กรมศิลป์ตามหาผังระบายน้ำโบราณวัดอรุณฯ เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว ด้านเจ้าอาวาสโอดไร้งบดูแลวัด อ้อนขอเก็บค่าเข้าชมองค์พระปรางค์เฉพาะต่างชาติคนละ 20 บาท นำเงินมาทำนุบำรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม
วันนี้ (21 ธ.ค.) นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) กล่าวถึงกรณีดินทรุดและเชื้อราขึ้นพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม หลังน้ำท่วม ว่า ขณะนี้การซ่อมแซมจุดที่ทรุดบริเวณรอบองค์พระปรางค์เสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ภายหลังซ่อมเสร็จจะต้องติดตามดูว่าจะมีการทรุดตัวอีกหรือไม่ สำหรับปัญหาเชื้อรา ตนรู้สึกกังวลมาก แต่ทางกรมศิลปากร บอกว่า ต้องรอตั้งงบประมาณก่อน ซึ่งใจจริงอยากให้เข้าไปกำจัดเชื้อราอย่างเร่งด่วน โดยโยกงบประมาณที่จะซ่อมแซมระบบท่อบางส่วนมาใช้ทำความสะอาดเชื้อราก่อน เพราะผิวรอบองค์พระปรางค์ดำมาก เกรงว่า เชื้อราจะทำให้เกิดผลกระทบต่อองค์พระปรางค์ได้
นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักโบราณคดี กล่าวว่า ขณะนี้วิศวกรได้ดำเนินการแก้ปัญหาดินทรุดตรงกำแพงโบราณ เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการจัดค้นหาผังระบายน้ำฉบับโบราณมาดู เพื่อวางแผนการแก้ปัญหาระยะยาวในเรื่องความชื้นและระบบระบายน้ำของวัด ส่วนปัญหาเรื่องเชื้อรานั้น หลังช่วงเทศกาลปีใหม่จะเข้าไปดำเนินการ โดยเบื้องต้นจะต้องจัดทำแผนของบประมาณเสนอต่อ รัฐมนตรีว่าการ วธ.และจากได้รับอนุมัติงบ ก็จะดำเนินการขัดและทำความสะอาดได้ทันที
ด้านพระเทพมงคลรังษี เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลในเรื่องดินทรุด เพราะกรมศิลปากรแจ้งว่าสามารถบูรณปฏิสังขรณ์และซ่อมแซมได้ บางอย่างที่พระทำไม่ได้ เราจะต้องประสานให้หน่วยงานราชการส่งเจ้าหน้าที่ ข้าราชการเข้ามาดูแล ก็ทำให้หมดห่วงปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม อยากขอให้มีการสำรวจวัดอย่างละเอียดยังมีจุดต้องบูรณะซ่อมแซมอีกหรือไม่ ส่วนองค์พระปรางค์นั้นเคยบูรณะใหญ่มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่เมื่อช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมามีน้ำจะไหลเข้ามาใต้พระปรางค์ ทำให้เกิดความชื้นมากเพราะมีท่ออยู่ข้างล่าง น้ำจะล้นขึ้นมาแฉะๆ พระปรางค์จึงขึ้นรา จึงห่วงว่าจะเกิดความเสียหายได้
“ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาชมรอบองค์พระปรางค์จำนวนมาก หากมาเดินชมรอบนอกจะไม่เสียค่าเข้าชม ถ้าเดินขึ้นไปสักการะองค์พระปรางค์จะเก็บค่าเข้าชมคนละ 20 บาท แต่ทางวัดอรุณราชวรารามอยากจะเก็บค่าเข้าชมกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกคนๆ ละ 20 บาท ไม่ว่าจะชมอยู่รอบนอก รอบใน หรือจะขึ้นลงองค์พระปรางค์ก็ตาม เพื่อนำเงินมาทำนุบำรุงภูมิทัศน์และจ้างคนมาดูแล โดยเฉพาะการดูแลต้นไม้ที่มีเป็นจำนวนมาก ทางวัดเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายเอง เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีการเก็บค่าเข้าชมภายในบริเวณวัดเลย ดังนั้น ทางวัดจึงอยากจะเก็บค่าเข้าชมเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่วนคนไทยก็เข้าชมฟรี” พระเทพมงคลรังษี กล่าว
