xs
xsm
sm
md
lg

ออสเตรียอึ้งกิมกี่ จีนก๊อปหมู่บ้านมรดกโลก

เผยแพร่:   โดย: พรรณพิไล นาคธน

หมู่บ้านมรดกโลก “ฮอลล์ชตัด” (Hallstatt) บนเทือกเขาแอลป์ของออสเตรีย - เอเจนซี่
โกลบอลไทมส์, บีบีซีนิวส์ - ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การลอกเลียนแบบเมืองสไตล์ตะวันตกกำลังเป็นกระแสความนิยมอย่างมากของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนแดนมังกร ดินแดนผู้ช่ำชองการลอกเลียนแบบสินค้าสารพัดชนิดอย่างยากจะหาใครเทียมทาน

ล่าสุดมินเมทัลส์ แลนด์ (Minmetals Land) บริษัทในเครือของไชน่า มินเมทัลส์ รัฐวิสาหกิจและบริษัทผู้ค้าโลหะรายใหญ่ที่สุดของจีน ไอเดียกระฉูดถึงขั้นก๊อปปี้หมู่บ้านมรดกโลก “ฮอลล์ชตัด” (Hallstatt) บนเทือกเขาแอลป์ของออสเตรีย ขอฝากฝีมือจอมนักก๊อประดับโลกกันเลยทีเดียว

ฮอลล์ชตัดเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมทะเลสาบ แวดล้อมด้วยทัศนียภาพงดงามราวกับภาพวาด ตั้งอยู่ในภูมิภาคซาลซ์คัมเมอร์กุต ( Salzkammergut ) องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก้ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีพ.ศ. 2539 ด้วยมีสถาปัตยกรรมโบสถ์และโรงเตี๊ยมเป็นมนต์เสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเที่ยวหลายแสนคนในแต่ละปี

สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า มินเมทัลส์ แลนด์ได้ส่งทีมงานตรงไปยังหมู่บ้านฮอลล์ชตัด เพื่อ “ถ่ายรูปและรวบรวมข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับหมู่บ้านนั้น”

ชาวบ้าน ที่อาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้จำนวน 946 คน รายงานข่าวระบุว่า มีจำนวนหนึ่งยินดี ที่จีนโคลนนิ่งหมู่บ้านของตน เพราะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ทว่าชาวบ้านอีกหลายคนกลับรู้สึกไม่สบายใจ เมื่อจู่ ๆ เอกสารและรูปถ่ายเกี่ยวกับหมู่บ้านถูกเปิดเผยให้เห็นโดยบังเอิญจากผู้มาเยือนคนหนึ่งเมื่อต้นเดือนมิ.ย.

“ฉันไม่ชอบใจเลยค่ะกับความคิด ที่มีการส่งทีมงานมาที่นี่อยู่หลายปี มาวัดขนาด มาถ่ายรูป และศึกษาพวกเรา” โมนิก้า เวนเจอร์ เจ้าของโรงแรมเผยความรู้สึก

“ฉันอยากให้พวกเขาเข้าหาเราอย่างตรงไปตรงมา … ทั้งหมดนี้ทำให้เราออกจะนึกไปถึงประโยคที่ว่า ‘พี่เบิ้มกำลังจ้องมองอยู่’ (Big Brother is watching)”

ด้านทีมงานผู้หนึ่งของมินเมทัลส์ แลนด์ ซึ่งรับผิดชอบโครงการดังกล่าวปฏิเสธกับโกลบอลไทมส์เมื่อวันจันทร์ (20 มิ.ย.) เรื่องเข้าไปสอดแนมความงามของหมู่บ้านฮอลล์ชตัด เพื่อมาสร้างหมู่บ้านโคลนนิ่งในเมืองฮุ้ยโจว มณฑลก่วงตง (กวางตุ้ง)

เขายังอ้างว่า ชาวบ้านฮอลล์ชตัดรู้เกี่ยวกับโครงการนี้และเห็นชอบด้วย โดยการก่อสร้าง ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนเม.ย. ที่ผ่านมา จะดำเนินต่อไป

“เราไม่ได้ก๊อปปี้หมู่บ้านนั้น แต่ตามข้อเท็จจริงแล้ว เรากำลังสร้างบริเวณที่พักอาศัยสำหรับคนรวยด้วยสถาปัตยกรรม ที่มีความเป็นพิเศษเฉพาะของออสเตรียต่างหากล่ะครับ รวมทั้งกำลังสร้างหลังคา และหน้าต่าง ซึ่งมีความเป็นพิเศษอย่างมาก”

