สอบ O-NET ม.6 วันแรกราบรื่นดี มั่นใจไร้ทุจริต “สัมพันธ์” ยันข้อสอบออกตรงตามหลักสูตรฯ พร้อมเปิด 3 ช่องทางรับร้องเรียนทุจริตด้วย เผยเตรียมจัดทำคลังข้อสอบ รับมือกับการจัดสอบ O-NET หลายครั้งตามนโยบาย รมว.ศึกษาธิการ ไม่มั่นใจเริ่มปี 55 ได้หรือไม่ เพราะติดปัญหาเรื่องงบประมาณ
วันนี้ (18 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามสอบโรงเรียนธัญบุรี จ.ปทุมธานี นางฉวีวรรณ คลังแสง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมด้วย รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการจัดสอบแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2554 ซึ่งถือเป็นการจัดสอบวันแรกพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อนำผลคะแนนไปใช้เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลาง การรับนิสิต นักศึกษา หรือแอดมิสชั่นส์ ประจำปีการศึกษา 2555
นางฉวีวรรณ กล่าวว่า การจัดสอบ O-Net วันแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ และการทุจริตแต่อย่างใด ซึ่งจากการตรวจสอบสถานที่เก็บข้อสอบ ก็พบว่า มีความรัดกุม และโปร่งใส และสถานที่สอบแห่งนี้ก็เคยมีการจัดสอบ O-NET มาก่อนแล้วมีการป้องกันการทุจริตที่เข้มงวดมาก โดยจะไม่อนุญาติให้เด็กนำโทรศัพท์มือถือรวมถึงนาฬิการะบบดิจิตอลเข้าห้องสอบ ซึ่งจะให้วางไว้ที่หน้าห้องสอบ จึงเชื่อว่าปัญหาการทุจริตน่าจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ด้าน รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าวว่า ในปีนี้มีนักเรียนชั้นม.6 เข้าสอบ O-Net ทั้งสิ้น 397,177 คน เป็นเด็กพิเศษ 66 คน โดยมีศูนย์สอบ 19 ศูนย์ 380 สนามสอบ 3,790 โรงเรียน และ13,496 ห้องสอบ ซึ่งการสอบในวันแรก จะจัดสอบ 3 วิชา ได้แก่ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ส่วนวันที่ 19 ก.พ.ซึ่งเป็นการสอบวันสุดท้ายจะจัดสอบ 3 วิชา ได้แก่ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ และสุขศึกษา และพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ทั้งนี้จะประกาศผลสอบภายในวันที่ 10 เมษายนนี้ เพื่อให้เด็กได้นำคะแนนไปใช้ทันสมัครแอดมิสชั่นส์ อย่างไรก็ตามการจัดสอบในวันแรกเป็นไปด้วยความราบรื่น โดยขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานการทุจริตแต่อย่างใด
“ยืนยันว่าเนื้อหาข้อสอบ O-NET ในปีนี้ออกตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกประการ ซึ่งจะมีข้อสอบที่ยากและง่ายปนกันไป จึงไม่อยากให้เด็กต้องกังวล และปีนี้รูปแบบข้อสอบจะไม่เกิน 2 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบปรนัย มี 5 ตัวเลือก ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 80% และรูปแบบอื่นๆ มีไม่เกิน 20% เช่น คณิตศาสตร์ จะใช้วิธีเติมคำ เป็นต้น ดังนั้นเพื่อความมั่นใจก็อยากให้เด็กได้ดูตัวอย่างข้อสอบ และกระดาษคำตอบ ซึ่งได้นำขึ้นไว้ในเว็บไซต์ของ สทศ. www.niets.or.th แล้ว เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำความเข้าใจในห้องสอบ นอกจากนี้อย่าลืมบัตรประชาชน หรือบัตรนักเรียนที่มีรูปถ่าย อย่ามาสายเกิน 30 นาที มิเช่นนั้นจะไม่ให้เข้าห้องสอบ และที่สำคัญอย่านำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบ เพราะหากมีเสียงดังขึ้นมาจะไม่ตรวจข้อสอบวิชานั้นทันที” ผอ.สทศ. กล่าว
รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ สทศ.ได้เปิดช่องทางรับเรื่องร้องเรียนการการสอบ O-NET 3 ช่องทาง ซึ่งหากผู้ใดพบเห็นการกระทำที่ทุจริตขอให้ส่งข้อมูลมาที่ 1. สทศ.ทางไปรษณีย์ หรือยื่นด้วยตนเองที่ สทศ. 2. webmaster@niets.or.th และ 3. สายตรงผู้บริหาร ที่ www.niets.or.th เมนู “สายตรงผู้บริหาร” โดยให้ระบุวัน เวลา วิชาสอบ โรงเรียนที่เป็นสนามสอบ ห้องสอบ พร้อมแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับทุจริตการสอบ และต้องระบุข้อมูลของผู้ส่งเรื่องร้องเรียนมาด้วย เพื่อที่ สทศ.จะได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
ผอ.สทศ. กล่าวถึงกรณีที่ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายให้มีการจัดสอบ O-NET หลายครั้ง ด้วยว่า ขณะนี้ สทศ.อยู่ระหว่างการเตรียมการจัดทำข้อคลังข้อสอบ ซึ่งจะต้องสร้างข้อสอบคู่ขนาน โดยให้มีความยากง่ายใกล้เคียงกัน เพราะการสอบหลายครั้งจะต้องมีการประกันเรื่องมาตรฐานการสอบแต่ละครั้งให้เท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็น การบริหารการสอบ อุปกรณ์ และข้อสอบ ส่วนการสอบ O-NET หลายครั้งจะเกิดขึ้นในปี 2555 เลยหรือไม่นั้น คงไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณด้วย อีกทั้งการสอบ O-NET เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็ก และเป็นหน้าที่ของสถานศึกษาที่จะต้องส่งชื่อมาให้ สทศ. จัดสอบ เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็ก โดยเด็กไม่ต้องเสียเงินค่าสมัคร ซึ่งไม่เหมือนกับการสอบแบบทดสอบวัดความถนัดทั่วไป หรือ GAT และแบบทดสอบวัดความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ หรือ PAT ที่เด็กจะต้องเสียค่าสมัครสอบ