วันนี้ (21 ธ.ค.) นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) กล่าวถึงกรณีดินทรุดและเชื้อราขึ้นพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม หลังน้ำท่วม ว่า ขณะนี้การซ่อมแซมจุดที่ทรุดบริเวณรอบองค์พระปรางค์เสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ภายหลังซ่อมเสร็จจะต้องติดตามดูว่าจะมีการทรุดตัวอีกหรือไม่ สำหรับปัญหาเชื้อรา ตนรู้สึกกังวลมาก แต่ทางกรมศิลปากร บอกว่า ต้องรอตั้งงบประมาณก่อน ซึ่งใจจริงอยากให้เข้าไปกำจัดเชื้อราอย่างเร่งด่วน โดยโยกงบประมาณที่จะซ่อมแซมระบบท่อบางส่วนมาใช้ทำความสะอาดเชื้อราก่อน เพราะผิวรอบองค์พระปรางค์ดำมาก เกรงว่า เชื้อราจะทำให้เกิดผลกระทบต่อองค์พระปรางค์ได้
นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักโบราณคดี กล่าวว่า ขณะนี้วิศวกรได้ดำเนินการแก้ปัญหาดินทรุดตรงกำแพงโบราณ เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการจัดค้นหาผังระบายน้ำฉบับโบราณมาดู เพื่อวางแผนการแก้ปัญหาระยะยาวในเรื่องความชื้นและระบบระบายน้ำของวัด ส่วนปัญหาเรื่องเชื้อรานั้น หลังช่วงเทศกาลปีใหม่จะเข้าไปดำเนินการ โดยเบื้องต้นจะต้องจัดทำแผนของบประมาณเสนอต่อ รัฐมนตรีว่าการ วธ.และจากได้รับอนุมัติงบ ก็จะดำเนินการขัดและทำความสะอาดได้ทันที
ด้านพระเทพมงคลรังษี เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลในเรื่องดินทรุด เพราะกรมศิลปากรแจ้งว่าสามารถบูรณปฏิสังขรณ์และซ่อมแซมได้ บางอย่างที่พระทำไม่ได้ เราจะต้องประสานให้หน่วยงานราชการส่งเจ้าหน้าที่ ข้าราชการเข้ามาดูแล ก็ทำให้หมดห่วงปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม อยากขอให้มีการสำรวจวัดอย่างละเอียดยังมีจุดต้องบูรณะซ่อมแซมอีกหรือไม่ ส่วนองค์พระปรางค์นั้นเคยบูรณะใหญ่มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่เมื่อช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมามีน้ำจะไหลเข้ามาใต้พระปรางค์ ทำให้เกิดความชื้นมากเพราะมีท่ออยู่ข้างล่าง น้ำจะล้นขึ้นมาแฉะๆ พระปรางค์จึงขึ้นรา จึงห่วงว่าจะเกิดความเสียหายได้
“ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาชมรอบองค์พระปรางค์จำนวนมาก หากมาเดินชมรอบนอกจะไม่เสียค่าเข้าชม ถ้าเดินขึ้นไปสักการะองค์พระปรางค์จะเก็บค่าเข้าชมคนละ 20 บาท แต่ทางวัดอรุณราชวรารามอยากจะเก็บค่าเข้าชมกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกคนๆ ละ 20 บาท ไม่ว่าจะชมอยู่รอบนอก รอบใน หรือจะขึ้นลงองค์พระปรางค์ก็ตาม เพื่อนำเงินมาทำนุบำรุงภูมิทัศน์และจ้างคนมาดูแล โดยเฉพาะการดูแลต้นไม้ที่มีเป็นจำนวนมาก ทางวัดเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายเอง เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีการเก็บค่าเข้าชมภายในบริเวณวัดเลย ดังนั้น ทางวัดจึงอยากจะเก็บค่าเข้าชมเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่วนคนไทยก็เข้าชมฟรี” พระเทพมงคลรังษี กล่าว
