“เผดิมชัย” ออกโรงแจงปรับค่าจ้างเป็นวันละ 300 บาท กระทบต้นทุนเพียงร้อยละ 1 เท่านั้น จี้สภาอุตฯ หยุดโวย ชี้สร้างผลกระทบต่อประเทศ เตรียมเชิญหารือเร็วๆ นี้
วันนี้ (26 ม.ค.) นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) กล่าวถึงกรณีที่นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. ออกมาระบุว่าการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท ส่งผลให้นักลงทุนแบกรับต้นทุนไม่ไหวจนต้องมีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากมีค่าแรงที่ถูกกว่าไทยถึง 4 เท่าว่า เรื่องนี้นายธนิตพูดมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งการปรับค่าจ้างเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตเพียงร้อยละ 1 เท่านั้น อีกทั้งการปรับค่าแรงรัฐบาลไม่ได้ให้ภาคเอกชนปรับโดยไม่มีอะไรตอบแทน เนื่องจากรัฐบาลยอมลดภาษีขาดรายได้ไปถึงร้อยละ 10
“ผมไม่อยากให้สภาอุตฯ ออกมาพูดในสิ่งที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศ ในเรื่องต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นนักบัญชีจะตอบได้ดีที่สุดว่ากระทบจริงหรือไม่ ส่วนนักลงทุนหรือผู้ประกอบการที่จะย้ายฐานการผลิตนั้นส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มีแผนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งไม่เกี่ยวกับการปรับค่าแรง หากมีนักลงทุนย้ายฐานการผลิตจริงก็ขอให้นำข้อมูลมาพูดคุยกัน อย่างไรก็ตามเร็วๆนี้จะมีการนัดพูดคุยกับผู้บริหารสภาอุตฯเพื่อพูดคุยถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง”รมว.แรงงานกล่าว
นายเผดิมชัยกล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่าค่าจ้างขั้นต่ำจะปรับขึ้นเป็นวันละ 500 บาทภายใน 5 ปีนั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะปัจจุบันราคาสินค้าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปรับค่าแรงต้องดูภาวะเศรษฐกิจโลก รวมไปถึงดัชนีของผู้บริโภคและค่าครองชีพต่างๆ ด้วย