“วรวัจน์” จี้ อาชีวะเร่งยกร่างกฎหมายให้บอร์ดพิจารณาก่อนเสนอ ครม.เห็นชอบ คาด เรียบร้อยในเดือน ธ.ค.นี้ และเริ่มเปิดสอน ป.ตรี สายปฏิบัติการทันปี 55 และสอนได้เต็มตัวในปี 56
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา 19 กลุ่มสถาบัน ว่า ขณะนี้ตนได้กำชับให้นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) ไปเร่งดำเนินการรวบรวมรายละเอียดทั้งในเรื่องร่างกฎกระทรวง รวมถึงกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอบอร์ด กอศ.พิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบ โดยคาดว่า น่าจะเรียบร้อยภายในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งหากเป็นตามที่คาดการณ์นั้น จะส่งผลให้สามารถจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาได้ในเดือน ม.ค.2555 และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สามารถร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่เพื่อปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนที่มีอยู่ให้เหมาะสมสอดคล้องกับ 7 กลุ่มอาชีพที่ ศธ.วางแนวทางไว้ โดยทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยภายในเดือน ม.ค.2555 เท่ากับว่าเราสามารถเริ่มจัดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรีสายปฏิบัติการได้ทันปีการศึกษา 2555
อย่างไรก็ตาม จะยังไม่มีการสร้างอาคารใหม่เพื่อเป็นที่ตั้งของสถาบันการอาชีวศึกษา แต่จะใช้อาคารที่มีอยู่แล้วเช่นเดียวกับอุปกรณ์การเรียนการสอนตามหลักการจะให้ใช้ร่วมกันไปก่อน สำหรับงบประมาณดำเนินการนั้นในปีงบประมาณ 2555 นั้น กำหนดไว้ทีนดไว้ที่ 30 ล้านบาทซึ่งส่วนใหญ่แป็นงบที่ใช้เพื่อบริหารจัดการ แต่หากมีงบประมาณส่วนอื่นที่จำเป็นก็จะใช้งบประมาณในส่วนของ สอศ.ดำเนินการไปก่อน ทั้งนี้ คาดว่าในปีงบประมาณ 2556 ทุกอย่างคงจะเต็มตัวและจะสามารถจัดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรีสายปฏิบัติการอย่างเต็มรูปแบบได้ สำหรับสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร 4 สถาบันใน 4 ภูมิภาคนั้นต้องรอให้สถาบันการอาชีวศึกษา 19 สถาบันเรียบร้อยก่อน
ด้าน ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ ประธานบอร์ด กอศ.กล่าวว่า การจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาแบบกลุ่มจังหวัด 19 กลุ่มเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามหลักยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนากำลังคนให้ครอบคลุมทุกจังหวัด และการร่วมมือกับสถาบันประกอบการในพื้นที่ยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดทั้ง 19 กลุ่มก็สอดคล้องกับนโยบายของรมว.ศึกษาธิการ ซึ่งตนรู้สึกยินดีที่ รมว.ศึกษาธิการ ให้การสนับสนุนการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษาแบบกลุ่มจังหวัด เพราะทำให้นักศึกษาได้เรียนวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับ ปวช. ปวส.จนถึงปริญญาตรี ไม่ต้องเปลี่ยนไปเรียนสายอื่น อีกทั้งถือเป็นความใจกว้างของนายวรวัจน์ ที่ให้มีการกระจายอำนาจทางวิชาการ โดยให้มีการจัดทำหลักสูตรที่สอดคล้องกับท้องถิ่นและยังเป็นการกระจายงบประมาณ รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้วย
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา 19 กลุ่มสถาบัน ว่า ขณะนี้ตนได้กำชับให้นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) ไปเร่งดำเนินการรวบรวมรายละเอียดทั้งในเรื่องร่างกฎกระทรวง รวมถึงกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอบอร์ด กอศ.พิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบ โดยคาดว่า น่าจะเรียบร้อยภายในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งหากเป็นตามที่คาดการณ์นั้น จะส่งผลให้สามารถจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาได้ในเดือน ม.ค.2555 และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สามารถร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่เพื่อปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนที่มีอยู่ให้เหมาะสมสอดคล้องกับ 7 กลุ่มอาชีพที่ ศธ.วางแนวทางไว้ โดยทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยภายในเดือน ม.ค.2555 เท่ากับว่าเราสามารถเริ่มจัดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรีสายปฏิบัติการได้ทันปีการศึกษา 2555
อย่างไรก็ตาม จะยังไม่มีการสร้างอาคารใหม่เพื่อเป็นที่ตั้งของสถาบันการอาชีวศึกษา แต่จะใช้อาคารที่มีอยู่แล้วเช่นเดียวกับอุปกรณ์การเรียนการสอนตามหลักการจะให้ใช้ร่วมกันไปก่อน สำหรับงบประมาณดำเนินการนั้นในปีงบประมาณ 2555 นั้น กำหนดไว้ทีนดไว้ที่ 30 ล้านบาทซึ่งส่วนใหญ่แป็นงบที่ใช้เพื่อบริหารจัดการ แต่หากมีงบประมาณส่วนอื่นที่จำเป็นก็จะใช้งบประมาณในส่วนของ สอศ.ดำเนินการไปก่อน ทั้งนี้ คาดว่าในปีงบประมาณ 2556 ทุกอย่างคงจะเต็มตัวและจะสามารถจัดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรีสายปฏิบัติการอย่างเต็มรูปแบบได้ สำหรับสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร 4 สถาบันใน 4 ภูมิภาคนั้นต้องรอให้สถาบันการอาชีวศึกษา 19 สถาบันเรียบร้อยก่อน
ด้าน ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ ประธานบอร์ด กอศ.กล่าวว่า การจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาแบบกลุ่มจังหวัด 19 กลุ่มเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามหลักยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนากำลังคนให้ครอบคลุมทุกจังหวัด และการร่วมมือกับสถาบันประกอบการในพื้นที่ยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดทั้ง 19 กลุ่มก็สอดคล้องกับนโยบายของรมว.ศึกษาธิการ ซึ่งตนรู้สึกยินดีที่ รมว.ศึกษาธิการ ให้การสนับสนุนการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษาแบบกลุ่มจังหวัด เพราะทำให้นักศึกษาได้เรียนวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับ ปวช. ปวส.จนถึงปริญญาตรี ไม่ต้องเปลี่ยนไปเรียนสายอื่น อีกทั้งถือเป็นความใจกว้างของนายวรวัจน์ ที่ให้มีการกระจายอำนาจทางวิชาการ โดยให้มีการจัดทำหลักสูตรที่สอดคล้องกับท้องถิ่นและยังเป็นการกระจายงบประมาณ รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้วย
