เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี เดินหน้ารณรงค์เร่งตรวจเลือด ชี้ รู้ผลเลือดเร็ว รับยาเร็ว โอกาสอายุยืนสูง เผย ผู้ติดเชื้อ 5 แสนราย รับยาต้านไวรัสจริง 40%
วันนี้ (30 พ.ย.) เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย และ มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ นำโดยนายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิ และ นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่าย ราว 10 คนได้เดินทางมายังบริเวณฝั่งตรงข้ามเสาธง หน้าตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) เพื่อรณรงค์กระตุ้นสังคมไทย “ถึงเวลาที่ทุกคน..จะรู้ผลเลือดเอชไอวีของตัวเอง : Time To Test HIV” เนื่องในวันเอดส์โลกที่ตรงกับวันที่ 1 ธ.ค. 2554
โดย นายนิมิตร์ กล่าวว่า วาระเอดส์ปีนี้ สธ.เน้นการลดการติดเชื้อ เพื่อลดอัตราผู้ป่วย และอัตราการตาย ซึ่งทางด้านภาคประชาชนก็จะมุ่งเน้นรณรงค์เช่นกัน แต่จะพุ่งเป้าไปที่ให้ประชาชนใส่ใจตัวเองมากขึ้น โดยจะเชิญชวนให้หันมาตรวจเลือดเพื่อให้รู้เร็ว รู้ทันต่อการรักษากรณีติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากที่ผ่านมา ส่วนใหญ่มักคิดว่า ตนเองไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง ไม่มีทางติด ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก หากมีพฤติกรรมเข้าข่ายก็ย่อมเสี่ยงทั้งสิ้น คือ ไม่มั่นใจว่าคู่ของตนมีคนอื่นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ผู้ป่วยเอชไอวีนั้น มีอยู่ในทุกสาขาอาชีพ ดังนั้น หากพบว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงเช่น ไม่สวมถุงยางอนามัย ขณะมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรไปตรวจ
นายนิมิตร์ กล่าวต่อว่า หากเราทราบว่าติดเชื้อเร็ว การรักษาก็จะเร็วขึ้น ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตมักเกิดจากรู้ช้า ได้รับยาต้านไวรัสไม่ทัน แต่หากทราบเร็ว และได้รับยาต้านไวรัสเร็ว โอกาสมีชีวิตย่อมเทียบเท่าคนปกติ เรียกว่าเสียชีวิตจากเอดส์เป็นศูนย์ เนื่องจากภาวะโรคฉวยโอกาสก็จะควบคุม และรักษาได้ทันด้วย เห็นได้ว่าก่อนหน้าที่จะมีการให้ยาต้านไวรัสเอชไอวีในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีผู้เสียชีวิตในอัตราที่สูงถึงปีละ 7,000 ราย แต่หลังจากปี 2546 ที่มีการให้ยาต้านไวรัสฯ กลับพบว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตน้อยลงเรื่อยๆ โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีการควบคุมอัตราการเสียชีวิตได้ดีมาก แต่แม้จะดีแค่ไหน ปัจจุบันยังพบผู้เสียชีวิตปีละ 1,000 ราย ซึ่งก็ยังมาก และต้องลดลงเรื่อยๆ ให้มากที่สุด
“ปัจจุบันผู้ติดเชื้อได้รับยาต้านไวรัสฯ ในระบบมากน้อยแค่ไหน นายนิมิตร์ กล่าวว่า ขณะนี้มีคนติดเชื้อทั้งประเทศประมาณ 500,000 คน โดยอยู่ในระบบสวัสดิการด้านสุขภาพทุกระบบราว 200,000 คน มีการรับยาต้านไวรัสประมาณร้อยละ 40” นายนิมิตร์ กล่าว
ด้านนายอภิวัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,853 ราย หรือวันละประมาณ 30 ราย มีผู้เสียชีวิตจากเอดส์ปีละ 1,000 ราย ทั้งๆ ที่ระบบสวัสดิการด้านสุขภาพทุกระบบของประเทศ มีความพร้อม สามารถให้การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ/ผู้ป่วยเอดส์ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ระบบสวัสดิการประกันสังคม และระบบสวัสดิการข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ แต่ปัญหา คือ คนไม่กล้าเข้าไปตรวจ หรือบางคนก็คิดว่าตัวเองไม่เสี่ยง ซึ่งตรงนี้อันตรายมาก จึงขอย้ำว่า เอดส์ รู้เร็ว รักษาได้ และขอเชิญชวนให้ทุกคนตื่นตัวในเรื่องการรู้ผลการติดเชื้อของตัวเอง
บริการให้คำปรึกษา และการตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวีด้วยความสมัครใจได้ปีละ 2 ครั้ง สามารถเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลของรัฐ และเอกชนที่เข้าร่วมระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ใดก็ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย นอกจากการเร่งตรวจเลือดแล้ว อยากขอความร่วมมือยังหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นบริษัทนายจ้าง โปรดให้ความสำคัญกับการยกเลิกวิธีบังคับตรวจด้วย เพื่อป้องกันการได้รับผลกระทบจากการตกงาน และการไม่ยอมรับของสังคม