เอเอฟพี - การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของการเข้าถึงการรักษา ช่วยลดจำนวนการเสียชีวิตจากโรคเอดส์ในปี 2010 ลงได้มาก ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยเอชไอวี 34 ล้านคน ที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นสถิติใหม่ของจำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิตน้อยลง องค์การยูเอ็นเอดส์ของสหประชาชาติรายงาน วันนี้ (21)
“เรากำลังจะพบกับการพัฒนาการรับมือเอดส์ครั้งสำคัญ” ไมเคิล ซิดิเบ ผู้อำนวยการยูเอ็นเอดส์ แถลงข่าวในกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี “ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง มีผู้คนจำนวนมากเข้ารับการรักษาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” พร้อมกันนี้ เขาได้นิยามสิ่งที่เกิดขึ้นว่า “ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ”
“เป็นครั้งแรกที่เราสามารถพิสูจน์ได้ว่า ยิ่งผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาเร็วเท่าไร จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น”
ปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นที่เข้ารับการรักษา โดยระหว่างปี 2009-2010 ภูมิภาคซับ-ซาฮาราในแอฟริกามีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้น เมื่อมีจำนวนผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์
สืบเนื่องการเข้าถึงสถานพยาบาลที่ดีขึ้น จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ก็ลดลงเช่นกัน ยูเอ็นเอดส์รายงาน
ในปี 2010 มีผู้เสียชีวิตจากเอชไอวี ประมาณ 1.8 ล้านคน ลดลงจากช่วงเลวร้ายที่สุดในปี 2006 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 2.2 ล้านคน
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงช่วยป้องกันการเสียชีวิตจากเอชไอวี แต่การเข้ารับการรักษายังช่วยป้องกันการแพร่เชื้อให้กับบุคคลอื่นอีกด้วย
ยูเอ็นเอดส์เสนอกรณีตัวอย่างในนามิเบีย ผู้ป่วยเอดส์เข้ารักษมากสุดถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ผู้ชายนามิเบียหันมาใช้ถุงยางอนามัยเพิ่มขึ้น 75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่งให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2010
อีกหนึ่งตัวอย่าง คือ “การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เข้ารับการรักษาในแอฟริกาใต้ ระหว่างปี 2009-2010 จะส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อน้อยลงในอนาคตอันใกล้”
การรักษาตัวของผู้ติดเชื้อจะช่วยให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเต็มที่ในอีก 5 ปี ข้างหน้า เมื่อประเทศต่างๆ ให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยเอดส์มากกว่าที่เป็นอยู่
“ในอีก 5 ปี ข้างหน้า การลงทุนอย่างแยบยลจะช่วยขับเคลื่อนการรับมือเอดส์ โดยจะได้เห็นผู้ติดเชื้อใหม่เป็นศูนย์ การเลือกปฏิบัติเป็นศูนย์ และการเสียชีวิตจากเอดส์เป็นศูนย์” ไมเคิล ซิดิเบ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยูเอ็นเอดส์ มองว่า จุดเปลี่ยนสำคัญกำลังใกล้เข้ามา เมื่อประเทศอุตสาหกรรมอาจมีตัดงบด้านสาธารณสุข เนื่องจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ และหมายรวมถึงจำนวนเงินบริจาคสำหรับการรับมือกับเอดส์ที่ลดลง