วานนี้ (28 ก.ย.) นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่นายวันชัย สุระกุล ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่าสำนักงานสลากฯมีแนวคิดที่จะให้รัฐบาลพิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 โดยเฉพาะในมาตรา 5 เพื่อให้มีการดำเนินกิจการในลักษณะเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ที่จะมีบริการสนามกอล์ฟ ศูนย์การเรียนรู้ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ฮอล์สำหรับแสดงคอนเสิร์ต รวมไปถึงบ่อนคาสิโน โดยเห็นว่าบริเวณทุ่งกุลาร้องไห้ จ.สุรินทร์ มีความเหมาะสมในการจัดสร้าง ว่า เรื่องนี้ตนไม่เห็นด้วย เพราะขณะนี้มีแหล่งอบายมุขที่ยังเป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบันมากมาย โดยที่ภาครัฐไม่สามารถมีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดได้ รวมถึงหากพิจารณาโครงการทำบ่อนกาสิโนในประเทศต่างๆ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ หรือเขตปกครองพิเศษมาเก๊านั้น ล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่เกาะ หรือพื้นที่ที่สามารถดูแลได้อย่างจำกัด ซึ่งเดิมทีคาดว่าจะไปเปิดในแหล่งท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต เพราะเป็นสถานที่ปิดชัดเจน
ส่วนที่หากมาเปิดที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ตนมองว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากทุ่งกุลาร้องไห้ตอนนี้ เป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิชั้นดี รายได้อาจมากกว่าคาสิโนด้วยซ้ำ โดยเฉพาะในแง่การกำกับดูแลคนไทยที่จะเข้าไปเล่นการพนัน เพราะขนาดบ่อนที่อยู่ตามชายแดน ภาครัฐก็ยังไม่สามารถควบคุมดูแลไม่ให้คนไทยไปเล่นได้เลย อีกทั้งประเทศต่างๆที่มีคาสิโน ซึ่งเป็นประเทศที่มีกฎหมายเข้มงวดกว่าเรามาก ก็ยังพบว่าในพื้นที่ที่มีบ่อนการพนัน มีปัญหาด้านสังคมตามมา อาทิ การก่ออาชญากรรม
“ขณะนี้สังคมได้ปลูกฝังเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง หากรัฐบาลเปิดบ่อนกาสิโนดังกล่าว เท่ากับว่าเป็นสิ่งที่ขัดกับหลักการดังกล่าว แต่หากรัฐบาลต้องการที่จะเปิดบ่อนการพนันนั้น ควรต้องมีการสอบถามความเห็นจากประชาชนก่อน เพราะรัฐบาลยังไม่สามารถเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามอบายมุข แต่กลับมีแนวคิดเปิดแหล่งอบายมุขเพิ่มอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่ทราบว่ารัฐบาลไม่มีอะไรทำหรืออย่างไร” นายสมชาย ระบุ
**ปูดนายทุน“ลาสเวกัส-มาเก๊า”หวังล๊อบบี้
นายสมชาย กล่าวอีกว่า เรื่องแนวคิดเปิดบ่อนคาสิโน ได้มีการพูดคุยในวงนักการเมืองมาแล้วประมาณ 1-2 อาทิตย์ เพราะทราบว่ามีความพยายามผู้ประกอบการบ่อนการพนันที่ลาสเวกัส และมาเก๊า ส่งคนมาประสานงานกับนักการเมืองระดับผู้บริหารในคณะรัฐบาลและที่สภาฯ หลังจากได้พยายามมาหลายครั้งในรัฐบาลที่ผ่านๆมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลมีแนวคิดดังกล่าวจริง ตนอยากให้ตระหนักว่าการเปิดบ่อนพนันในต่างประเทศ ส่วนใหญ่มีจุดประสงค์เพื่อดูดเงินจากคนต่างชาติ แต่การเปิดบ่อนในเมืองไทยนั้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นดูดเงินของคนไทยด้วยกันเอง ส่วนความร่ำรวยและงบประมาณที่จะได้นั้นคือผู้ประกอบการจากต่างประเทศ และรัฐบาลที่จะได้รายได้จากการให้สัมปทานบ่อนการพนันเท่านั้น
