“วิทยา” กำชับทุกโรงพยาบาลบริการประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยนโยบาย 3 เร็ว 2 ดี ฟรีทั่วไทย สำรองเตียง เสริมกำลังหมอพยาบาล 2-3 เท่าตัว รับมือวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
วันนี้ (30 ธ.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.อภิชัย มงคล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมความพร้อมในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนช่วงฉลองเทศกาลปีใหม่ บนถนนพหลโยธิน เส้นทางสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้ตรวจเยี่ยมจุดบริการร่วมประชาชน ที่ อบต.ลำไทร หน้าปั๊ม ปตท.กม.ที่ 56 และจุดตรวจตำรวจทางหลวง กม.72-73 (หน้าวัดชูจิตธรรมาราม) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาล (รพ.) สระบุรี ได้มอบนโยบายให้แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 3 เร็ว 2 ดี ฟรีทั่วไทย คือ แจ้งเหตุเร็ว ชุดปฏิบัติการไปถึงที่เกิดเหตุได้รวดเร็ว ภายในเวลา 10 นาที และนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเร็ว แพทย์สามารถให้การรักษาเร็ว สำหรับ 2 ดี คือ คุณภาพการให้บริการทั้งในและนอกโรงพยาบาลดีทั้งในภาวะปกติและภาวะที่เกิดภัยพิบัติฉุกเฉิน เพื่อลดอันตรายของการบาดเจ็บและการเสียชีวิตของประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่
นายวิทยา กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ คาดว่า ประชาชนจะทยอยเดินทางไปต่างจังหวัดกันมากขึ้น เพื่อร่วมฉลองในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในวันพรุ่งนี้ ทำให้ปริมาณรถบนถนนสายหลักค่อนข้างหนาแน่น มีโอกาสเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุง่ายขึ้น กระทรวงสาธารณสุขได้เน้นการปฏิบัติงานใน 2 มาตรการ ประการแรก คือ มาตรการป้องกันอุบัติเหตุ โดยรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัย จัดเจ้าหน้าที่ร่วมให้บริการฟรีแก่ผู้เดินทาง ในจุดตรวจ/จุดบริการ บนเส้นทางหลวงและถนนในชุมชน ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น ตรวจวัดความดันโลหิต ทำแผล ปฐมพยาบาล แจกคำแนะนำการป้องกันอุบัติเหตุ บริการน้ำดื่ม ผ้าเย็น นอกจากนี้ ยังให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด ควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตรวจจับผู้กระทำผิดกฎหมาย เช่น ขายในเวลาห้ามขาย ขายในสถานที่ห้ามขายห้ามดื่ม ขายให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี หากมาตรการนี้สำเร็จ จะสามารถขจัดสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุได้กว่าร้อยละ 50
มาตรการที่ 2 คือ การรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บหรือป่วยฉุกเฉิน เป็นนาทีแห่งชีวิต เพื่อลดการเสียชีวิตผู้บาดเจ็บให้ได้มากที่สุด บริการฟรี โดยเปิดสายด่วน 1669 รับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมทีมแพทย์กู้ชีพครอบคลุมทุกพื้นที่ มีบุคลากรมืออาชีพกว่า 1 แสนคน พร้อมออกไปดูแลรักษาผู้บาดเจ็บที่จุดเกิดเหตุภายใน 10 นาทีหลังรับแจ้งและนำส่งโรงพยาบาลฟรี โดยให้โรงพยาบาลในสังกัด 875 แห่งทั่วประเทศ เตรียมแพทย์เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุฉุกเฉินและพยาบาลประจำห้องฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง สำรองเลือด เวชภัณฑ์ยา ห้องผ่าตัด เครื่องช่วยหายใจ ห้องไอ.ซี.ยู.และสำรองเตียงผู้ป่วยรองรับเพิ่มขึ้นอีก 30 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะในวันที่ 31 ธันวาคมและ 1 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด ได้สำรองทีมแพทย์พยาบาลเพิ่มขึ้นอีก 2-3 เท่าตัว
ด้านนพ.ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการ รพ.สระบุรี กล่าวว่า ได้เตรียมพร้อมรับเทศกาลปีใหม่ 2555 เปิดวอร์รูมเฝ้าระวังและปรับแผนการทำงานทุกวันตลอด 7 วันอันตราย เตรียมพร้อมศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการการแพทย์ฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง รถพยาบาล 5 คัน เพิ่มกำลังแพทย์ พยาบาลที่ห้องฉุกเฉิน 1-3 เท่าตัว สำรองเตียงผู้ป่วยในเพิ่ม 100 เตียง ห้องผ่าตัด 12 ห้อง เตียงผู้ป่วยหนัก เตียงเย็บแผล เตรียมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดทุกสาขา 21 คน แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน 2 คน พยาบาลวิชาชีพ 30 คน มีวิสัญญีแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง สำรองเลือดทุกหมู่ 100 ยูนิต
