โบกมือลา “ป้าน้ำ” ถึงเวลาฟื้นฟูกรุงเทพฯ!!

โบกมือลา “ป้าน้ำ” ถึงเวลาฟื้นฟูกรุงเทพฯ!!
รัชญา จันทะรัง

เมื่อ “ป้าน้ำ” กำลังโบกมือลาจากทุกตารางนิ้วของมหานครกรุงเทพหลังจากที่รัฐบาล “เอาอยู่” บริหารจัดการจน กทม.ท่วมเกือบทุกพื้นที่ ยังดีที่อุตส่าห์เหลือพื้นที่แห้งๆไว้ 13 เขต จาก 50 เขต โดยไม่ต้องซ่อมแซมและฟื้นฟูตามแผนยุทธศาสตร์ฟื้นฟู เยียวยา ป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัยกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2554 ซึ่ง แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ มาตรการระยะสั้น 90 วัน, มาตรการระยะปานกลาง 1 ปี และมาตรการระยะยาวมากกว่า 1 ปี

สำหรับมาตรการระยะสั้นจะเร่งเยียวยา ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ พร้อมเร่งสำรวจข้อมูล และการจ่ายเงินชดเชยความเสียหายซึ่งล่าสุด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ระบุว่า การขึ้นทะเบียนรับเงินเยียวยาขณะนี้มีประชาชนมาลงทะเบียนแล้วประมาณ 360,000-370,000 ราย มีการบันทึกข้อมูลและส่งให้กับกระทรวงมหาดไทยประมาณ 1 ใน 3 ซึ่งชาวคลองสามวา คันนายาว และดอนเมืองบางส่วน ได้รับเงินเยียวยาจำนวน 5,000 บาทไปแล้ว อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำถึง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย อาคารสงเคราะห์และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและสินเชื่อแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทั้งที่มีทะเบียนบ้าน และไม่มีทะเบียนบ้านอยู่ใน กทม.สามารถกู้เงินอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อนำไปซ่อมแซมบ้านและทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งนำไปลงทุนทำการค้า ฟื้นฟูหรือสร้างกิจการใหม่ แถมยังสามารถผ่อนชำระได้นานถึง 30 ปี

“โครงการยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม เป็นโครงการที่ กทม.จัด ทำขึ้นเพื่อมุ่งหวังให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ผู้ประกอบการรายย่อยรวมทั้งผู้ประกอบกิจการ ธุรกิจ การค้า หรือบริการขนาดเล็กที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วมด้วยสถานการณ์ มหาอุทกภัย ที่ผ่านมาพบว่าประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับความเสียหายจำนวน 600,000 ครัวเรือน จากทั้งหมด 37 เขต ซึ่งจะจัดมหกรรมยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วมขึ้นในวันเสาร์ที่ 24ธ.ค.นี้ ณ อาคารกีฬาเวสน์ ศูนย์กีฬาเยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว

นอกจากนี้ กทม.ยังได้จัด “มหกรรมสินค้าถูกรวมกันเราทำได้” โดย กทม.ได้ จัดทำโครงการจำหน่ายสินค้าราคาถูกจากผู้ผลิตและผู้ประกอบการโดยตรงเพื่อ บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วม ซึ่งภายในงานยังมีการจัดหางาน ซ่อมรถจักรยานยนต์ การฝึกอาชีพโดยมหกรรมสินค้าถูก รวมกันเราทำได้ จะจัดขึ้นต่อเนื่อง 4 วันใน 4 มุมเมืองสำคัญ

ทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าฯกทม.ระบุเพิ่มเติมว่า กทม.ยังได้ร่วมกับ บริษัท โอสถสภา จำกัด กองทัพภาคที่ 1 และ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ด้วยการปรับปรุงซ่อมแซมอาคาร บ้านเรือนในชุมชนต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายรุนแรงจากอุทกภัยในพื้นที่ 5 เขต ได้แก่ ดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางแค และ ทวีวัฒนา โดยภาคเอกชนโอสถสภาได้สนับสนุนงบประมาณทั้งหมด 10 ล้านบาท กองทัพบกและสำนักงานอาชีวศึกษาสนับสนุนกำลังคนในการดำเนินการ ตั้งเป้าซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนได้ 500 หลังคาเรือน ในงบประมาณ 20,000 บาท ต่อหลังคาเรือน เช่น ซ่อมแซมประตูและบันได เปลี่ยนหน้าต่าง ทาสีอาคารกับรั้ว ทำความสะอาดบ้านเรือน เบื้องต้นให้แต่ละเขตคัดเลือกบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัยรุนแรง เป็นบ้านชั้นเดียว ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ก่อน