อย่างไรก็ตาม นี่มิใช่ครั้งแรก ที่เกิดการโต้เถียงคัดค้านกันเรื่องการก๊อปปี้เมืองในโลกตะวันตกของมือโปรเลือดมังกร

เมื่อปี 2549 เทมส์ทาวน์ (Thames Town) ผุดตระหง่านขึ้นที่ชานนครเซี่ยงไฮ้ มันคือการโคลนนิ่งไลม์รีจิส(lyme regis) เมืองชายฝั่งทะเลแสนสวยงามในมณฑลดอร์เซ็ตของอังกฤษชัด ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ชาวเมืองต้นฉบับบนแดนผู้ดีถึงกับกรี๊ดสุดโกรธ

ก่อนหน้านั้น เมื่อปี 2548 สื่อมวลชนต่างชาติหลายสำนักต้องระทึกขวัญกันมาแล้ว เมื่อได้เห็นแฝดพี่ฝาน้องของดอร์เชสเตอร์ ซึ่งเป็นเมืองอันงดงามอีกเมืองหนึ่ง มาผุดขึ้นที่มณฑลเสฉวน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

การลอกเลียนแบบเมืองของชาติตะวันตกกลายเป็นอภิมหาโปรเจกต์ ที่นิยมทำกันของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจีน บริษัทหวอหลงหู เรียล เอสเตต ดีเวลอปเมนต์จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหนันจิง มุ่งก่อสร้างเมืองสไตล์อเมริกันในบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี โดยจินตนาการเห็นความต้องการที่แข็งแกร่งของตลาดสำหรับโครงการประเภทนี้ เช่นเดียวกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีกหลายบริษัท ที่เชื่อว่าโครงการบ้านแบบตะวันตกจะช่วยยกระดับวิถีการดำเนินชีวิตของชาวจีน

ทว่าตึกรามบ้านช่องแบบยุโรปของเก๊ ซึ่งปลูกสร้างขึ้นอย่างหยาบ ๆ ที่ปรากฏโฉมตามย่านใจกลางเมืองต่างๆ ในจีนนั้น มีคุณค่าทางสุนทรียศาสตร์เป็นศูนย์ หลักฐานการลอกเลียนแบบอย่างลวก ๆ ฟ้องได้จากเมื่อคราวมีการก๊อปปี้ตึกรัฐสภาของสหรัฐฯ ไปสร้างอาคารที่ว่าการส่วนท้องถิ่นในจีนนั้น มีหลายคนนึกว่าเป็นทำเนียบขาว

ถึงแม้ว่าการจำลองเมืองมรดกโลกของออสเตรียสามารถดึงดูดตลาดผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวได้ กระนั้นก็หาใช่เหตุผลแก้ตัว ที่ไปก๊อปปี้ของคนอื่นมา สถาปนิกจีนอาจนำวิธีการต่างๆ มาดัดแปลงใช้ เพื่อหยิบยืมกลิ่นอายสถาปัตยกรรมตะวันตกมาใส่ในผลงาน แต่การขโมยความคิดของผู้อื่นต้องไม่ทำเป็นอันขาด

เห็นได้ว่า สถาปนิกจีนกำลังหาทางลบล้างเส้นแบ่งพื้นฐานระหว่าง “การศึกษา” กับ“การลอกเลียนแบบ” การก๊อปปี้ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นแค่ในวงการสถาปัตยกรรมจีนเท่านั้น แต่มันเป็นการเพิ่มผลงานการลอกเลียนแบบเข้าไปอีกรายการหนึ่งในบัญชีการลอกเลียนแบบผลงานคนอื่น ๆที่ยาวเหยียดของจีน

เป็นความจริงที่ว่า การสร้างนวัตกรรมมักเริ่มต้นด้วยการเลียนแบบ แต่จะกลายเป็นเรื่องอันตราย หากปล่อยให้ประชาชนกลายเป็นคนมีความรู้สึกด้านชาต่อการก๊อปปี้กันอย่างไม่รู้จบ และที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือสังคมดูเหมือนไม่เป็นไรกับการก๊อปปี้ ที่เกิดขึ้นกลาดเกลื่อน มีชาวจีนน้อยคน ที่สนใจว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์โคลนนิ่งนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ และมีน้อยรายที่คว่ำบาตร

การขโมยความคิดคนอื่นเป็นสิ่งเลวร้าย ทุกคนย่อมทราบดี แต่สังคมเมืองจีนไม่ปฏิเสธการขโมยความคิดคนอื่นด้วยสัญชาตญาณเหมือนอย่างที่ชาติอื่น ๆ ปฏิเสธกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น