ASTVผู้จัดการรายวัน - ไทยพาณิชย์ทุ่มกลยุทธ์เจาะสินเชื่อบุคคล "ลดวงเงินรายได้ขั้นต่ำ-ทำ Risk Base Model" ขยายฐานลูกค้า ตั้งเป้าปี 56 ขึ้นแท่นอันดับ 1
นางสาวอารยา ภู่พานิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (SCB)เปิดเผยว่า ในช่วงต่อไปธนาคารจะเน้นการขยายฐานสินเชื่อบุคคลมากขึ้น โดยจากการสำรวจพบว่าตลาดนี้ยังสามารถขยายได้อีกมาก โดยครึ่งปีแรกมียอดสินเชื่อบุคคล 200,000 ล้านบาท เป็นส่วนของธนาคารพาณิชย์ไทย 70,000 ล้านบาท ธนาคารต่างประเทศ 18,000 ล้านบาท สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารกว่า 120,000 ล้านบาท และยังมีผู้ที่ยังไม่ได้ใช้บริการนี้กว่า 10 ล้านคน
"แม้ว่าตอนนี้สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์จะเป็นเจ้าตลาดอยู่ตอนนี้ แต่เราก็ยังเชื่อว่าตลาดนี้กว้างพอที่ขยายได้อีกมาก โดยช่วง 6 เดือนแรกของปีธนาคารมีสินเชื่อบุคคล 20,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 30%"
โดยธนาคารจะมีการปรับกลยุทธทางการตลาดที่จะมุ่งสำรวจสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลักก่อนเพื่อที่จะนำเสนอตัวผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการ จากที่ก่อนหน้านี้ธนาคารได้ปรับลดวงเงินรายได้ขั้นต่ำของสินเชื่อบุคคลเหลือ 10,000 บาทต่อเดือน จากเดิมที่ตั้งไว้ 15,000 บาท เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น และเน้นการขายผ่านทางโทรศัพท์มากกว่าขายผ่านสาขา เนื่องจากได้สำรวจมาลูกค้านิยมใช้บริการสินเชื่อบุคคลผ่านทางเทเลเซลล์มากกว่าผ่านเจ้าที่หน้าสาขา โดยปัจจุบันมียอดขายผ่านเทเลเซลล์ทะลุ 870 ล้านบาทต่อเดือน
พร้อมกันนั้น ธนาคารก็ได้จัดทำ Risk Base Model เพิ่มเติมจากการเช็กข้อมูลเครดิตจากเครดิตบูโร เพื่อเป็นการวิเคราะห์คุณภาพของสินเชื่อให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อเพิ่มยอดอนุมัติจากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 30% และข้อมูล Risk Base Model จะทำให้ธนาคารสามารถจัดสกอริ่งของลูกค้าได้ ซึ่งก็จะเกิดประโยชน์กับลูกค้าในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยด้วย
"ถ้าธนาคารนำระบบ Risk Base Model มาใช้ ก็จะทำให้แบ่งชั้นของลูกค้าได้ ซึ่งลูกหนี้ชั้นดีก็จะได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ขณะที่ลูกค้าในชั้นรองลงมาก็จะต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า ตรงนี้จะเกิดประโยชน์กับลูกค้ามาก แต่จะมีปัญหาที่การสื่อสารกับลูกค้าในการบอกสาเหตุความแตกต่างของดอกเบี้ย ซึ่งจุดนี้ธนาคารอาจจะใช้ผลิตภัณฑ์มาเป็นเครื่องมืออีกต่อหนึ่ง"
นางสาวอารยากล่าวอีกว่า ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อบุคคลเป็นอันดับ 1 ในปี 2556 โดยจะต้องมียอดสินเชื่อประมาณ 40,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่ธนาคารยอดคงค้าง 20,000 ล้านบาท คาดว่าจะถึง 22,000 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ เติบโตเกือบ 20% จากระบบที่เติบโต 6% และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 1.4%
นางสาวอารยา ภู่พานิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (SCB)เปิดเผยว่า ในช่วงต่อไปธนาคารจะเน้นการขยายฐานสินเชื่อบุคคลมากขึ้น โดยจากการสำรวจพบว่าตลาดนี้ยังสามารถขยายได้อีกมาก โดยครึ่งปีแรกมียอดสินเชื่อบุคคล 200,000 ล้านบาท เป็นส่วนของธนาคารพาณิชย์ไทย 70,000 ล้านบาท ธนาคารต่างประเทศ 18,000 ล้านบาท สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารกว่า 120,000 ล้านบาท และยังมีผู้ที่ยังไม่ได้ใช้บริการนี้กว่า 10 ล้านคน
"แม้ว่าตอนนี้สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์จะเป็นเจ้าตลาดอยู่ตอนนี้ แต่เราก็ยังเชื่อว่าตลาดนี้กว้างพอที่ขยายได้อีกมาก โดยช่วง 6 เดือนแรกของปีธนาคารมีสินเชื่อบุคคล 20,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 30%"
โดยธนาคารจะมีการปรับกลยุทธทางการตลาดที่จะมุ่งสำรวจสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลักก่อนเพื่อที่จะนำเสนอตัวผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการ จากที่ก่อนหน้านี้ธนาคารได้ปรับลดวงเงินรายได้ขั้นต่ำของสินเชื่อบุคคลเหลือ 10,000 บาทต่อเดือน จากเดิมที่ตั้งไว้ 15,000 บาท เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น และเน้นการขายผ่านทางโทรศัพท์มากกว่าขายผ่านสาขา เนื่องจากได้สำรวจมาลูกค้านิยมใช้บริการสินเชื่อบุคคลผ่านทางเทเลเซลล์มากกว่าผ่านเจ้าที่หน้าสาขา โดยปัจจุบันมียอดขายผ่านเทเลเซลล์ทะลุ 870 ล้านบาทต่อเดือน
พร้อมกันนั้น ธนาคารก็ได้จัดทำ Risk Base Model เพิ่มเติมจากการเช็กข้อมูลเครดิตจากเครดิตบูโร เพื่อเป็นการวิเคราะห์คุณภาพของสินเชื่อให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อเพิ่มยอดอนุมัติจากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 30% และข้อมูล Risk Base Model จะทำให้ธนาคารสามารถจัดสกอริ่งของลูกค้าได้ ซึ่งก็จะเกิดประโยชน์กับลูกค้าในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยด้วย
"ถ้าธนาคารนำระบบ Risk Base Model มาใช้ ก็จะทำให้แบ่งชั้นของลูกค้าได้ ซึ่งลูกหนี้ชั้นดีก็จะได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ขณะที่ลูกค้าในชั้นรองลงมาก็จะต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า ตรงนี้จะเกิดประโยชน์กับลูกค้ามาก แต่จะมีปัญหาที่การสื่อสารกับลูกค้าในการบอกสาเหตุความแตกต่างของดอกเบี้ย ซึ่งจุดนี้ธนาคารอาจจะใช้ผลิตภัณฑ์มาเป็นเครื่องมืออีกต่อหนึ่ง"
นางสาวอารยากล่าวอีกว่า ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อบุคคลเป็นอันดับ 1 ในปี 2556 โดยจะต้องมียอดสินเชื่อประมาณ 40,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่ธนาคารยอดคงค้าง 20,000 ล้านบาท คาดว่าจะถึง 22,000 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ เติบโตเกือบ 20% จากระบบที่เติบโต 6% และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 1.4%
