เอ็นจีโอ ซัด “กองสลาก” ทำสังคมผิดหวังแนวคิดผุดบ่อนบาป อัดตาโตหิวเงิน หาช่องสูบเลือดคนจน แนะอย่ามัวแต่เดินตามก้นต่างชาติโดยไม่เข้าใจตนเอง เกิดผลกระทบสังคมไร้คนรับผิดชอบซ้ำซาก ระบุ เยาวชนไทยค้านบ่อนเสรี เหตุไม่เชื่อมั่นฝีมือรัฐคุมปัญหาได้ ด้านเยาวชน ชี้ นักการเมือง-นายทุน สร้างแผนดันกาสิโนอย่างเป็นระบบ ย้ำ สังคมไทยยังไม่พร้อมรับมือธุรกิจสีเทา เผย ศุกร์ 30 ก.ย.นี้ บุก คัดค้าน ก.คลัง พร้อมทำพิธี “ฌาปนกิจ สาบส่งเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็๋กซ์”
จากกรณีนายวันชัย สุระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (กองสลาก) เสนอแก้ไขพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 เพื่อให้ดำเนินการสร้างกาสิโนในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ หรือ โครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท นั้น
นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดการพนัน กล่าวว่า กระบวนทรรศน์บาปของรัฐไทยที่คิดวนเวียนอย่างนี้มีมาหลายยุคหลายสมัย แล้วก็ไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศชาติบ้านเมืองได้อย่างแท้จริง หนำซ้ำกระบวนทรรศน์นี้ กลับเป็นกระบวนการสร้างข้ออ้าง ที่เบื้องหลัง คือ การแสวงประโยชน์ให้แก่กลุ่มนายทุน ที่มักโยงใยไม่พ้นนักการเมือง และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งหากรัฐบาลยังคงเดินหน้าโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ นี้ ต่อไปสังคมคงไม่พ้นที่จะโยงใยเรื่องนี้มาสู่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ที่ถูกสังคมคาดหวังว่า ความเป็นสุภาพสตรี ความเป็นแม่ และความอ่อนโยนไม่แข็งกร้าวของท่าน จะสร้างความแตกต่างจากบรรดาผู้นำชายที่ผ่านมา เป็นรัฐบาลที่คิดถึงเด็ก คิดถึงเยาวชน รวมทั้งสตรี และงานด้านการพัฒนาสังคมมากกว่ารัฐบาลอื่นๆ ดังนั้นจึงไม่อยากให้แนวคิดของบางหน่วยงานที่หิวเงินทำความแปดเปื้อนมาถึงรัฐบาลด้วย
นายธนากร กล่าวอีกว่า คำพูดที่ออกจากปากนายวันชัย สุระกุล ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถือเป็นความคิดที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะการหิวเงินโดยไม่คำนึงมนุษย์แม้แต่น้อย ด้วยการคิดเช่นนี้จึงเกิดอาการ ตาโต เห็นว่า แทบทุกอย่างในประเทศนี้ มีความพร้อมเชิงเศรษฐกิจ ที่สามารถสร้างมูลค่าเป็นตัวเงินได้ทั้งสิ้น โดยไม่เคยเอ่ยถึง ความพร้อมเชิงสังคม ว่า มีเพียงพอจะรับมือกับกิจการสีเทาที่ท่านเสนอหรือไม่ การเห็นประเทศอื่นทำอย่างไรแล้วได้เงิน แล้วถือเป็นข้ออ้างลอกเลียนแบบอย่างข้างๆ คูๆ โดยไม่เคยให้ข้อมูลแก่สาธารณะอย่างครบถ้วนรอบด้านถึงมาตรการทางนโยบายและกลไกการทำงาน รวมทั้งผลกระทบทางสังคมที่มีตามมา เป็นการกระทำผิดซ้ำๆ ซากๆ ของรัฐไทยในการลอกเลียนแบบคนอื่นโดยไม่มองตนเองให้ถ่องแท้ สุดท้ายก็นำมาสู่การกระทำความเสียหายที่ไร้ความรับผิดชอบของผู้ริเริ่มแทบทุกครั้งไป
