“ศศิธารา” เตรียมชง “สุชาติ” ทำเครดิตบูโร

ปลัด ศธ.เตรียมชง “สุชาติ” ไฟเขียวทำเครดิตบูโรครู หวังเป็นฐานข้อมูลใช้แก้ปัญหาหนี้สินครูได้ เผยเบื้องต้นพบครูนิยมกู้จาก 4 แหล่ง แต่เจอปัญหาตัวเลขดิ้นได้ ทำให้ไม่ได้ข้อมูลแท้จริง ขณะนี้ยอดรวมหนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 7-8 แสนล้านบาท

น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เนื่องจาก ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้น พบว่า แหล่งเงินกู้ของครูมี 4 แหล่ง ได้แก่ 1.กองทุนเงินหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ดูแล มีครูกู้จำนวน 6,300 คน มูลค่า 1,100 ล้านบาท 2.โครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) 1-7 และโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยคู่สมรสเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ส.) ของสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) มีครูกู้จำนวน 1,219,977 คน มูลค่า 436,746 ล้านบาท

3.สหกรณ์ออมทรัพย์ครู มีครูกู้จำนวน 467,143 คน มูลค่าหนี้ 766,081 ล้านบาท และ 4.สินเชื่อเพื่อพัฒนาชีวิตครู มีครูกู้จำนวน 93,140 คน มูลค่าหนี้ 111,315 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้นั้นยังไม่สามารถอ้างอิงเป็นข้อมูลที่แท้จริงได้ เนื่องจากเมื่อมีการตรวจสอบครั้งใดตัวเลขก็มักจะมีการขยับทุกครั้ง แต่หากคำนวณแล้วภาพรวมมูลค่าหนี้สินของครูเฉลี่ยอยู่ที่ 7-8 แสนล้านบาท

ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เมื่อจำแนกพฤติกรรมการกู้ยืมและการชำระหนี้ พบว่า แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ ประเภทมีสินทรัพย์ในการกู้ ประเภทไม่มีสินทรัพย์ แต่สามารถผ่อนชำระคืนได้สำเร็จ และประเภทหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่สามารถใช้คืนได้หมด ทั้งนี้ ใน 2 ประเภทแรกนั้น ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีปัญหา ยกเว้นแต่ประเภทหนี้สินล้นพ้นตัว มีเท่าไรก็ไม่พอใช้หนี้ ซึ่งมีครูในกลุ่มนี้อยู่หลายหมื่นคน ทั้งนี้ เมื่อ รมว.ศึกษาธิการ เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ตนจะนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ พร้อมจะเสนอว่า ควรมีการจัดทำเครดิตบูโรของครู เพื่อเป็นฐานข้อมูลที่ชัดเจนตรวจสอบ และใช้เป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูได้ถูกทาง ซึ่งการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดนั้นสำนักงานปลัด ศธ.จะสามารถเป็นผู้ดำเนินการได้