นอกจากนี้ ในภาวะวิกฤต กทม.ยังริเริ่มให้เกิดการจัดการขยะอย่างเป็นระบบลดภาระในการจัดเก็บ และฝังกลบ ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาในการจัดการขยะตกค้าง และเป็นจุดเริ่มในการสร้างวัฒนธรรมของสังคมไทยในการคัดแยกและจัดการขยะอย่าง มีส่วนร่วมและยั่งยืน โดยมีแผนการจัดการคัดแยกขยะ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางอย่างเป็นระบบ

ในส่วนของแผนมาตรการระยะปานกลาง เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำระบบคลอง และแนวป้องกันน้ำท่วมที่ยังมีจุดอ่อนรองรับการระบายน้ำในปี 2555 โดยขุดลอกคลอง 2,000 แห่ง ก่อสร้างเขื่อนถาวรในแนวป้องกันน้ำท่วมที่ยังมีจุดอ่อน จัดการอุปสรรคขวางทางระบายน้ำต่างๆ พร้อมติดตั้งเครื่องเร่งผลักดันน้ำในคูคลองออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และอ่าวไทย จัดวางระบบการประสานงานและให้มีระบบเตือนภัยให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งจัดระบบข้อมูลสารสนเทศให้ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการวางแผนฟื้นฟูเมืองและป้องกันน้ำท่วมในอนาคต

ขณะที่แผนฟื้นฟูฯ ระยะยาวโดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการลำเลียงน้ำและระบบป้องกันน้ำท่วม เช่น อุโมงค์และระบบระบายน้ำต่างๆ ขุดลอกคลองขนาดเล็ก-ใหญ่ พร้อมปรับปรุงกฎหมาย ผังเมือง และกำหนดมาตรการดูแลผู้ถูกลิดรอนสิทธิ สร้างระบบฐานข้อมูลการบริหารจัดการน้ำให้รองรับการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องและจังหวัดใกล้เคียง

และไม่เพียงแค่ “ป้าน้ำ” จะส่งผลให้ กทม.ต้องวางแผนฟื้นฟู เยียวยาคนเมืองก็ยังส่งผลให้ต้องเลื่อนโครงการทางด้านผังเมืองต่างๆ ออกไปถึง 5 โครงการ

ทั้งนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ประกาศชัดว่า กทม.จะตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว ซึ่งตนเองเป็นประธานในการบริหารจัดการและได้มีการทบทวนโครงการ รวมถึงงบประมาณต่างๆที่จะใช้ในปีหน้า โดยในโครงการใหญ่ที่เตรียมไว้ที่ต้องใช้งบประมาณมากอาทิ โครงการรถไฟฟ้าระบบโมโนเรล ระบบไลท์เรล อาจต้องชะลอโครงการไว้ก่อน เพื่อนำงบประมาณในส่วนนี้มาดำเนินการโครงการแก้ไข ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯโดยเฉพาะการซ่อมแซม และยกระดับของถนนสายสำคัญต่างๆ ในการทำหน้าที่เป็นตัวชะลอน้ำเข้าสู่พื้นที่ต่างๆ ทั้งทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพฯ ซึ่งถนนใน กทม.ทั้งหมดเสียหายถึง 98 เส้นทาง

ส่วนโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการ ป้องกันน้ำ เช่น โครงการอุโมงค์ยักษ์ยืนยันจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเตรียมสร้างแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมแนวคลองมหาสวัสดิ์และคลองหกวาสายล่างที่จะเร่งเดินหน้าโครงการอย่างเร็วที่สุด

“อยากขอความร่วมมือไปยังรัฐบาลในการสร้างแนวเขื่อนกั้นน้ำในฝั่งจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดปทุมธานี ถ้า กทม.สร้างด้านเดียวหากน้ำมาก็จะท่วมแบบเดิมอีก นอกจากนี้อยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาประชาชนที่สร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำเข้าไปในคลองเปรมประชากรซึ่งมีจำนวนมาก ทำให้ช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมาการระบายน้ำในพื้นที่ที่ติดคลองทำได้ช้า ทั้งนี้ การแก้ปัญหาน้ำท่วมต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากรัฐบาล กทม.ที่สำคัญ คือ ประชาชน” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ย้ำชัดๆ ทิ้งท้าย