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ประชาชนกำลังคาดหวังจากรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องและความเป็นอยู่ ดังนั้นตนจึงขอเรียกร้องว่ารัฐบาลอย่าฉวยโอกาสเอาความคาดหวังประชาชนมาเป็นประชานิยม ทั้งนี้ขอถามไปยังรัฐบาลว่าเหตุใดจึงไม่คิดในเรื่องการแก้ไขปัญหาภาษีมรดกที่ขณะนี้ทำให้เกิดความเลื่อมล้ำในสังคม นอกจากนี้ขอฝากไปยังรัฐบาลว่านโยบายเรื่องใดที่จะสร้างแนวคิดประชานิยมมากจนเกินเหตุ หรืออาจทำให้ประชาชนต้องล้มละลายตนคิดว่ารัฐบาลก็สมควรที่จะยกเลิกเช่น นโยบายสินเชื่อบ้านหลังแรก หรือรถยนต์คันแรกก็ควรที่จะมีการยกเลิกไปบ้าง
“เงินทั้งหมดเป็นเงินภาษีของประชาชน ดังนั้นจึงขอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายดังกล่าวและกลับไปสู่แนวคิดที่พอเพียง การกระทำใดๆนั้นต้องตอบสังคมให้ได้ว่า สมควรที่จะให้มีแหล่งอบายมุขเสรีหรือไม่ ถ้าไม่ก็ไม่ควรที่จะดำเนินการผลักดันนโยบายในเรื่องดังกล่าว” นายสมชายกล่าว
**สว.อุทัยฯหนุนเชื่อปราบธุรกิจมืด
ด้าน นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี ให้ความเห็นว่า ตนเห็นด้วยและพร้อมสนับสนุนหากจะมีการเปิดบ่อนคาสิโนในประเทศไทย แต่ไม่เห็นด้วยที่จะให้สถานที่ดังกล่าวเป็นศูนย์รวมแหล่งบันเทิง หรือเป็นศูนย์การเรียนรู้ของเยาวชน ทั้งนี้หากหน่วยงานของรัฐเตรียมดำเนินโครงการดังกล่าวจริง อยากให้พิจารณามาตรการควบคุมที่มีความรอบคอบจริงจัง อาทิ ตั้งองค์กรหรือหน่วยงานขึ้นมากำกับดูแลบ่อนกาสิโนเป็นการเฉพาะ ส่วนระยะเวลาที่จะดำเนินการนั้น ไม่ควรเร่งรีบทำตอนนี้ ควรรอเวลาสัก 6 เดือนเพื่อให้รัฐบาลได้เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้แล้วเสร็จก่อนหรือสร้างผลงานให้เป็นรูปธรรมก่อน ทั้งนี้เพื่อลดแรงต่อต้านหรือโจมตีจากกลุ่มบุคคลที่ไม่เห็นด้วย และเป็นการขอเสียงสนับสนุนจากประชาชน
“การเปิดบ่อนกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย เชื่อว่าจะสามารถควบคุมการเกิดขึ้นของกลุ่มมาเฟีย กลุ่มผู้ที่ทำผิดกฎหมาย รวมถึงป้องกันไม่ให้มีการซื้อ-ขายยาเสพติดได้ นอกจากนั้นแล้วจะเป็นการควบคุมไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ในการเปิดบ่อนการพนันเถื่อน เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน” นายสิงห์ชัย กล่าว
*แค่โยนหินถามทาง เกิดรบ.นี้ยาก
นายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี กล่าวถึงกรณีการให้ข่าวของ นายวันชัย สุระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกิจแบ่งรัฐบาล เตรียมเสนอโครงการศูนย์บันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เมนท์ คอมเพล็กซ์ ที่มีแหล่งการพนัน แหล่งบันเทิงแบบครบวงจร ให้รัฐบาลพิจารณาเพื่อดำเนินการว่า เป็นเพียงการอยากโยนหินถามทางเท่านั้น คงไม่คิดที่จะเร่งดำเนินการโครงการดังกล่าวในช่วงเวลานี้ ทั้งนี้ความเห็นส่วนตัวมองว่าการตั้งบ่อนคาสิโนในประเทศนั้น ต้องผ่านกระบวนการรับฟังความเห็นจากภาคส่วนของสังคม และต้องแก้ไขกฎหมาย ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานาน คงไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ภายในอายุของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
