โดย...เกศกาญจน์ บุญเพ็ญ
บิ๊กเซอร์ไพรส์ รับปีแห่งการพูดภาษาอังกฤษ หรือโครงการ English Speaking Year 2012 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ถือโอกาสพิเศษที่ นายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร หรือ ประเทศอังกฤษ เดินทางมาร่วมหารือถึงนโยบายทางการศึกษาของไทย กับ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีสวมบทบาท “ครู” สอนภาษาอังกฤษให้แก่น้องๆ นักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา 80 คน จาก 8 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบางกอกทวีวิทย์ โรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศม์ โรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์ โรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์ โรงเรียนโพธิสารพิทยากร โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย วิทยาลัยเทคโนโลยีสันติราษฎร์บริหารธุรกิจ และโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์
ทันที่ นายโทนี แบลร์ ก้าวขึ้นเวทีก็เรียกเสียงฮือฮาจากเด็กๆ ที่มาต้องรับและมีตัวแทนนักเรียนไทยกล่าวต้อนรับเป็นภาษาไทย และ นายโทนี แบลร์ ได้ตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษ และเริ่มสอนภาษาอังกฤษให้นักเรียนได้พูดตาม เริ่มจากคำทักทายเป็นภาษาอังกฤษ ว่า “Hello”, “Thank You” และ It is wonderful to be with you today ซึ่งเด็กๆ ก็พูดตามกันอย่างพร้อมเพรียง นอกจากนี้ นายโทนี แบลร์ ยังเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ถามคำถามซึ่งเด็กๆ ได้โชว์ความสามารถถามเป็นภาษาอังกฤษ มีทั้งการถามความรู้สึกที่มีต่อประเทศไทย และการถามความเห็นเกี่ยวกับโครงการ English Speaking Year 2012 ซึ่ง นายโทนี แบลร์ ก็ตอบทุกคำถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม นอกจากนี้ ในตอนท้ายยังได้เซ็นชื่อให้ตามที่นักเรียนคนหนึ่งขอด้วย
นายโทนี แบลร์ พูดถึงโครงการ English Speaking Year 2012 ด้วยว่า “ผมดีใจที่ประเทศไทยรู้จักเรียนรู้ที่จะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร และเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญมาก สำหรับระบบการศึกษาไทย ที่นำโครงการ English Speaking Year 2012 มาเป็นนโยบาย เพราะเป็นสิ่งที่ควรจะทำ เป็นแนวคิดที่ดีและประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพ อนาคตที่ก้าวหน้า และการพูดภาษาอังกฤษจะช่วยคนไทยในเรื่องการสื่อสารกับนานาประเทศ อย่างไรก็ตาม ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่ง่าย ดังนั้น ภาษานี้ จึงเป็นภาษาที่ภูมิภาคอาเซียน ควรจะต้องรู้ ต้องใช้ภาษาอังกฤษ และโลกในปัจจุบันนี้ กำลังจะกลายเป็นเหมือนประชาคมเดียวกัน เพราะฉะนั้น การที่จะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
ด้าน น้องแมจิก หรือ ด.ญ.อรสา สิทธิโชคคณานนท์ ชั้น ป.4 โรงเรียนบางกอกทวีวิทย์ สาวน้อยที่ขอลายเซ็นจาก นายโทนี แบลร์ บอกถึงความรู้สึกว่า “รู้สึกดีใจมากที่ได้มาเรียนกับนายโทนี แบลร์ วันนี้ ปกติที่โรงเรียนก็มีครูชาวต่างชาติมาสอนหนูได้เรียนและพูดภาษาอังกฤษ วันนี้สำเนียงที่ นายโทนี แบลร์ พูดให้ฟังกับที่ครูสอนก็ไม่แตกต่างกัน แต่ถือว่าวันนี้หนูได้ประสบการณ์”
ขณะที่ ด.ญ.นภัสรพี สิมารังสรรค์ หรือ น้องเบลล์ ชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนมณีรัตน์ เล่าด้วยเสียงตื่นเต้นว่า วันนี้สนุกมากเลยคะที่ได้มาเจอ โทนี แบลร์ แต่เสียดายที่มีเวลาน้อยอยากได้เรียนนานๆ กว่านี้ถ้าเป็นไปได้อยากให้มาสอนอีก เพราะหนูชอบภาษาอังกฤษมากอยากพูดได้เก่งๆ ตอนนี้พูดได้เป็นบางคำง่ายๆ มีครูและคุณแม่คอยสอน เช่นเดียวกับ ด.ช.ธนดล เลี้ยงพาณิชย์ ชั้น ม.1 โรงเรียนโพธิสารพิทยากร บอกเช่นกันว่า ครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีมีคนดังๆ มาสอนภาษาอังกฤษให้ แม้จะเป็นเวลาไม่นาน ซึ่งในเรื่องของภาษาอังกฤษนั้นที่ของโรงเรียนนั้นก็มีส่งเสริมอย่างมาก โดยเฉพาะทุกวันอังคารจะกำหนดให้นักเรียนได้ฝึกพูด และสื่อสารภาษาอังกฤษ ซึ่งผมมองว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสำคัญต่อการใช้ชีวิต และการทำงานในอนาคตเพราะฉะนั้นควรต้องเรียนและสื่อสารได้
ถือว่าเป็นการเปิดตัวปีแห่งการพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ขี้เหร่ เพราะดึงคนดังอดีตนายกรัฐมนตรีมาเปิดงานได้คึกคัก จากนี้คงต้องจับตาว่าในทางปฏิบัติ ศธ.จะสามารถกระตุ้นให้เด็กและครูหันมา Speak English เตรียมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้อย่างปากว่าหรือไม่
บิ๊กเซอร์ไพรส์ รับปีแห่งการพูดภาษาอังกฤษ หรือโครงการ English Speaking Year 2012 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ถือโอกาสพิเศษที่ นายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร หรือ ประเทศอังกฤษ เดินทางมาร่วมหารือถึงนโยบายทางการศึกษาของไทย กับ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีสวมบทบาท “ครู” สอนภาษาอังกฤษให้แก่น้องๆ นักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา 80 คน จาก 8 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบางกอกทวีวิทย์ โรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศม์ โรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์ โรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์ โรงเรียนโพธิสารพิทยากร โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย วิทยาลัยเทคโนโลยีสันติราษฎร์บริหารธุรกิจ และโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์
ทันที่ นายโทนี แบลร์ ก้าวขึ้นเวทีก็เรียกเสียงฮือฮาจากเด็กๆ ที่มาต้องรับและมีตัวแทนนักเรียนไทยกล่าวต้อนรับเป็นภาษาไทย และ นายโทนี แบลร์ ได้ตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษ และเริ่มสอนภาษาอังกฤษให้นักเรียนได้พูดตาม เริ่มจากคำทักทายเป็นภาษาอังกฤษ ว่า “Hello”, “Thank You” และ It is wonderful to be with you today ซึ่งเด็กๆ ก็พูดตามกันอย่างพร้อมเพรียง นอกจากนี้ นายโทนี แบลร์ ยังเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ถามคำถามซึ่งเด็กๆ ได้โชว์ความสามารถถามเป็นภาษาอังกฤษ มีทั้งการถามความรู้สึกที่มีต่อประเทศไทย และการถามความเห็นเกี่ยวกับโครงการ English Speaking Year 2012 ซึ่ง นายโทนี แบลร์ ก็ตอบทุกคำถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม นอกจากนี้ ในตอนท้ายยังได้เซ็นชื่อให้ตามที่นักเรียนคนหนึ่งขอด้วย
นายโทนี แบลร์ พูดถึงโครงการ English Speaking Year 2012 ด้วยว่า “ผมดีใจที่ประเทศไทยรู้จักเรียนรู้ที่จะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร และเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญมาก สำหรับระบบการศึกษาไทย ที่นำโครงการ English Speaking Year 2012 มาเป็นนโยบาย เพราะเป็นสิ่งที่ควรจะทำ เป็นแนวคิดที่ดีและประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพ อนาคตที่ก้าวหน้า และการพูดภาษาอังกฤษจะช่วยคนไทยในเรื่องการสื่อสารกับนานาประเทศ อย่างไรก็ตาม ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่ง่าย ดังนั้น ภาษานี้ จึงเป็นภาษาที่ภูมิภาคอาเซียน ควรจะต้องรู้ ต้องใช้ภาษาอังกฤษ และโลกในปัจจุบันนี้ กำลังจะกลายเป็นเหมือนประชาคมเดียวกัน เพราะฉะนั้น การที่จะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
ด้าน น้องแมจิก หรือ ด.ญ.อรสา สิทธิโชคคณานนท์ ชั้น ป.4 โรงเรียนบางกอกทวีวิทย์ สาวน้อยที่ขอลายเซ็นจาก นายโทนี แบลร์ บอกถึงความรู้สึกว่า “รู้สึกดีใจมากที่ได้มาเรียนกับนายโทนี แบลร์ วันนี้ ปกติที่โรงเรียนก็มีครูชาวต่างชาติมาสอนหนูได้เรียนและพูดภาษาอังกฤษ วันนี้สำเนียงที่ นายโทนี แบลร์ พูดให้ฟังกับที่ครูสอนก็ไม่แตกต่างกัน แต่ถือว่าวันนี้หนูได้ประสบการณ์”
ขณะที่ ด.ญ.นภัสรพี สิมารังสรรค์ หรือ น้องเบลล์ ชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนมณีรัตน์ เล่าด้วยเสียงตื่นเต้นว่า วันนี้สนุกมากเลยคะที่ได้มาเจอ โทนี แบลร์ แต่เสียดายที่มีเวลาน้อยอยากได้เรียนนานๆ กว่านี้ถ้าเป็นไปได้อยากให้มาสอนอีก เพราะหนูชอบภาษาอังกฤษมากอยากพูดได้เก่งๆ ตอนนี้พูดได้เป็นบางคำง่ายๆ มีครูและคุณแม่คอยสอน เช่นเดียวกับ ด.ช.ธนดล เลี้ยงพาณิชย์ ชั้น ม.1 โรงเรียนโพธิสารพิทยากร บอกเช่นกันว่า ครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีมีคนดังๆ มาสอนภาษาอังกฤษให้ แม้จะเป็นเวลาไม่นาน ซึ่งในเรื่องของภาษาอังกฤษนั้นที่ของโรงเรียนนั้นก็มีส่งเสริมอย่างมาก โดยเฉพาะทุกวันอังคารจะกำหนดให้นักเรียนได้ฝึกพูด และสื่อสารภาษาอังกฤษ ซึ่งผมมองว่าภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสำคัญต่อการใช้ชีวิต และการทำงานในอนาคตเพราะฉะนั้นควรต้องเรียนและสื่อสารได้
ถือว่าเป็นการเปิดตัวปีแห่งการพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ขี้เหร่ เพราะดึงคนดังอดีตนายกรัฐมนตรีมาเปิดงานได้คึกคัก จากนี้คงต้องจับตาว่าในทางปฏิบัติ ศธ.จะสามารถกระตุ้นให้เด็กและครูหันมา Speak English เตรียมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้อย่างปากว่าหรือไม่