“การหิวเงินที่คิดอยู่บนฐานของการหารายได้จากผู้อ่อนแอในสังคม จากคนยากจนคนด้อยโอกาส จากประชาชนคนหวังพึ่ง ที่อยากได้เงินมากแต่ปรารถนาจะลงแรงน้อย เพราะตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อ หลงจินตนาการ ว่า โชคต้องเป็นของเราเข้าสักวัน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการขายฝันขององค์กรรัฐอย่างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนั่นเอง ด้วยความเคยชินว่า การหาเงินจากคนยากจนคนด้อยโอกาสเป็นเรื่องง่าย ขณะที่แนวคิดที่จะหาเงินจากคนรวย โดยการเก็บภาษีที่ดิน ภาษีมรดก หรือการใช้อัตราภาษีก้าวหน้า หรือการเพิ่มสัดส่วนของรายได้รัฐจากการเก็บภาษีทางตรงต่างๆ กลับเป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยไม่คิดจะทำ” นายธนากร กล่าว
เครือข่ายรณรงค์หยุดการพนัน กล่าวอีกว่า รัฐและนักวิชาการบางคนมักใช้ข้ออ้างว่า การเอาธุรกิจผิดกฎหมายขึ้นมาอยู่บนดิน จะทำให้สามารถบริหารจัดการได้ ทำให้เงินทองไม่รั่วไหลไปสู่ธุรกิจนอกระบบ แต่ความเป็นจริงของการจัดการธุรกิจสีเทาบนดิน ที่มีอยู่หลายๆเรื่อง ก็พบว่า ข้ออ้างนี้ไม่เป็นจริง ตัวอย่างที่ชัดที่สุด คือ กรณีหวยบนดิน ไม่ได้ช่วยทำให้ธุรกิจหวยใต้ดินได้รับผลกระทบ แต่เป็นการเพิ่มกิจการที่มอมเมาประชาชนมากขึ้นด้วยซ้ำ ขณะที่ฝ่ายตำรวจมักอ้างเหตุผลว่าจะทำให้สามารถควบคุมดูแลได้ดีขึ้น ซึ่งหากจะจัดการเรื่องนี้จริงจัง การคิดหาวิธีอื่นที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งการปรับแก้ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ใหม่ รวมทั้งการปรับรื้อระบบตำรวจอย่างจริงจัง กลับจะนำมาสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน มากกว่าการมาเพิ่มตัวปัญหาใหม่ๆ อย่างเอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นี้
“เพราะแม้แต่เรื่องนี้เด็กและเยาวชนยังไม่เห็นด้วยกับการเปิดบ่อนเสรี หากดูจากการสำรวจ “พฤติกรรมและผลกระทบจากการเล่นพนัน รวมถึงความคาดหวังในการป้องกันและแก้ไขปัญหา” ของเยาวชนชายในศูนย์ฝึกฯบ้านกาญจนาภิเษกทั้งหมด จำนวน 189 ราย ระหว่างวันที่ 22-26 ก.ค.2554 ที่ผ่านมา พบว่า เยาวชนกว่า 84.7% เคยมีประสบการณ์เล่นการพนัน ขณะเดียวกันเกินกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 53.1% ระบุว่า เริ่มเล่นการพนันครั้งแรกตอนอายุเพียง10 ปี สำหรับพนันที่เล่นบ่อยที่สุด คือ ไพ่ รองลงมา ตู้ม้า ตู้สล็อต ไฮโล หวย เป็นต้น สำหรับผลกระทบที่ตามมา คือ ต้องหาเงินใช้หนี้พนันด้วยวิธีที่ผิด เช่น การปล้น การค้ายาเสพติด ลักขโมย หรือแม้แต่ บังคับให้แฟนมีเพศสัมพันธ์ เพื่อใช้หนี้พนัน อย่างไรก็ตาม แนวทางในการแก้ไขปัญหาการเล่นพนัน เยาวชน 32.3 % แสดงความเห็นว่า กฎหมายต้องเข้มงวด เพิ่มบทลงโทษที่รุนแรง 22.2% เจ้าหน้าที่รัฐต้องทำหน้าที่อย่างสุจริต ขณะเดียวกันเยาวชนมองว่า มีเพียงส่วนน้อย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและกระทรวงศึกษาจะเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง นอกจากนี้ เยาวชนกว่า ส่วนใหญ่ หรือ 88.4% บอกว่าไม่ต้องการให้เมืองไทยมีบ่อนเสรี” นายธนากร กล่าว
ด้าน นายกิติวัฒน์ สุทธิรักษ์ ที่ปรึกษากลุ่มนักศึกษากฎหมายเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า นักศึกษาเชื่อว่าเป็นเรื่องนี้ถูกทำกันอย่างเป็นระบบ และมีการเตรียมการไว้นานแล้ว เพียงแต่รอจังหวะเวลาเท่านั้น เป็นการเตะมือกันของนายทุน กับนักการเมือง และนักวิชาการบางกลุ่ม การอ้างว่ารัฐบาลต้องหาเงินเพื่อมาใช้กับนโยบายของรัฐบาล การมองว่าแหล่งคาซิโนล้อมบ้านเราไว้หมดแล้วนั้นสะท้อนภาวะอับจนปัญญา วันนี้สังคมไทยต้องตั้งหลักกันให้ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังจากข่าวการเปิดประเด็นบ่อนกลางกรุง ในที่ประชุมสภา ก็ตามมาด้วยการปิดบ่อน (ชั่วคราว) ข่าวนักพนันแห่ไปเข้าบ่อนตามชายแดน ต่อยอดด้วยข้อเสนอของนักวิชาการที่หนุนบ่อนเสรี และปิดจ๊อบด้วยการนำทัพสื่อมวลชนไปดูงานเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่มาเก๊า บวกกับการให้ข่าวหนุนคาสิโน ของ ผอ.