ผู้ว่าฯ กทม.ย้ำเปิดประตูน้ำทุกบานแล้ว จี้กรมชลฯ เปิดประตูคลองหนองจอก-ประเวศ ช่วยระบายน้ำใน กทม. ชี้เจ้าพระยาน้ำขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2.30 ม. มากกว่าปี’ 38 คาดหากน้ำเหนือเข้าต้องเพิ่มพื้นที่เสี่ยง
วันนี้ (24 ต.ค.) ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เวลา 19.15 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. แถลงภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำว่า การประชุมร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเมื่อบ่ายนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ตนเองได้บอกนายกฯ ว่า ขณะนี้ กทม.ได้เปิดประตูระบายน้ำทุกบานแล้ว สามารถระบายน้ำได้ 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อยากระบายมากกว่านี้ แต่หากต้องการระบายน้ำมากกว่านี้ ต้องให้กรมชลประทานเปิดประตูระบายน้ำที่บริเวณคลองหนองจอกและคลองประเวศด้วย หากเปิดจะสามารถระบายน้ำได้ถึง 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งจะทำให้น้ำใน กทม.ลดระดับได้เร็วมากขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีเพิ่งจะทราบเรื่องนี้ ส่วนกรมชลประทานจะมีเหตุผลอะไรในการไม่เปิดประตูระบายน้ำก็ขอให้ไปถามทางกรมชลประทาน
“ทุกวันนี้ผมไม่ได้โกรธหรือจะโทษใคร แต่ผมอยากให้ประชาชนทุกคนได้รับรู้ความจริง ซึ่งถ้ากรมชลประทานมีเหตุผลเพียงพอในการไม่เปิดประตูระบายน้ำผมก็รับได้” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ล่าสุดมวลน้ำขนาดใหญ่ค่อยๆ เข้ามาใน กทม.ทั้งทางบกและทางน้ำ ในส่วนของแม่น้ำเจ้าพระยาทำสถิติระดับเพิ่มสูงสุด คือ 2.30 เมตร จากเดิมที่เคยขึ้นสูงสุดในปี 2538 คือ 2.27 เมตร ปรากฏการณ์เช่นนี้หมายความว่า ประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 13 เขต 27 ชุมชน ทั้งที่อยู่นอกและในแนวป้องกันน้ำท่วม ก็ขอเตือนให้ประชาชนบริเวณนั้นคิดหนักในการเคลื่อนย้ายไปศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยในขณะนี้จำนวนผู้อพยพมาที่ศูนย์พักพิงมีประมาณ 5,071 คน และช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ ประชาชนสามารถเข้ามาที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ซึ่งสามารถรองรับได้ 1,000 คน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในคลองต่างๆ พบว่า คลองเปรมประชากร น้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนคลอง 2 สายไหมน้ำเพิ่มสูงขึ้นชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร ส่วนถนนวิภาวดีรังสิตพื้นที่โดยรอบได้ขยายตัวเข้ามาแล้วแม้จะไม่รวดเร็วเท่าเมื่อวานแต่คาดว่าจะมีปริมาณมากกว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงว่าช่วงวันที่ 25 ตุลาคมเป็นต้นไป เมื่อน้ำเหนือมาสมทบบวกกับน้ำทะเลหนุน หลายพื้นที่จะเกิดภาวะวิกฤต จึงได้เสนอนายกรัฐมนตรีว่าควรจะให้เป็นวันหยุดราชการโดยในวันที่ 25 ตุลาคม นายกฯ จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้วันที่ 28 และ 31 เป็นวันหยุดราชการ อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าควรจะหยุดตั้งแต่วันที่ 25 เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีน้ำเหนือปริมาณ 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตรเข้ามาถึง กทม.จะมีการประกาศเพิ่มพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมเพิ่มขึ้นหรือไม่ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า จะประกาศเพิ่มแน่นอนในพื้นที่ต่อเนื่องจากพื้นที่เสี่ยงเดิม แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ อย่างไรก็ตาม กทม.ได้เตรียมแผนรองรับสำหรับพื้นที่ 50 เขตไว้แล้ว
