ผู้ว่าฯ กทม.ประสานวัดบางบัว เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว หลังพื้นที่บางส่วนของชุมชนริมคลองบางบัวได้รับผลกระทบน้ำท่วมขังหวั่นเกิดผลกระทบกว้างขึ้น มั่นใจระบบระบายน้ำของ กทม.ยังดี เล็งราดแอสฟัลท์ถนนวิภาวดียกระดับให้ถนนสูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าสนามบินดอนเมือง
วันนี้ (24 ต.ค.) เวลา 15.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจพี่น้องประชาชนชาวชุมชนริมคลองบางบัว เขตจตุจักร ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำในคลองบางบัวที่เพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ต่างๆ ในชุมชน โดยกล่าวว่า ชุมชนบางบัวมีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 500 ครัวเรือน แต่เกือบทุกครัวเรือนมีผู้สูงอายุและผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินจนต้องย้ายออกจากบ้านเรือนอาจจะทำได้ลำบาก จึงได้ประสานขอความร่วมมือไปยังเจ้าอาวาสวัดบางบัว ขอใช้วัดบางบัวเป็นสถานที่พักพิงชั่วคราวและได้รับการยืนยันแล้วว่าพร้อมรองรับประชาชนได้ประมาณ 300 คน ซึ่งถือเป็นเรื่องดีเพราะอยู่ใกล้กับชุมชน ทำให้สะดวกในการที่จะกลับมาดูแลบ้านเรือนของตน ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ก็จะส่งผลให้น้ำในคลองบางบัวเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 20-30 ซม.ซึ่งได้สั่งการให้สำนักงานเขตจตุจักรเฝ้าระวังพื้นที่ชุมชนบางบัวอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนด้วยความรวดเร็ว ที่สำคัญ หากช่วงนี้มีฝนตกหนักลงมาอีกการระบายน้ำของกรุงเทพมหานครจะต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกเป็น 2 เท่า เพราะปริมาณน้ำในคลองมีมากและค่อนข้างเต็มคลอง แต่จะเร่งระบายน้ำอย่างเต็มที่
ส่วนบริเวณชุมชนริมคลองประปาที่ได้รับผลกระทบจากน้ำที่รั่วไหลจากคลองประปา ขณะนี้น้ำยังไม่ลดและยังไม่สามารถอุดรอยรั่วได้ แต่ยังไม่เป็นปัญหามาก นอกจากนี้ ปริมาณน้ำในพื้นที่เขตหลักสี่เริ่มนิ่งและคลี่คลายแล้ว โดยมีการระบายน้ำลงคลองเปรม ซึ่งหากมีการบริหารจัดการน้ำในคลองเปรมให้เป็นระบบก็จะสามารถป้องกันน้ำเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในได้ ซึ่งบริเวณดังกล่าวถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ขณะนี้มวลน้ำก้อนแรกปริมาณหลักร้อยล้านลูกบาศก์เมตรได้ผ่านไปแล้ว ต่อไปจะเป็นมวลน้ำก้อนใหญ่ขึ้นเป็นหลักพันล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าทิศทางการไหลของน้ำจะเป็นไปในทิศทางใด แต่กรุงเทพมหานครจะติดตามอย่างใกล้ชิด และดำเนินการป้องกันพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ ให้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมน้อยที่สุด
สำหรับกรณีที่น้ำไหลเข้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิต จนเกือบถึงพื้นที่สนามบินดอนเมืองที่เป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม (ศปภ.) นั้น เนื่องจากถนนวิภาวดีมีลักษณะเป็นพื้นที่ดอนน้ำจึงยังไม่ถึงบริเวณสนามบินดอนเมือง แต่ที่ดอนเท่านี้คงไม่เพียงพอ และกรณีที่มีนักวิชาการเสนอความคิดเห็นให้ใช้ถนนวิภาวดีเป็นเส้นทางระบายน้ำซึ่งจะทำได้เร็วขึ้นนั้น ก็ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ แต่ต้องมีการหารือกันอย่างรอบคอบ ที่สำคัญต้องดูว่า ศปภ.จะยังตั้งอยู่ที่ดอนเมืองหรือไม่ โดยเบื้องต้นอาจจะมีการเทหินคลุกลาดยางมะตอย (แอสฟัลท์) ถนนวิภาวดียกระดับถนนให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่พื้นที่สนามบินดอนเมือง
