สำรวจหนี้ครู ตั้งเป้าลดหนี้ เพิ่มทรัพย์สิน

ศธ.เร่งสำรวจข้อมูลหนี้ครู เพื่อวางแผนแก้ไขระยะยาว ตั้งเป้าภายในช่วงอายุการทำงานของรัฐบาลจะทำให้ครูลดจำนวนหนี้สินและมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น พร้อมเปิดให้ผู้กู้กองทุนหมุนเวียนรายเก่า ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมเร่งแจ้งต่อ ธ.ก.ส.เพื่อได้สิทธิพักชำระหนี้ 3 ปี ขณะที่ผู้กู้รายใหม่ให้กู้ไม่เกินวงเงิน 3 แสนบาท อัตราดอกเบี้ยที่ MLR-3 และได้สิทธิพักหนี้ 3 ปีเช่นกันแต่ต้องใช้ภายใน 8 ปี

น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมประชุมคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีมติให้ผู้กู้รายเก่าซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมเข้าแจ้งเรื่องต่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 มกราคม 2555 เพื่อที่จะได้รับการพักชำระหนี้ทั้งต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 ปี ขณะเดียวกันสำหรับผู้กู้รายใหม่ที่จะกู้เนื่องจากได้รับกระทบน้ำท่วมนั้น เปิดให้กู้วงเงินไม่เกิน 3 แสนบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยที่ MLR-3 และให้พักชำระหนี้เป็นเวลา 3 ปีเช่นเดียวกัน แต่เมื่อครบกำหนดพักชำระหนี้จะต้องชำระหนี้คืนภายในระยะเวลา 8 ปี อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการพักชำระหนี้ 3 ปีนั้นจะนับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555 ไปสิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557

สิ่งที่เป็นห่วง คือ หลังจากพักชำระหนี้ไปเป็นเวลา 3 ปี พอเริ่มเข้าปีที่ 4 ผู้กู้จะต้องจ่ายเงินทั้งต้นและดอก ดังนั้น ผู้กู้เองก็ต้องบริหารจัดการให้ดีต้องมีกำลังการผ่อน ต้องมีเงินเดือนเหลือพอใช้ด้วย ที่ประชุมจึงเห็นว่าเพื่อเป็นการดูแลแก้ไขปัญหาหนี้สินครูอย่างเป็นระบบ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้มีการปฏิรูปครู และนโยบายของรัฐมนตรีว่าการ ศธ. ที่ต้องการให้มีการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้ครู ดังนั้น จึงมีมติให้ไปตรวจสอบจำนวนข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ที่มีหนี้สินในระบบการเงินของกระทรวง ไม่ว่าจะเป็นหนี้ของสหกรณ์ครู หรือโครงการสวัสดิการเงินกู้กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) เป็นต้น เพื่อนำมาวางแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครูในระยะยาว

“ตอนนี้ข้าราชการครูมีจำนวน 650,000 คน ในจำนวนนี้มีครูเป็นหนี้ประมาณ 100,000 คนมูลค่าหนี้ประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงรายละเอียดเบื้องต้นเท่านั้นยังต้องสำรวจและสรุปตัวเลขจำนวนครู และมูลค่าหนี้ที่แท้จริงมาให้ได้ แต่ได้ตั้งเป้าหมายว่าภายในระยะเวลา 4 ปีของการปฏิบัติงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่มีการกำหนดโครงการสวัสดิการต่างๆ ขึ้นมานั้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเงินเดือน จะต้องหาวิธีการที่จะทำให้ครูทีเป็นหนี้นั้นมีจำนวนหนี้สินลดลงขณะที่มีสินทรัพย์มากขึ้น ซึ่งไม่ได้หมายความว่าครูจะไม่มีหนี้เลยเพียงแต่จะทำให้หนี้สินที่มีอยู่ลดน้อยลง น.ส.ศศิธารา กล่าว