สกอ.เดินหน้าจี้ขอความชัดเจน “วรวัจน์” โครงการครูพันธุ์ใหม่อีกครั้ง หลังเคยเสนอไปแล้วแต่ไม่ได้รับความสนใจ ด้าน รมว.ศึกษาฯ บอกไม่สนใจโครงการเก่าเน้นเดินหน้างานตามนโยบายรัฐบาล แต่ไม่คิดชะลอ หรือยุติโครงการที่มีอยู่ พร้อมผุดโครงการครูคลังสมอง ทดแทนชี้มีเวลาเพียง 2-3 ปีในการพัฒนาคนรองรับการเข้าสู่อาเซียนจะมารอแต่ครูประจำการไม่ได้
รศ.ดร.พินิติ รตะนานุกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) นิสิต นักศึกษา ผู้ปกครอง จะทวงถามขอความชัดเจนโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ ปีการศึกษา 2554 จาก นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ภายในสัปดาห์นี้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) จะเสนอเรื่องไปยัง รมว.ศึกษาธิการ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการ และคณะกรรมการคัดเลือกสถาบันฝ่ายผลิตและนักศึกษาทุนโครงการชุดใหม่ ซึ่งต้องเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากคณะกรรมการดำเนินโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ชุดเดิมได้หมดวาระลงตามรัฐบาลที่แล้ว ส่งผลทำให้การดำเนินการของโครงการไม่สามารถทำต่อไปได้
ก่อนหน้า สกอ.เคยเสนอเรื่องต่อ รมว.ศึกษาธิการไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ และที่ผ่านมา สกอ. ได้มีการเสนอของบประมาณปี 2555 จำนวน 278.70 ล้านบาท เพื่อจะมาดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อตามมติ ครม.ชุดเดิมที่ให้ดำเนินการตั้งแต่ปี 2554-2558 จำนวน 5 รุ่น รวมทั้งสิ้น 30,000 คน แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาจาก รมว.ศึกษาธิการ แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นิสิต/นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ปีการศึกษา 2554 อาจจะได้รับการประกันการมีงานทำอย่างเดียว เพราะติดขัดปัญหางบประมาณ และขณะนี้ สกอ.ได้ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ในการจัดทำแผนอัตรารองรับนักศึกษาทุนแล้ว จำนวน 5,000 คน แบ่งเป็น สพฐ.4,500 อัตรา และ สอศ.500 อัตรา
รศ.ดร.พินิติ กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ที่ผ่านมาในส่วนของการคัดเลือกนักศึกษาที่กำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรปริญญาตรี 5 ปี ประเภทประกันการมีงานทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงให้คณะกรรมบริหารโครงการชุดใหม่ประกาศรายชื่อนักศึกษาเท่านั้น ส่วนการดำเนินการคัดเลือกนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 หลักสูตรปริญญาตรี 5 ปี และหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู ยังอยู่ระหว่างการคัดเลือกสถาบันฝ่ายผลิต จึงทำไม่สามารถดำเนินการคัดเลือกผู้รับทุนได้ และที่สำคัญต้องรอคณะกรรมการชุดใหม่มาพิจารณาเรื่องต่างๆ ด้วย
ด้านนายวรวัจน์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือว่าไม่ใช่นโยบายหลักของรัฐบาล ดังนั้น ในขณะนี้ ตนจะเน้นเดินหน้าและพิจารณางานที่เป็นนโยบายของรัฐบาลก่อน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า จะไปชะลอหรือยุติโครงการที่มีอยู่เดิม โครงการใดที่ทำอยู่แล้วก็ให้ดำเนินการต่อไป ส่วนโครงการครูพันธุ์ใหม่นั้นจะต้องมาหารือในรายละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม จากเดิมที่ผลิตครูเพื่อมารับราชการ มาเป็นครูประจำการ เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาวิชาเฉพาะที่เรียนเท่านั้น วันนี้ต้องเปลี่ยนมาเป็น ผลิตครูคลังสมอง โดยมีแนวคิดว่าจะนำผู้เชี่ยวชาญในสาขาการเรียนการสอนต่างๆ รวมถึงวิชาชีพต่างมาสอนหนังสือ เพราะต่อไปการศึกษาต้องเชื่อมโยงกันตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานจนถึงอุดมศึกษา
“ตอนนี้เรามีเวลาเพียงแค่ 2-3 ปี ที่จะพัฒนาประเทศเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน ดังนั้น ปัญหาการขาดแคลนครูจะมารอคนรุ่นใหม่ ที่จบออกมารับราชการเป็นครูประจำการอย่างเดียวไม่ได้ เพราะตอนนี้ประเทศต้องเดินไปข้างหน้า เพื่อให้ทันกับการแข่งขันกับโลก จึงต้องนำคนที่มีองค์ความรู้อยู่มาเสริมองค์ความรู้ ช่วยพัฒนาบุคลากรของประเทศ ซึ่งต่อไปเราอาจจะมีเป็นนักวิจัย หรือมีผู้ประกอบการมาเป็นครูได้” นายวรวัจน์ กล่าว
รศ.ดร.พินิติ รตะนานุกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) นิสิต นักศึกษา ผู้ปกครอง จะทวงถามขอความชัดเจนโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ ปีการศึกษา 2554 จาก นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ภายในสัปดาห์นี้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) จะเสนอเรื่องไปยัง รมว.ศึกษาธิการ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการ และคณะกรรมการคัดเลือกสถาบันฝ่ายผลิตและนักศึกษาทุนโครงการชุดใหม่ ซึ่งต้องเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากคณะกรรมการดำเนินโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ชุดเดิมได้หมดวาระลงตามรัฐบาลที่แล้ว ส่งผลทำให้การดำเนินการของโครงการไม่สามารถทำต่อไปได้
ก่อนหน้า สกอ.เคยเสนอเรื่องต่อ รมว.ศึกษาธิการไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ และที่ผ่านมา สกอ. ได้มีการเสนอของบประมาณปี 2555 จำนวน 278.70 ล้านบาท เพื่อจะมาดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อตามมติ ครม.ชุดเดิมที่ให้ดำเนินการตั้งแต่ปี 2554-2558 จำนวน 5 รุ่น รวมทั้งสิ้น 30,000 คน แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาจาก รมว.ศึกษาธิการ แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นิสิต/นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ปีการศึกษา 2554 อาจจะได้รับการประกันการมีงานทำอย่างเดียว เพราะติดขัดปัญหางบประมาณ และขณะนี้ สกอ.ได้ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ในการจัดทำแผนอัตรารองรับนักศึกษาทุนแล้ว จำนวน 5,000 คน แบ่งเป็น สพฐ.4,500 อัตรา และ สอศ.500 อัตรา
รศ.ดร.พินิติ กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ที่ผ่านมาในส่วนของการคัดเลือกนักศึกษาที่กำลังศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรปริญญาตรี 5 ปี ประเภทประกันการมีงานทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงให้คณะกรรมบริหารโครงการชุดใหม่ประกาศรายชื่อนักศึกษาเท่านั้น ส่วนการดำเนินการคัดเลือกนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 หลักสูตรปริญญาตรี 5 ปี และหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู ยังอยู่ระหว่างการคัดเลือกสถาบันฝ่ายผลิต จึงทำไม่สามารถดำเนินการคัดเลือกผู้รับทุนได้ และที่สำคัญต้องรอคณะกรรมการชุดใหม่มาพิจารณาเรื่องต่างๆ ด้วย
ด้านนายวรวัจน์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือว่าไม่ใช่นโยบายหลักของรัฐบาล ดังนั้น ในขณะนี้ ตนจะเน้นเดินหน้าและพิจารณางานที่เป็นนโยบายของรัฐบาลก่อน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า จะไปชะลอหรือยุติโครงการที่มีอยู่เดิม โครงการใดที่ทำอยู่แล้วก็ให้ดำเนินการต่อไป ส่วนโครงการครูพันธุ์ใหม่นั้นจะต้องมาหารือในรายละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม จากเดิมที่ผลิตครูเพื่อมารับราชการ มาเป็นครูประจำการ เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาวิชาเฉพาะที่เรียนเท่านั้น วันนี้ต้องเปลี่ยนมาเป็น ผลิตครูคลังสมอง โดยมีแนวคิดว่าจะนำผู้เชี่ยวชาญในสาขาการเรียนการสอนต่างๆ รวมถึงวิชาชีพต่างมาสอนหนังสือ เพราะต่อไปการศึกษาต้องเชื่อมโยงกันตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานจนถึงอุดมศึกษา
“ตอนนี้เรามีเวลาเพียงแค่ 2-3 ปี ที่จะพัฒนาประเทศเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน ดังนั้น ปัญหาการขาดแคลนครูจะมารอคนรุ่นใหม่ ที่จบออกมารับราชการเป็นครูประจำการอย่างเดียวไม่ได้ เพราะตอนนี้ประเทศต้องเดินไปข้างหน้า เพื่อให้ทันกับการแข่งขันกับโลก จึงต้องนำคนที่มีองค์ความรู้อยู่มาเสริมองค์ความรู้ ช่วยพัฒนาบุคลากรของประเทศ ซึ่งต่อไปเราอาจจะมีเป็นนักวิจัย หรือมีผู้ประกอบการมาเป็นครูได้” นายวรวัจน์ กล่าว