วันนี้ (24 ต.ค.) เวลา 15.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจพี่น้องประชาชนชาวชุมชนริมคลองบางบัว เขตจตุจักร ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำในคลองบางบัวที่เพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ต่างๆ ในชุมชน โดยกล่าวว่า ชุมชนบางบัวมีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 500 ครัวเรือน แต่เกือบทุกครัวเรือนมีผู้สูงอายุและผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินจนต้องย้ายออกจากบ้านเรือนอาจจะทำได้ลำบาก จึงได้ประสานขอความร่วมมือไปยังเจ้าอาวาสวัดบางบัว ขอใช้วัดบางบัวเป็นสถานที่พักพิงชั่วคราวและได้รับการยืนยันแล้วว่าพร้อมรองรับประชาชนได้ประมาณ 300 คน ซึ่งถือเป็นเรื่องดีเพราะอยู่ใกล้กับชุมชน ทำให้สะดวกในการที่จะกลับมาดูแลบ้านเรือนของตน ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ก็จะส่งผลให้น้ำในคลองบางบัวเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 20-30 ซม.ซึ่งได้สั่งการให้สำนักงานเขตจตุจักรเฝ้าระวังพื้นที่ชุมชนบางบัวอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนด้วยความรวดเร็ว ที่สำคัญ หากช่วงนี้มีฝนตกหนักลงมาอีกการระบายน้ำของกรุงเทพมหานครจะต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกเป็น 2 เท่า เพราะปริมาณน้ำในคลองมีมากและค่อนข้างเต็มคลอง แต่จะเร่งระบายน้ำอย่างเต็มที่
ส่วนบริเวณชุมชนริมคลองประปาที่ได้รับผลกระทบจากน้ำที่รั่วไหลจากคลองประปา ขณะนี้น้ำยังไม่ลดและยังไม่สามารถอุดรอยรั่วได้ แต่ยังไม่เป็นปัญหามาก นอกจากนี้ ปริมาณน้ำในพื้นที่เขตหลักสี่เริ่มนิ่งและคลี่คลายแล้ว โดยมีการระบายน้ำลงคลองเปรม ซึ่งหากมีการบริหารจัดการน้ำในคลองเปรมให้เป็นระบบก็จะสามารถป้องกันน้ำเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในได้ ซึ่งบริเวณดังกล่าวถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ขณะนี้มวลน้ำก้อนแรกปริมาณหลักร้อยล้านลูกบาศก์เมตรได้ผ่านไปแล้ว ต่อไปจะเป็นมวลน้ำก้อนใหญ่ขึ้นเป็นหลักพันล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าทิศทางการไหลของน้ำจะเป็นไปในทิศทางใด แต่กรุงเทพมหานครจะติดตามอย่างใกล้ชิด และดำเนินการป้องกันพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ ให้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมน้อยที่สุด
สำหรับกรณีที่น้ำไหลเข้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิต จนเกือบถึงพื้นที่สนามบินดอนเมืองที่เป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม (ศปภ.) นั้น เนื่องจากถนนวิภาวดีมีลักษณะเป็นพื้นที่ดอนน้ำจึงยังไม่ถึงบริเวณสนามบินดอนเมือง แต่ที่ดอนเท่านี้คงไม่เพียงพอ และกรณีที่มีนักวิชาการเสนอความคิดเห็นให้ใช้ถนนวิภาวดีเป็นเส้นทางระบายน้ำซึ่งจะทำได้เร็วขึ้นนั้น ก็ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ แต่ต้องมีการหารือกันอย่างรอบคอบ ที่สำคัญต้องดูว่า ศปภ.จะยังตั้งอยู่ที่ดอนเมืองหรือไม่ โดยเบื้องต้นอาจจะมีการเทหินคลุกลาดยางมะตอย (แอสฟัลท์) ถนนวิภาวดียกระดับถนนให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่พื้นที่สนามบินดอนเมือง