปี ในปีแรกใช้ประมาณ 500 ล้านบาท หรือร้อยละ 10-20 ของงบ 2,4 00 ล้านบาท ” นพ.สุรวิทย์กล่าว
ทั้งนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) จัดว่าเป็นภาคที่มีประชากรประมาณ 22-23 ล้านคน มากกว่าภาคอื่นๆ โดยขณะนี้โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความพร้อมในการรับส่งต่อผู้ป่วย ศักยภาพการรักษาเป็นที่ยอมรับ สามารถให้การรักษาผู้ป่วยได้ทุกโรคทุกคน ไม่จำเป็นต้องส่งไปรักษาต่อที่กรุงเทพมหานครแล้ว นอกจากนี้ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงไม่ว่าจะเป็นพม่า ลาว จีนตอนใต้ กัมพูชา และเวียดนาม ยังมีความต้องการเข้ามารักษาที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นด้วย และในโอกาสที่ประเทศไทย จะเข้าร่วมเป็นสมาคมอาเซียน ทำให้การหมุนเวียน การแลกเปลี่ยนกำลังคน กำลังแรงงานจะมีมากขึ้น มหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงเห็นสมควรขยายการเปิดบริการทางการแพทย์ระดับเชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือเมดดิคัลฮับขึ้น ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมทั้งสถานที่ บุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และมีศักยภาพในการขยายเครือข่ายทั้งโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลเอกชน และมีผู้ที่จะร่วมทุนอีกส่วนหนึ่ง
รมช.สธ.กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้เห็นว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความพร้อม และโครงการนี้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่จะให้สถานพยาบาลต่างๆ ให้บริการประชาชนอย่างมีคุณภาพ ด้วยอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย และโครงการดังกล่าว ยังเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตแพทย์เฉพาะทางในอนาคตด้วย ซึ่งการลงทุนนี้เป็นเรื่องที่เหมาะสม ถือว่าเป็นการพัฒนาเพื่อรองรับประชาชนที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สภาพัฒน์ก็เห็นชอบโครงการนี้ที่จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล