กทม.เผยคืบหน้าใบเสร็จปลอม กก.ตรวจสอบพบปี 50-54 มีการจับปรับจุดผ่อนผันแค่ร้อยละ 30 เงินค่าปรับไม่เข้าคงคลัง
วันนี้ (5 ม.ค.) นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากการที่ กทม.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีใบเสร็จปลอม ของสำนักงานเขตบางรัก โดยได้ตั้ง นายกฤตภาส วิศรุตรัตน อดีตผู้ตรวจราชการ 10 เป็นประธาน สรุปผลการสอบสวนได้ 3 ประเด็น คือ 1.พบว่า ในช่วงปี 2550 - มี.ค.2554 พื้นที่เขตบางรัก มีการจับปรับผู้ค้านอกจุดผ่อนผันเพียงร้อยละ 30-40 จากบัญชีผู้ค้านอกจุดผ่อนผันที่มีอยู่ทั้งหมด ทั้งที่มีผู้ค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิมด้วย รวมทั้งยังมีพฤติกรรมเรียกเก็บเงินค่าปรับจากผู้ค้า โดยมีหัวคิวรวบรวมเก็บเงินจากผู้ค้า และมาดำเนินการออกใบเสร็จรับเงินให้ภายหลัง ซึ่งพฤติการณ์เช่นนี้ ทำให้ทางราชการเสียหาย ไม่ได้รับเงินค่าปรับตามความเป็นจริง ตนได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนหาคนรับผิดชอบเงินค่าปรับที่หายไปจากกรณีด้วย เฉพาะในเขตบางรักที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ คาดว่า มีเงินตกหล่นแต่ละปี จำนวน 8 หลัก หรือนับ 10 ล้านบาท โดยตนได้กำชับสั่งการให้มีเข้มงวดการทำงานของเทศกิจในเขตอื่นๆ ด้วย เพราะไม่ทราบว่าจะมีลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นกับเขตอื่นด้วยหรือไม่ จะต้องทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด
สำหรับประเด็นที่ 2 กรณีที่ของใบเสร็จปลอม ซึ่งในส่วนที่หัวหน้าฝ่ายเทศกิจนำไปร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า มีใบเสร็จปลอมและถูกข่มขู่นั้น กรณีการข่มขู่พบว่าเป็นเรื่องที่ผู้รัองมีความขัดแย้งกับบุคคลอื่น ส่วนใบเสร็จปลอมที่นำไปมอบให้กับตำรวจ กทม.ไม่สามารถไปตรวจสอบได้ แต่ทางคณะกรรมการได้ตรวจสอบใบเสร็จที่มีการออกให้ผู้ค้าของเขตบางรัก พบมีใบเสร็จปลอม 1 เล่ม เล่มที่ 2726 ที่มี 50 ฉบับ ที่มีการใช้ปรับผู้ค้า และไม่มีการนำเงินค่าปรับส่งคลัง ซึ่งมีลายมือชื่อผู้นำใบเสร็จไปใช้ และในชั้นนี้บุคคลดังกล่าวให้การปฏิเสธ ซึ่งทางปลัด กทม.จะได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยและอาญา ซึ่งจะมีความผิดทั้งผู้ที่ปลอมเอกสารดังกล่าว และผู้ที่นำเอกสารปลอมนั้นไปใช้ โดยเมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ปลัด กทม.ได้สั่งการไปยังเขตบางรัก ให้กวดขันการปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่เทศกิจ ในการเปรียบเทียบปรับผู้กระทำความผิดโดยทั่วถึง ครบถ้วน ถูกต้อง และเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และให้รายงานผลการจับปรับต่อสำนักเทศกิจ เพื่อสรุปรายงานต่อปลัด กทม.ทุกเดือน
และประเด็นที่ 3 ให้สำนักงานเขตบางรัก ติดตามความคืบหน้าคดีที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรายงานผลให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ กรณีใบเสร็จปลอมที่เกิดขึ้น คณะกรรมการชุดนี้ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และได้รับคำแนะนำจาก พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนการทุจริตและประพฤติมิชอบในการบริหารราชการกรุงเทพฯ (สสท.กทม.) ซึ่งตนจะใช้เรื่องนี้เป็นแนวทางในการกำชับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เทศกิจอย่างเข้มงวด ตลอดระยะเวลา 1 ปี 365 วัน ที่ตนยังทำหน้าที่อยู่ หลังจากนี้ ฝ่ายประจำต้องไปตั้งกรรมการเอาผิดกับคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนจะติดตามและจะไม่ปล่อยให้เป็นมวยล้ม หรือเรื่องเงียบหายไปเฉยๆ เด็ดขาด
วันนี้ (5 ม.ค.) นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากการที่ กทม.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีใบเสร็จปลอม ของสำนักงานเขตบางรัก โดยได้ตั้ง นายกฤตภาส วิศรุตรัตน อดีตผู้ตรวจราชการ 10 เป็นประธาน สรุปผลการสอบสวนได้ 3 ประเด็น คือ 1.พบว่า ในช่วงปี 2550 - มี.ค.2554 พื้นที่เขตบางรัก มีการจับปรับผู้ค้านอกจุดผ่อนผันเพียงร้อยละ 30-40 จากบัญชีผู้ค้านอกจุดผ่อนผันที่มีอยู่ทั้งหมด ทั้งที่มีผู้ค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิมด้วย รวมทั้งยังมีพฤติกรรมเรียกเก็บเงินค่าปรับจากผู้ค้า โดยมีหัวคิวรวบรวมเก็บเงินจากผู้ค้า และมาดำเนินการออกใบเสร็จรับเงินให้ภายหลัง ซึ่งพฤติการณ์เช่นนี้ ทำให้ทางราชการเสียหาย ไม่ได้รับเงินค่าปรับตามความเป็นจริง ตนได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนหาคนรับผิดชอบเงินค่าปรับที่หายไปจากกรณีด้วย เฉพาะในเขตบางรักที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ คาดว่า มีเงินตกหล่นแต่ละปี จำนวน 8 หลัก หรือนับ 10 ล้านบาท โดยตนได้กำชับสั่งการให้มีเข้มงวดการทำงานของเทศกิจในเขตอื่นๆ ด้วย เพราะไม่ทราบว่าจะมีลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นกับเขตอื่นด้วยหรือไม่ จะต้องทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด
สำหรับประเด็นที่ 2 กรณีที่ของใบเสร็จปลอม ซึ่งในส่วนที่หัวหน้าฝ่ายเทศกิจนำไปร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า มีใบเสร็จปลอมและถูกข่มขู่นั้น กรณีการข่มขู่พบว่าเป็นเรื่องที่ผู้รัองมีความขัดแย้งกับบุคคลอื่น ส่วนใบเสร็จปลอมที่นำไปมอบให้กับตำรวจ กทม.ไม่สามารถไปตรวจสอบได้ แต่ทางคณะกรรมการได้ตรวจสอบใบเสร็จที่มีการออกให้ผู้ค้าของเขตบางรัก พบมีใบเสร็จปลอม 1 เล่ม เล่มที่ 2726 ที่มี 50 ฉบับ ที่มีการใช้ปรับผู้ค้า และไม่มีการนำเงินค่าปรับส่งคลัง ซึ่งมีลายมือชื่อผู้นำใบเสร็จไปใช้ และในชั้นนี้บุคคลดังกล่าวให้การปฏิเสธ ซึ่งทางปลัด กทม.จะได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยและอาญา ซึ่งจะมีความผิดทั้งผู้ที่ปลอมเอกสารดังกล่าว และผู้ที่นำเอกสารปลอมนั้นไปใช้ โดยเมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ปลัด กทม.ได้สั่งการไปยังเขตบางรัก ให้กวดขันการปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่เทศกิจ ในการเปรียบเทียบปรับผู้กระทำความผิดโดยทั่วถึง ครบถ้วน ถูกต้อง และเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และให้รายงานผลการจับปรับต่อสำนักเทศกิจ เพื่อสรุปรายงานต่อปลัด กทม.ทุกเดือน
และประเด็นที่ 3 ให้สำนักงานเขตบางรัก ติดตามความคืบหน้าคดีที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรายงานผลให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ กรณีใบเสร็จปลอมที่เกิดขึ้น คณะกรรมการชุดนี้ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และได้รับคำแนะนำจาก พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนการทุจริตและประพฤติมิชอบในการบริหารราชการกรุงเทพฯ (สสท.กทม.) ซึ่งตนจะใช้เรื่องนี้เป็นแนวทางในการกำชับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เทศกิจอย่างเข้มงวด ตลอดระยะเวลา 1 ปี 365 วัน ที่ตนยังทำหน้าที่อยู่ หลังจากนี้ ฝ่ายประจำต้องไปตั้งกรรมการเอาผิดกับคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนจะติดตามและจะไม่ปล่อยให้เป็นมวยล้ม หรือเรื่องเงียบหายไปเฉยๆ เด็ดขาด