วันนี้ (24 ต.ค.) ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เวลา 19.15 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. แถลงภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำว่า การประชุมร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเมื่อบ่ายนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ตนเองได้บอกนายกฯ ว่า ขณะนี้ กทม.ได้เปิดประตูระบายน้ำทุกบานแล้ว สามารถระบายน้ำได้ 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อยากระบายมากกว่านี้ แต่หากต้องการระบายน้ำมากกว่านี้ ต้องให้กรมชลประทานเปิดประตูระบายน้ำที่บริเวณคลองหนองจอกและคลองประเวศด้วย หากเปิดจะสามารถระบายน้ำได้ถึง 10 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งจะทำให้น้ำใน กทม.ลดระดับได้เร็วมากขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีเพิ่งจะทราบเรื่องนี้ ส่วนกรมชลประทานจะมีเหตุผลอะไรในการไม่เปิดประตูระบายน้ำก็ขอให้ไปถามทางกรมชลประทาน
“ทุกวันนี้ผมไม่ได้โกรธหรือจะโทษใคร แต่ผมอยากให้ประชาชนทุกคนได้รับรู้ความจริง ซึ่งถ้ากรมชลประทานมีเหตุผลเพียงพอในการไม่เปิดประตูระบายน้ำผมก็รับได้” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ล่าสุดมวลน้ำขนาดใหญ่ค่อยๆ เข้ามาใน กทม.ทั้งทางบกและทางน้ำ ในส่วนของแม่น้ำเจ้าพระยาทำสถิติระดับเพิ่มสูงสุด คือ 2.30 เมตร จากเดิมที่เคยขึ้นสูงสุดในปี 2538 คือ 2.27 เมตร ปรากฏการณ์เช่นนี้หมายความว่า ประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 13 เขต 27 ชุมชน ทั้งที่อยู่นอกและในแนวป้องกันน้ำท่วม ก็ขอเตือนให้ประชาชนบริเวณนั้นคิดหนักในการเคลื่อนย้ายไปศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยในขณะนี้จำนวนผู้อพยพมาที่ศูนย์พักพิงมีประมาณ 5,071 คน และช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ ประชาชนสามารถเข้ามาที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ซึ่งสามารถรองรับได้ 1,000 คน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในคลองต่างๆ พบว่า คลองเปรมประชากร น้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนคลอง 2 สายไหมน้ำเพิ่มสูงขึ้นชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร ส่วนถนนวิภาวดีรังสิตพื้นที่โดยรอบได้ขยายตัวเข้ามาแล้วแม้จะไม่รวดเร็วเท่าเมื่อวานแต่คาดว่าจะมีปริมาณมากกว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงว่าช่วงวันที่ 25 ตุลาคมเป็นต้นไป เมื่อน้ำเหนือมาสมทบบวกกับน้ำทะเลหนุน หลายพื้นที่จะเกิดภาวะวิกฤต จึงได้เสนอนายกรัฐมนตรีว่าควรจะให้เป็นวันหยุดราชการโดยในวันที่ 25 ตุลาคม นายกฯ จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้วันที่ 28 และ 31 เป็นวันหยุดราชการ อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าควรจะหยุดตั้งแต่วันที่ 25 เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีน้ำเหนือปริมาณ 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตรเข้ามาถึง กทม.จะมีการประกาศเพิ่มพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมเพิ่มขึ้นหรือไม่ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า จะประกาศเพิ่มแน่นอนในพื้นที่ต่อเนื่องจากพื้นที่เสี่ยงเดิม แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ อย่างไรก็ตาม กทม.ได้เตรียมแผนรองรับสำหรับพื้นที่ 50 เขตไว้แล้ว