กองสลาก นับเป็นการร้อยเรียงที่เป็นระบบมาก ทั้งนี้หากมีการเปิดบ่อนเสรีเกิดขึ้น ต่อไปคงจะมีเข้ามาเป็นแพกเก็ต ทั้งพนันบอล คงจะตามมา ซึ่งอบายมุขต่างๆ คงเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เยาวชนไทยคงเป็นนักพนันกันเต็มมเมือง
“ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดคือ เด็กเยาวชนเข้าถึงการเล่นหวยมากขึ้น เงินแทนที่จะนำไปใช้จ่ายในการศึกษาอย่างเต็มที่กับต้องแบ่งให้ค่าหวย เช่นเดียวกันการนำกาสิโนมาอยู่บนดิน และมีการเปิดช่องทางจะทำให้มีการเล่นพนันเพิ่มขึ้น และยังเป็นการสร้างวิธีคิดให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ให้หันมาพึ่งการเสี่ยงโชคมากกว่าการสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ปัญหาการพนันสร้างรอยร้าวให้กับครอบครัว ชุมชน สังคม ถามว่าถ้ามีใครสักคนในครอบครัวเล่นการพนันถึงจะถูกกฎหมายมีใครกล้ารับประกันหรือไม่ว่าครอบครัวนั้นมีความสุข หรือเป็นการส่งเสริมครอบครัวสังคมไทยล่มสลายอย่างถาวร อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์ที่ 30 กันยายน เวลา 10.00 น. ทางกลุ่มและเพื่อนๆ นักศึกษาที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคมจากหลายสถาบัน จะเดินทางไปที่บริเวณฟุตบาธ ริมคลอง ข้างประตูทางออกกระทรวงการคลัง เพื่อยื่นข้อคัดค้าน พร้อมทั้งร่วมกันแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ประณามแนวคิดที่ทำร้ายสังคม โดยการทำพิธี “ฌาปนกิจ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์” นายกิติวัฒน์ กล่าว
จากกรณีนายวันชัย สุระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (กองสลาก) เสนอแก้ไขพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 เพื่อให้ดำเนินการสร้างกาสิโนในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ หรือ โครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท นั้น
นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดการพนัน กล่าวว่า กระบวนทรรศน์บาปของรัฐไทยที่คิดวนเวียนอย่างนี้มีมาหลายยุคหลายสมัย แล้วก็ไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศชาติบ้านเมืองได้อย่างแท้จริง หนำซ้ำกระบวนทรรศน์นี้ กลับเป็นกระบวนการสร้างข้ออ้าง ที่เบื้องหลัง คือ การแสวงประโยชน์ให้แก่กลุ่มนายทุน ที่มักโยงใยไม่พ้นนักการเมือง และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งหากรัฐบาลยังคงเดินหน้าโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ นี้ ต่อไปสังคมคงไม่พ้นที่จะโยงใยเรื่องนี้มาสู่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ที่ถูกสังคมคาดหวังว่า ความเป็นสุภาพสตรี ความเป็นแม่ และความอ่อนโยนไม่แข็งกร้าวของท่าน จะสร้างความแตกต่างจากบรรดาผู้นำชายที่ผ่านมา เป็นรัฐบาลที่คิดถึงเด็ก คิดถึงเยาวชน รวมทั้งสตรี และงานด้านการพัฒนาสังคมมากกว่ารัฐบาลอื่นๆ ดังนั้นจึงไม่อยากให้แนวคิดของบางหน่วยงานที่หิวเงินทำความแปดเปื้อนมาถึงรัฐบาลด้วย
นายธนากร กล่าวอีกว่า คำพูดที่ออกจากปากนายวันชัย สุระกุล ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถือเป็นความคิดที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะการหิวเงินโดยไม่คำนึงมนุษย์แม้แต่น้อย ด้วยการคิดเช่นนี้จึงเกิดอาการ ตาโต เห็นว่า แทบทุกอย่างในประเทศนี้ มีความพร้อมเชิงเศรษฐกิจ ที่สามารถสร้างมูลค่าเป็นตัวเงินได้ทั้งสิ้น โดยไม่เคยเอ่ยถึง ความพร้อมเชิงสังคม ว่า มีเพียงพอจะรับมือกับกิจการสีเทาที่ท่านเสนอหรือไม่ การเห็นประเทศอื่นทำอย่างไรแล้วได้เงิน แล้วถือเป็นข้ออ้างลอกเลียนแบบอย่างข้างๆ คูๆ โดยไม่เคยให้ข้อมูลแก่สาธารณะอย่างครบถ้วนรอบด้านถึงมาตรการทางนโยบายและกลไกการทำงาน รวมทั้งผลกระทบทางสังคมที่มีตามมา เป็นการกระทำผิดซ้ำๆ ซากๆ ของรัฐไทยในการลอกเลียนแบบคนอื่นโดยไม่มองตนเองให้ถ่องแท้ สุดท้ายก็นำมาสู่การกระทำความเสียหายที่ไร้ความรับผิดชอบของผู้ริเริ่มแทบทุกครั้งไป
“การหิวเงินที่คิดอยู่บนฐานของการหารายได้จากผู้อ่อนแอในสังคม จากคนยากจนคนด้อยโอกาส จากประชาชนคนหวังพึ่ง ที่อยากได้เงินมากแต่ปรารถนาจะลงแรงน้อย เพราะตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อ หลงจินตนาการ ว่า โชคต้องเป็นของเราเข้าสักวัน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการขายฝันขององค์กรรัฐอย่างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนั่นเอง ด้วยความเคยชินว่า การหาเงินจากคนยากจนคนด้อยโอกาสเป็นเรื่องง่าย ขณะที่แนวคิดที่จะหาเงินจากคนรวย โดยการเก็บภาษีที่ดิน ภาษีมรดก หรือการใช้อัตราภาษีก้าวหน้า หรือการเพิ่มสัดส่วนของรายได้รัฐจากการเก็บภาษีทางตรงต่างๆ กลับเป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยไม่คิดจะทำ” นายธนากร กล่าว
เครือข่ายรณรงค์หยุดการพนัน กล่าวอีกว่า รัฐและนักวิชาการบางคนมักใช้ข้ออ้างว่า การเอาธุรกิจผิดกฎหมายขึ้นมาอยู่บนดิน จะทำให้สามารถบริหารจัดการได้ ทำให้เงินทองไม่รั่วไหลไปสู่ธุรกิจนอกระบบ แต่ความเป็นจริงของการจัดการธุรกิจสีเทาบนดิน ที่มีอยู่หลายๆเรื่อง ก็พบว่า ข้ออ้างนี้ไม่เป็นจริง ตัวอย่างที่ชัดที่สุด คือ กรณีหวยบนดิน ไม่ได้ช่วยทำให้ธุรกิจหวยใต้ดินได้รับผลกระทบ แต่เป็นการเพิ่มกิจการที่มอมเมาประชาชนมากขึ้นด้วยซ้ำ ขณะที่ฝ่ายตำรวจมักอ้างเหตุผลว่าจะทำให้สามารถควบคุมดูแลได้ดีขึ้น ซึ่งหากจะจัดการเรื่องนี้จริงจัง การคิดหาวิธีอื่นที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทั้งการปรับแก้ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ใหม่ รวมทั้งการปรับรื้อระบบตำรวจอย่างจริงจัง กลับจะนำมาสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน มากกว่าการมาเพิ่มตัวปัญหาใหม่ๆ อย่างเอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นี้
“เพราะแม้แต่เรื่องนี้เด็กและเยาวชนยังไม่เห็นด้วยกับการเปิดบ่อนเสรี หากดูจากการสำรวจ “พฤติกรรมและผลกระทบจากการเล่นพนัน รวมถึงความคาดหวังในการป้องกันและแก้ไขปัญหา” ของเยาวชนชายในศูนย์ฝึกฯบ้านกาญจนาภิเษกทั้งหมด จำนวน 189 ราย ระหว่างวันที่ 22-26 ก.ค.2554 ที่ผ่านมา พบว่า เยาวชนกว่า 84.7% เคยมีประสบการณ์เล่นการพนัน ขณะเดียวกันเกินกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 53.1% ระบุว่า เริ่มเล่นการพนันครั้งแรกตอนอายุเพียง10 ปี สำหรับพนันที่เล่นบ่อยที่สุด คือ ไพ่ รองลงมา ตู้ม้า ตู้สล็อต ไฮโล หวย เป็นต้น สำหรับผลกระทบที่ตามมา คือ ต้องหาเงินใช้หนี้พนันด้วยวิธีที่ผิด เช่น การปล้น การค้ายาเสพติด ลักขโมย หรือแม้แต่ บังคับให้แฟนมีเพศสัมพันธ์ เพื่อใช้หนี้พนัน อย่างไรก็ตาม แนวทางในการแก้ไขปัญหาการเล่นพนัน เยาวชน 32.3 % แสดงความเห็นว่า กฎหมายต้องเข้มงวด เพิ่มบทลงโทษที่รุนแรง 22.2% เจ้าหน้าที่รัฐต้องทำหน้าที่อย่างสุจริต ขณะเดียวกันเยาวชนมองว่า มีเพียงส่วนน้อย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและกระทรวงศึกษาจะเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง นอกจากนี้ เยาวชนกว่า ส่วนใหญ่ หรือ 88.4% บอกว่าไม่ต้องการให้เมืองไทยมีบ่อนเสรี” นายธนากร กล่าว
ด้าน นายกิติวัฒน์ สุทธิรักษ์ ที่ปรึกษากลุ่มนักศึกษากฎหมายเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า นักศึกษาเชื่อว่าเป็นเรื่องนี้ถูกทำกันอย่างเป็นระบบ และมีการเตรียมการไว้นานแล้ว เพียงแต่รอจังหวะเวลาเท่านั้น เป็นการเตะมือกันของนายทุน กับนักการเมือง และนักวิชาการบางกลุ่ม การอ้างว่ารัฐบาลต้องหาเงินเพื่อมาใช้กับนโยบายของรัฐบาล การมองว่าแหล่งคาซิโนล้อมบ้านเราไว้หมดแล้วนั้นสะท้อนภาวะอับจนปัญญา วันนี้สังคมไทยต้องตั้งหลักกันให้ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังจากข่าวการเปิดประเด็นบ่อนกลางกรุง ในที่ประชุมสภา ก็ตามมาด้วยการปิดบ่อน (ชั่วคราว) ข่าวนักพนันแห่ไปเข้าบ่อนตามชายแดน ต่อยอดด้วยข้อเสนอของนักวิชาการที่หนุนบ่อนเสรี และปิดจ๊อบด้วยการนำทัพสื่อมวลชนไปดูงานเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่มาเก๊า บวกกับการให้ข่าวหนุนคาสิโน ของ ผอ.กองสลาก นับเป็นการร้อยเรียงที่เป็นระบบมาก ทั้งนี้หากมีการเปิดบ่อนเสรีเกิดขึ้น ต่อไปคงจะมีเข้ามาเป็นแพกเก็ต ทั้งพนันบอล คงจะตามมา ซึ่งอบายมุขต่างๆ คงเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เยาวชนไทยคงเป็นนักพนันกันเต็มมเมือง
“ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดคือ เด็กเยาวชนเข้าถึงการเล่นหวยมากขึ้น เงินแทนที่จะนำไปใช้จ่ายในการศึกษาอย่างเต็มที่กับต้องแบ่งให้ค่าหวย เช่นเดียวกันการนำกาสิโนมาอยู่บนดิน และมีการเปิดช่องทางจะทำให้มีการเล่นพนันเพิ่มขึ้น และยังเป็นการสร้างวิธีคิดให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ให้หันมาพึ่งการเสี่ยงโชคมากกว่าการสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ปัญหาการพนันสร้างรอยร้าวให้กับครอบครัว ชุมชน สังคม ถามว่าถ้ามีใครสักคนในครอบครัวเล่นการพนันถึงจะถูกกฎหมายมีใครกล้ารับประกันหรือไม่ว่าครอบครัวนั้นมีความสุข หรือเป็นการส่งเสริมครอบครัวสังคมไทยล่มสลายอย่างถาวร อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์ที่ 30 กันยายน เวลา 10.00 น. ทางกลุ่มและเพื่อนๆ นักศึกษาที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคมจากหลายสถาบัน จะเดินทางไปที่บริเวณฟุตบาธ ริมคลอง ข้างประตูทางออกกระทรวงการคลัง เพื่อยื่นข้อคัดค้าน พร้อมทั้งร่วมกันแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ประณามแนวคิดที่ทำร้ายสังคม โดยการทำพิธี “ฌาปนกิจ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์” นายกิติวัฒน์ กล่าว
