นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ เครดิตบูโร เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุภัยพิบัติจากอุทกภัยในหลายพื้นที่ รวมทั้งกรุงเทพมหานคร จนเป็นเหตุให้ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการอยู่ในสภาพที่ยังไม่สามารถชำระหนี้ตามเวลาที่กำหนด โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน และลูกหนี้ต่างมีความกังวลว่าสถานะทางบัญชีสินเชื่อของตนเอง จะเป็นหนี้เสีย (NPL) หรือติดแบล็คลิสต์กับเครดิตบูโร ซึ่งกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบันการเงินต่างๆ เห็นพ้องให้การช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ทันทีที่ลูกหนี้ติดต่อกับสถาบันการเงิน ที่เป็นเจ้าหนี้และสถาบันการเงิน ได้พิจารณาและอนุมัติให้แก้ไขหรือปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ให้ถือว่าบัญชีสินเชื่อนั้นมีสถานะปกติทันทีในฐานข้อมูลเครดิตบูโร โดยไม่ต้องรอให้มีการปฏิบัติชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขติดต่อกัน 3 เดือนก่อน สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีหนี้บัตรเครดิตนั้น ให้พิจารณาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ และสถาบันการเงินผู้ออกบัตรจะพิจารณาต่ำกว่า 10 % ได้ มาตรการนี้จะลดผลกระทบได้มาก และขอย้ำว่าทั้งผู้ถือบัตรเครดิต , ผู้ประกอบการ, SME และผู้ที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน จะได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความไม่มีวินัยในการชำระหนี้ แต่เกิดจากปัญหาภัยพิบัติที่ไม่สามารถควบคุมได้
ทั้งนี้ ทันทีที่ลูกหนี้ติดต่อกับสถาบันการเงิน ที่เป็นเจ้าหนี้และสถาบันการเงิน ได้พิจารณาและอนุมัติให้แก้ไขหรือปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ให้ถือว่าบัญชีสินเชื่อนั้นมีสถานะปกติทันทีในฐานข้อมูลเครดิตบูโร โดยไม่ต้องรอให้มีการปฏิบัติชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขติดต่อกัน 3 เดือนก่อน สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีหนี้บัตรเครดิตนั้น ให้พิจารณาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ และสถาบันการเงินผู้ออกบัตรจะพิจารณาต่ำกว่า 10 % ได้ มาตรการนี้จะลดผลกระทบได้มาก และขอย้ำว่าทั้งผู้ถือบัตรเครดิต , ผู้ประกอบการ, SME และผู้ที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน จะได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความไม่มีวินัยในการชำระหนี้ แต่เกิดจากปัญหาภัยพิบัติที่ไม่สามารถควบคุมได้