บอร์ด สปส.จี้ ก.แรงงาน ทำหนังสือถึงรัฐบาลทวงเงินค้างจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคม เป็นเวลา 15 เดือน วงเงินกว่า 3 หมื่นล้านบาท หวั่นกระทบความมั่นคงของกองทุนในระยะยาว “เผดิมชัย” เผย นายกฯนัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือพัฒนา 3 ระบบบริการรักษาพยาบาลในวันที่ 20 ม.ค.นี้
วันนี้ (18 ม.ค.) นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด สปส.เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบให้กระทรวงแรงงานจัดทำเรื่องเสนอของบประมาณในส่วนของเงินสมทบกองทุนประกันสังคมที่รัฐบาลค้างจ่ายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 - ธันวาคม 2554 รวมเวลา 15 เดือน เป็นวงเงินทั้งสิ้นกว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยให้ทำหนังสือถึงรัฐบาลชี้แจงถึงความจำเป็นที่ต้องของบประมาณในส่วนนี้ เนื่องจากคณะกรรมการ สปส.ทุกฝ่ายรู้สึกกังวลว่า หากนำส่งเงินสมทบล่าช้า ก็จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของกองทุนในระยะยาว เนื่องจากจะขาดดอกผลจากการนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนกว่าปีละพันกว่าล้านบาท
“หากรัฐบาลเห็นว่า สำนักงานประกันสังคม (สปส.) มีความจำเป็นที่จะต้องนำงบประมาณในส่วนของเงินสมทบประกันสังคมมาบริหารจัดการ เพื่อให้เกิดความมั่นคงกับกองทุนประกันสังคม อาจจะจัดสรรงบกลางมาให้ เหมือนเมื่อครั้งก่อนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐบาล” นพ.สมเกียรติ กล่าว
นพ.สมเกียรติ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุม สปส.ได้เสนอโครงการโทรทัศน์ดาวเทียมเพื่อใช้ในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ไปยังสำนักงานเขตประกันสังคมทั่วประเทศ ใช้งบผูกพัน 3 ปี วงเงิน 280 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของ สปส.ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้รับทราบข้อมูลข่าวสารของ สปส.อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมไม่ได้คัดค้านในเรื่องนี้ แต่อยากให้ สปส.กลับไปพิจารณาให้รอบคอบว่าจะมีการใช้สื่อในรูปแบบอื่นๆ ได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและใช้งบประมาณลดลง โดยให้ทาง สปส.กลับมาเสนอใหม่ในการประชุมบอร์ดครั้งหน้าในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ทั้งนี้ โดยส่วนตัวก็เห็นด้วยกับที่ประชุมเพราะอยากให้การพิจารณาเรื่องนี้เป็นไปอย่างรอบคอบ
นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) กล่าวว่า ในวันศุกร์ที่ 20 ม.ค.นี้ เวลา 14.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้นัดหมายหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อหารือเกี่ยวการพัฒนาระบบบริการรักษาพยาบาลใน 3 ระบบ ทั้ง ระบบสวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม และหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงแรงงานตนติดภารกิจ จึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงแรงงานเป็นตัวแทนเข้าร่วมหารือ
วันนี้ (18 ม.ค.) นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด สปส.เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบให้กระทรวงแรงงานจัดทำเรื่องเสนอของบประมาณในส่วนของเงินสมทบกองทุนประกันสังคมที่รัฐบาลค้างจ่ายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 - ธันวาคม 2554 รวมเวลา 15 เดือน เป็นวงเงินทั้งสิ้นกว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยให้ทำหนังสือถึงรัฐบาลชี้แจงถึงความจำเป็นที่ต้องของบประมาณในส่วนนี้ เนื่องจากคณะกรรมการ สปส.ทุกฝ่ายรู้สึกกังวลว่า หากนำส่งเงินสมทบล่าช้า ก็จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของกองทุนในระยะยาว เนื่องจากจะขาดดอกผลจากการนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนกว่าปีละพันกว่าล้านบาท
“หากรัฐบาลเห็นว่า สำนักงานประกันสังคม (สปส.) มีความจำเป็นที่จะต้องนำงบประมาณในส่วนของเงินสมทบประกันสังคมมาบริหารจัดการ เพื่อให้เกิดความมั่นคงกับกองทุนประกันสังคม อาจจะจัดสรรงบกลางมาให้ เหมือนเมื่อครั้งก่อนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐบาล” นพ.สมเกียรติ กล่าว
นพ.สมเกียรติ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุม สปส.ได้เสนอโครงการโทรทัศน์ดาวเทียมเพื่อใช้ในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ไปยังสำนักงานเขตประกันสังคมทั่วประเทศ ใช้งบผูกพัน 3 ปี วงเงิน 280 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของ สปส.ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้รับทราบข้อมูลข่าวสารของ สปส.อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมไม่ได้คัดค้านในเรื่องนี้ แต่อยากให้ สปส.กลับไปพิจารณาให้รอบคอบว่าจะมีการใช้สื่อในรูปแบบอื่นๆ ได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและใช้งบประมาณลดลง โดยให้ทาง สปส.กลับมาเสนอใหม่ในการประชุมบอร์ดครั้งหน้าในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ทั้งนี้ โดยส่วนตัวก็เห็นด้วยกับที่ประชุมเพราะอยากให้การพิจารณาเรื่องนี้เป็นไปอย่างรอบคอบ
นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) กล่าวว่า ในวันศุกร์ที่ 20 ม.ค.นี้ เวลา 14.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้นัดหมายหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อหารือเกี่ยวการพัฒนาระบบบริการรักษาพยาบาลใน 3 ระบบ ทั้ง ระบบสวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม และหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงแรงงานตนติดภารกิจ จึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงแรงงานเป็นตัวแทนเข้าร่วมหารือ