วันนี้ (30 ธ.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.อภิชัย มงคล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมความพร้อมในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนช่วงฉลองเทศกาลปีใหม่ บนถนนพหลโยธิน เส้นทางสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้ตรวจเยี่ยมจุดบริการร่วมประชาชน ที่ อบต.ลำไทร หน้าปั๊ม ปตท.กม.ที่ 56 และจุดตรวจตำรวจทางหลวง กม.72-73 (หน้าวัดชูจิตธรรมาราม) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาล (รพ.) สระบุรี ได้มอบนโยบายให้แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 3 เร็ว 2 ดี ฟรีทั่วไทย คือ แจ้งเหตุเร็ว ชุดปฏิบัติการไปถึงที่เกิดเหตุได้รวดเร็ว ภายในเวลา 10 นาที และนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเร็ว แพทย์สามารถให้การรักษาเร็ว สำหรับ 2 ดี คือ คุณภาพการให้บริการทั้งในและนอกโรงพยาบาลดีทั้งในภาวะปกติและภาวะที่เกิดภัยพิบัติฉุกเฉิน เพื่อลดอันตรายของการบาดเจ็บและการเสียชีวิตของประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่
นายวิทยา กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ คาดว่า ประชาชนจะทยอยเดินทางไปต่างจังหวัดกันมากขึ้น เพื่อร่วมฉลองในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในวันพรุ่งนี้ ทำให้ปริมาณรถบนถนนสายหลักค่อนข้างหนาแน่น มีโอกาสเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุง่ายขึ้น กระทรวงสาธารณสุขได้เน้นการปฏิบัติงานใน 2 มาตรการ ประการแรก คือ มาตรการป้องกันอุบัติเหตุ โดยรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัย จัดเจ้าหน้าที่ร่วมให้บริการฟรีแก่ผู้เดินทาง ในจุดตรวจ/จุดบริการ บนเส้นทางหลวงและถนนในชุมชน ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น ตรวจวัดความดันโลหิต ทำแผล ปฐมพยาบาล แจกคำแนะนำการป้องกันอุบัติเหตุ บริการน้ำดื่ม ผ้าเย็น นอกจากนี้ ยังให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด ควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตรวจจับผู้กระทำผิดกฎหมาย เช่น ขายในเวลาห้ามขาย ขายในสถานที่ห้ามขายห้ามดื่ม ขายให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี หากมาตรการนี้สำเร็จ จะสามารถขจัดสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุได้กว่าร้อยละ 50
มาตรการที่ 2 คือ การรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บหรือป่วยฉุกเฉิน เป็นนาทีแห่งชีวิต เพื่อลดการเสียชีวิตผู้บาดเจ็บให้ได้มากที่สุด บริการฟรี โดยเปิดสายด่วน 1669 รับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมทีมแพทย์กู้ชีพครอบคลุมทุกพื้นที่ มีบุคลากรมืออาชีพกว่า 1 แสนคน พร้อมออกไปดูแลรักษาผู้บาดเจ็บที่จุดเกิดเหตุภายใน 10 นาทีหลังรับแจ้งและนำส่งโรงพยาบาลฟรี โดยให้โรงพยาบาลในสังกัด 875 แห่งทั่วประเทศ เตรียมแพทย์เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุฉุกเฉินและพยาบาลประจำห้องฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง สำรองเลือด เวชภัณฑ์ยา ห้องผ่าตัด เครื่องช่วยหายใจ ห้องไอ.ซี.ยู.และสำรองเตียงผู้ป่วยรองรับเพิ่มขึ้นอีก 30 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะในวันที่ 31 ธันวาคมและ 1 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด ได้สำรองทีมแพทย์พยาบาลเพิ่มขึ้นอีก 2-3 เท่าตัว
ด้านนพ.ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการ รพ.สระบุรี กล่าวว่า ได้เตรียมพร้อมรับเทศกาลปีใหม่ 2555 เปิดวอร์รูมเฝ้าระวังและปรับแผนการทำงานทุกวันตลอด 7 วันอันตราย เตรียมพร้อมศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการการแพทย์ฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง รถพยาบาล 5 คัน เพิ่มกำลังแพทย์ พยาบาลที่ห้องฉุกเฉิน 1-3 เท่าตัว สำรองเตียงผู้ป่วยในเพิ่ม 100 เตียง ห้องผ่าตัด 12 ห้อง เตียงผู้ป่วยหนัก เตียงเย็บแผล เตรียมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดทุกสาขา 21 คน แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน 2 คน พยาบาลวิชาชีพ 30 คน มีวิสัญญีแพทย์ตลอด 24 ชั่วโมง สำรองเลือดทุกหมู่ 100 ยูนิต