สหภาพองค์การค้าฯ จี้ ศธ.ให้คำตอบกรณี “สันติภาพ” พรุ่งนี้ เสนอโยกออกจากโรงพิมพ์ชั่วคราวเพื่อให้การตรวจสอบทำได้ง่ายขึ้น และเพื่อให้พนักงานกว่า 900 คนมั่นใจและกลับเข้าทำงานได้อย่างไม่กังวล ด้าน ปลัด ศธ.ยอมรับเรื่องเดินหน้าไปช้าเพราะระบบราชการต้องทำเป็นขั้นตอน ชี้หากเป็นเอกชนคงปิดกิจการแล้ว
ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายอารีย์ สืบวงศ์ ประธานสหภาพองค์การค้า (อค.) ของสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) พร้อมด้วยสมาชิกสหภาพประมาณ 5 คนเปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าพบ นายประแสง มงคลศิริ เพื่อมอบข้อมูลเพิ่มเติมและทวงถามความคืบหน้าในการดำเนินการกับนายสันติภาพ อินทรพัฒน์ ผู้อำนวยการ อค.สกสค. กรณีทุจริตเรื่องการขายที่ดินจำนวน 47 ไร่ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และการขายหนังสือเรียนและอุปกรณ์การเรียนให้แก่กองทุนครอบครัวข่าว 3 โดยเอื้อประโยชน์ให้น้องสาวซึ่งเป็นนายหน้าและกรณีใช้อำนาจในทางมิชอบ ว่า ตนได้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมกับเรียกร้องขอคำตอบว่าทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะดำเนินการเรื่องของนายสันติภาพ เช่นไร ทั้งนี้ ภายหลังจากวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่มีการประชุมร่วมกันโดยมีนายประแสง เป็นประธานนั้น และขณะนั้นก็มีการตกลงทำความเข้าใจในบางประเด็นเท่านั้นโดยเฉพาะประเด็นเรื่องการหยุดงานที่ทางสหภาพฯ มีมตินัดหยุดงานตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้นไปแต่ในการหารือในวันดังกล่าวได้มีข้อตกลงกันว่า อค.สกสค.จะถือว่าวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ลูกจ้างทุกคนได้ทำงานกันตามปกติและได้รับค่าจ้างและสวัสดิการตามเดิมซึ่งพนักงานประนอมข้อพิพาทได้ให้ลงชื่อเป็นลายลักษณ์อักษร และให้เข้าทำงานตามปกติตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
“ตั้งแต่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พนักงาน อค.สกสค.ที่เป็นสมาชิกสหภาพฯ จำนวนประมาณ 900 คนที่เห็นด้วยกับมติหยุดงานยังไม่กลับเข้าทำงาน เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่สบายใจอีกทั้ง ทาง อค.สกสค.มีการปิดประตูทางเข้าไม่ให้สมาชิกที่เห็นด้วยเข้าไปทำงาน แต่จะเปิดให้เฉพาะพนักงานที่ไม่เห็นด้วยกับการหยุดงานจำนวน 200 คนและลูกจ้างรายวันอีกจำนวนหนึ่งเข้าทำงานเท่านั้น ซึ่งลูกจ้างรายวันนั้นไม่ทราบระบบงานเกรงจะเกิดความเสียหายกับ อค.สกสค.ได้ ทั้งนี้ ได้ขอให้ทาง ศธ.ให้คำตอบภายในวันพรุ่งนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับนายสันติภาพ ทั้งกรณีทุจริตและกรณีใช้อำนาจโดยมิชอบ ที่สำคัญได้ขอให้นำตัว นายสันติภาพ ออกจากโรงพิมพ์ อค.สกสค. เป็นการชั่วคราวเพื่อจะให้การเข้าไปตรวจสอบดำเนินการได้ง่ายขึ้น และพนักงานก็รู้สึกสบายใจที่จะกลับเข้าไปทำงานโดยไม่มีการกลั่นแกล้ง และในท้ายที่สุดหากยังไม่มีการดำเนินการใดจาก ศธ. ทางสหภาพฯจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี”นายอารีย์ กล่าวและว่า ทั้งนี้ วันนี้ตนและสมาชิกจะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบการทุจริตของนายสันติภาพด้วย
ด้าน น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ.ในฐานะประธานคณะกรรมการ สกสค. กล่าวว่า ล่าสุดในเวลานี้บอร์ด สกสค.ได้สั่งระงับการซื้อขายที่ดิน จ.สุราษฎร์ธานี และยังอยู่ในกระบวนการติดตามตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ยอมรับว่าเรื่องนี้อาจจะดูดำเนินการล่าช้า แต่เพราะเป็นระบบราชการทุกอย่างต้องเป็นขั้นตอน แต่ถ้าเป็นบริษัทเอกชนก็อาจจะปิดกิจการได้เลย อย่างไรก็ตาม ได้รับรายงานว่าทางสหภาพองค์การค้าฯ ได้มายื่นเรื่องให้ตรวจสอบ นายสันติภาพ และวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ได้มีการประชุมเพื่อรับฟังและไกล่เกลี่ยข้อพิพาทซึ่งบางประเด็นก็ได้ข้อสรุปบางประเด็นก็ยังต้องใช้เวลา ทั้งนี้ นายสันติภาพ จะทำรายงานเข้ามาเพื่อชี้แจงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะนำเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดต่อไป
ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายอารีย์ สืบวงศ์ ประธานสหภาพองค์การค้า (อค.) ของสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) พร้อมด้วยสมาชิกสหภาพประมาณ 5 คนเปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าพบ นายประแสง มงคลศิริ เพื่อมอบข้อมูลเพิ่มเติมและทวงถามความคืบหน้าในการดำเนินการกับนายสันติภาพ อินทรพัฒน์ ผู้อำนวยการ อค.สกสค. กรณีทุจริตเรื่องการขายที่ดินจำนวน 47 ไร่ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และการขายหนังสือเรียนและอุปกรณ์การเรียนให้แก่กองทุนครอบครัวข่าว 3 โดยเอื้อประโยชน์ให้น้องสาวซึ่งเป็นนายหน้าและกรณีใช้อำนาจในทางมิชอบ ว่า ตนได้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมกับเรียกร้องขอคำตอบว่าทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะดำเนินการเรื่องของนายสันติภาพ เช่นไร ทั้งนี้ ภายหลังจากวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่มีการประชุมร่วมกันโดยมีนายประแสง เป็นประธานนั้น และขณะนั้นก็มีการตกลงทำความเข้าใจในบางประเด็นเท่านั้นโดยเฉพาะประเด็นเรื่องการหยุดงานที่ทางสหภาพฯ มีมตินัดหยุดงานตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นต้นไปแต่ในการหารือในวันดังกล่าวได้มีข้อตกลงกันว่า อค.สกสค.จะถือว่าวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ลูกจ้างทุกคนได้ทำงานกันตามปกติและได้รับค่าจ้างและสวัสดิการตามเดิมซึ่งพนักงานประนอมข้อพิพาทได้ให้ลงชื่อเป็นลายลักษณ์อักษร และให้เข้าทำงานตามปกติตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
“ตั้งแต่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พนักงาน อค.สกสค.ที่เป็นสมาชิกสหภาพฯ จำนวนประมาณ 900 คนที่เห็นด้วยกับมติหยุดงานยังไม่กลับเข้าทำงาน เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่สบายใจอีกทั้ง ทาง อค.สกสค.มีการปิดประตูทางเข้าไม่ให้สมาชิกที่เห็นด้วยเข้าไปทำงาน แต่จะเปิดให้เฉพาะพนักงานที่ไม่เห็นด้วยกับการหยุดงานจำนวน 200 คนและลูกจ้างรายวันอีกจำนวนหนึ่งเข้าทำงานเท่านั้น ซึ่งลูกจ้างรายวันนั้นไม่ทราบระบบงานเกรงจะเกิดความเสียหายกับ อค.สกสค.ได้ ทั้งนี้ ได้ขอให้ทาง ศธ.ให้คำตอบภายในวันพรุ่งนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับนายสันติภาพ ทั้งกรณีทุจริตและกรณีใช้อำนาจโดยมิชอบ ที่สำคัญได้ขอให้นำตัว นายสันติภาพ ออกจากโรงพิมพ์ อค.สกสค. เป็นการชั่วคราวเพื่อจะให้การเข้าไปตรวจสอบดำเนินการได้ง่ายขึ้น และพนักงานก็รู้สึกสบายใจที่จะกลับเข้าไปทำงานโดยไม่มีการกลั่นแกล้ง และในท้ายที่สุดหากยังไม่มีการดำเนินการใดจาก ศธ. ทางสหภาพฯจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี”นายอารีย์ กล่าวและว่า ทั้งนี้ วันนี้ตนและสมาชิกจะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบการทุจริตของนายสันติภาพด้วย
ด้าน น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ.ในฐานะประธานคณะกรรมการ สกสค. กล่าวว่า ล่าสุดในเวลานี้บอร์ด สกสค.ได้สั่งระงับการซื้อขายที่ดิน จ.สุราษฎร์ธานี และยังอยู่ในกระบวนการติดตามตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ยอมรับว่าเรื่องนี้อาจจะดูดำเนินการล่าช้า แต่เพราะเป็นระบบราชการทุกอย่างต้องเป็นขั้นตอน แต่ถ้าเป็นบริษัทเอกชนก็อาจจะปิดกิจการได้เลย อย่างไรก็ตาม ได้รับรายงานว่าทางสหภาพองค์การค้าฯ ได้มายื่นเรื่องให้ตรวจสอบ นายสันติภาพ และวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ได้มีการประชุมเพื่อรับฟังและไกล่เกลี่ยข้อพิพาทซึ่งบางประเด็นก็ได้ข้อสรุปบางประเด็นก็ยังต้องใช้เวลา ทั้งนี้ นายสันติภาพ จะทำรายงานเข้ามาเพื่อชี้แจงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะนำเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดต่อไป