“ถ้าพูดจริงๆ แล้ว การไปทำกาสิโนที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ไม่แน่ใจว่าคนจะแห่ไปเล่นหรือไม่ เพราะหากเทียบกับแหล่งคาสิโนในประเทศเพื่อนบ้านแล้วการเดินทางจะเข้าถึงได้ง่ายกว่า และหากประเทศไทยจะเปิดตลาดบ่อนการพนันแข่งขันกับต่างประเทศนั้นไม่ง่าย หากเปิดบ่อนเล็กคงไม่ประสบความสำเร็จ” นายประสิทธิ์ กล่าว
** “ปู”ปัดแนวคิดกองสลากเปิดคาสิโน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีแนวความคิดสร้างกาสิโน ในรูปแบบของเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ หรือสถานบันเทิงแบบครบวงจรว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดเลย เพิ่งได้ยินครั้งแรก ซึ่งยังไม่อยู่ในแนวนโยบายที่จะต้องเร่งทำในตอนนี้ ต้องขอไปดูในรายละเอียดก่อน เพราะมีทั้งผลดี และผลเสียหลายอย่าง ยังไม่ขอแสดงความคิดเห็นอะไรในตอนนี้
เมื่อถามว่า ในอดีตสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยมีการเสนอแนวความคิดนี้ จะมีการต่อยอดในเรื่องนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขอทำการศึกษาก่อน เพราะเวลาได้เปลี่ยนไปแล้ว ต้องขอดูผลกระทบข้อดี ข้อเสียต่างๆ และขอฟังความคิดเห็นจากประชาชนด้วย ถ้าจะทำทุกอย่างต้องทำการศึกษา แต่เวลานี้ไม่มีแนวคิดที่จะทำ เพราะมีหลายอย่างที่จะเป็นประเด็นได้ ขอยังไม่ให้ความคิดเห็นในเรื่องนี้ในเวลานี้
เมื่อถามว่า หากให้มีการเปิดได้จริงจะสวนทางกับนโยบายการปรับอบายมุขหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่ใช่นโยบาย ตนไม่เคยสั่งการหรือพูดถึงตรงนี้เลย เอาภารกิจการแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนก่อน ตรงนี้ไม่ใช่นโยบายเร่งด่วนที่ต้องมาทำ
เมื่อถามว่าเรื่องบ่อนกาสิโนจะใช้รูปแบบใดสอบถามความคิดเห็นของประชาชนหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ดิฉันบอกว่าถ้าจะทำ ตอนนี้ยังไม่มีความคิดที่จะทำ ทุกอย่างต้องศึกษาดูก่อน”
**“สามีปู” รับมีจดหมายถามหวย “นายกฯ”
นายอนุสรณ์ อมรฉัตร คู่สมรสนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการเป็นประธานการประชุมคู่สมรสคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 1 ถึงเรื่องจดหมาย ที่ส่งมาที่บ้านส่วนใหญ่เป็นเรื่องอะไรว่า “ขอหวย ขอตังค์ แต่ตอนนี้หวยฮ็อตมาก หวยทะเบียนรถ ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหวยล็อกก็เลยขอกันใหญ่ ถ้าล็อกจริงพวกผมรวยไปก่อนแล้ว” เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีเครียดหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวย้อนว่า เครียดเรื่องหวยหรือครับ ไม่เครียด เพราะตนบอกว่าวันหวยออกห้ามเปลี่ยนรถเด็ดขาด ให้ใช้คันเดิมแต่ถ้าออกเลขก็ช่วยไม่ได้
เมื่อถามว่าเท่าที่ดูล็อกจริงหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ถ้าล็อกตนรวยก่อนแล้ว ตรวจสอบทรัพย์สินได้เลย
