รมว.ศธ.เผยจะพยายามดันแท็บเล็ตเข้าสู่ ครม.ให้ได้สัปดาห์หน้า หวั่นกลัวส่งมอบทั้งหมดไม่ทันเปิดเทอม พ.ค.นี้ ยันแท็บเล็ตควรแจกให้เป็นสิทธิขาดของเด็กเลย แม้ต้องเสียเงินซื้อเครื่องใหม่ปีหน้าเฉียด 3 พันล้านเปรียบเทียบเงินแค่นี้ถูกกว่าซื้อเรือรบ
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า โครงการคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตแบบพกพา หรือ One Tablet Pc Per Child ไม่ได้เข้าสู่การประชุมของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (31 ม.ค.) แต่จะพยายามผลักดันให้เข้าสู่การประชุม ครม.สัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม ตนมีความกังวลว่าเมื่อเปิดภาคเรียนปี 2555 ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ จะไม่สามารถแจกแท็บเล็ตให้นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 1 ทุกคนได้ทัน เพราะขั้นตอนในการผลิตและส่งมอบแท็บเล็ตกว่า 9 แสนเครื่องนั้น ต้องใช้เวลาประมาณ 4 เดือน เพราะฉะนั้น คงต้องทยอยแจกนักเรียนตามความพร้อม
รมว.ศธ.กล่าวต่อว่า ตนยังยืนยันว่า แท็บเล็ตควรแจกให้นักเรียนเป็นสิทธิขาดเลย ไม่ต้องให้นักเรียนนำมาคืนหลังหมดปีการศึกษา จริงๆ แล้ว แท็บเล็ตที่จะซื้อตามสเปคราคาแค่ 2,400 บาท ถือเป็นพัสดุที่ราคาไม่แพง สมควรแจกให้เด็กไปเลย แท็บเล็ตราคาเท่านี้ใช้แค่ 3 ปี ก็กลายเป็นแค่พลาสติกแล้ว และถึงแม้การจัดซื้อเครื่องใหม่จะทำให้ต้องเสียเงินอีกกว่า 3 พันล้านบาท ก็ถือเป็นเงินแค่เล็กน้อย เทียบกันแล้ว ซื้อเรือรบ 1 เครื่องก็ราคากว่า 3 พันล้านเหมือนกัน
ด้าน น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ. กล่าวว่า ศธ.กำลังสำรวจความพร้อมรองรับแท็บเล็ตของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และ สกอ.ที่จะได้รับจัดสรรเครื่องแท็บเล็ต โดยคำนึงเรื่องการมีไฟฟ้ารองรับและมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตไปถึงสถานศึกษา ทั้งนี้ เพราะลำดับการจัดสรรเครื่องจะส่งให้โรงเรียนที่มีความพร้อมก่อน ส่วน ร.ร.ที่ยังไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าถึง หรือโรงเรียนกลุ่มสีแดงไม่มีไฟฟ้าใช้ที่มีประมาณ 200 แห่ง ต้องรอจัดสรรในลำดับถัดไป เพราะฉะนั้น ก็จะสอดคล้องกับกรณีที่เครื่องแท็บเล็ตจากจีนจะทยอยส่งมอบให้เช่นกัน
ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า ในส่วนของการรับมอบเครื่องจากจีนนั้น รัฐบาลจีนจะส่งมอบให้ที่สนามบินของประเทศจีน และได้วางแผนว่าจะใช้เครื่องบินของการบินไทยไปรับสินค้ามา เมื่อมาถึงประเทศไทยแล้ว จะใช้บริการของไปรษณีย์ไทยกกระจายเครื่องแท็บเล็ตไปตามสถานศึกษาต่างๆ โดย ศธ.จะตั้งคณะทำงานระดับผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการมาทำงานร่วมกับเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อดูแลเรื่องการรับมอบเครื่องและจัดส่งเครื่องให้สถานศึกษา ส่วนเรื่องการเตรียมความพร้อมรองรับนั้น ศธ.จะประสานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เร่งมือวางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไปถึงสถานศึกษาทุกแห่ง ซึ่งนโยบายอินเทอร์เน็ตตำบลของรัฐบาล ที่มีเป้าหมายให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wifi ฟรีทั่วประเทศนั้น กำหนดชัดเจนให้เริ่มดำเนินการในสถานศึกษาเป็นกลุ่มแรก เพราะฉะนั้น ศธ.ก็จะได้ประโยชน์จากนโยบายดังกล่าว
ทั้งนี้ ตามแผนงานของ ศธ.แท็บเล็ตจะเข้าอินเทอร์เน็ตได้ในภาคเรียนที่ 2 ส่วนภาคเรียนแรกซึ่งอยู่ในงบประมาณ 2555 นั้น จะเป็นเรื่องของการจัดซื้อเครื่องก่อน นอกจากนั้น ศธ.จะจัดโครงการอบรมครูทุกชั้น ทุกวิชา ผู้บริหารสถานศึกษาและ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา เพื่อเตรียมให้พร้อมสำหรับการนำแท็บเล็ต รวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่างๆ มาใช้ประกอบการเรียนการสอนด้วย