**ส.ส.เพื่อไทยหนุนฟื้นหวยบนดินก็เอาด้วย
ที่รัฐสภา นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีแนวคิดปัดฝุ่นโครงการคาสิโนคอมเพล็กซ์ในประเทศแถบจังหวัดภาคอีสาน อย่างพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ เมื่อวันที่ 28 กันยายนว่า หากมองในแง่ของการสร้างรายได้ให้ประเทศก็ไม่เป็นไร เพราะถึงอย่างไรวันนี้ประเทศไทยก็ตกอยู่ในสภาพที่เรียกว่า เกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกงอยู่แล้ว โดยมีคนไทยนำเงินออกไปเล่นการพนันในประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก แล้วขณะนี้บ้านเมืองเราก็มีความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากมาแก้ปัญหา แต่ทั้งนี้ต้องพูดคุยหลายฝ่ายนำข้อดีข้อเสียมาชั่งน้ำหนักดูว่าได้คุ้มเสียหรือไม่ และหากเปิดกาสิโน ต้องมีมาตรการควบคุมผู้เล่นให้ดี ทำอย่างไรไม่ให้เด็กและผู้มีรายได้ต่ำเข้าไปเล่น เพราะหากหมดเนื้อหมดตัวก็อาจจะนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรม ปล้น ชิง วิ่งราวได้
นายศักดากล่าวว่า นอกจากนี้ เห็นด้วยกับการนำหวยใต้ดินขึ้นมาทำให้ถูกกฎหมาย ดีกว่าให้เงินตกไปอยู่กับเจ้ามือหวยเถื่อน หากนำเงินดังกล่าวมาพัฒนาประเทศ สมมุติว่าเราได้เงินจากหวย จากกาสิโน ประเทศมีรายได้เพิ่มปีละ 1-2 แสนล้านบาทมาช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ก็น่าจะเป็นประโยชน์กว่า
**'มาร์ค'ปัดไม่เอาด้วยตั้งคาสิโนถูกกม.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีแนวคิดจะเป็นเจ้าภาพจัดทำโครงการสถานบันเทิงแบบครบวงจรหรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งจะมีการเปิดบ่อนบ่อนคาสิโนด้วย ว่า รัฐบาลควรจะต้องชี้แจงในรายละเอียด โดยเฉพาะในส่วนนโยบายซึ่งกระทรวงการคลังยังไม่มีการแสดงท่าทีอะไร แต่จุดยืนของตนนั้นเหมือนเดิมคือไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตามทราบว่ากรณีดังกล่าวพยายามผลักดันมาหลายรอบในรัฐบาลหลายสมัย ซึ่งจะทำหรือไม่ในรัฐบาลปัจจุบันคงต้องพูดให้ชัด เพราะหากมีการดำเนินการจริงจะขัดกับแนวทางการปราบบ่อนการพนันที่เคยระบุก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ตนยังไม่อยากลงรายละเอียดไปก่อน เพราะคงต้องพิจารณาจากนโยบาย หากมีนโยบายก็ต้องแก้กฎหมาย ด้วยกรณีดังกล่าวไม่สามารถทำได้ในกฎหมายปัจจุบัน
ส่วนการอ้างว่าจะเอานำรายได้เพื่อไปทำประโยชน์กับสังคมในด้านอื่นๆนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันมีรายละเอียดเยอะ โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้ให้นายเกียรติ สิทธิอมร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เงา ได้รวบรวมข้อมูลเพราะการศึกษาผลกระทบเรื่องนี้ในประเทศต่างๆมีชัดเจนที่จะเปรียบเทียบได้
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีท่าทีของรัฐบาลที่ยืนยันจะทำนโยบายประชานิยมว่า สิ่งที่เป็นปัญหาคือการกระตุ้นที่เกิดความยั่งยืน มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรม ซึ่งต้องดูแต่ละมาตรการว่าเป็นอย่างไร อาทิ การจะกระตุ้นให้คนซื้อรถ ซื้อบ้านหลังแรกกับคนที่ไม่ใช่ผู้มีรายได้น้อยนั้นคงไม่เห็นด้วย เพราะไม่ใช่การกระตุ้นที่เป็นธรรมหรือคนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ ตนมองว่าขณะนี้รัฐบาลยังขาดภาพความชัดเจนที่จะรับมือเศรษฐกิจภาพรวม มีแต่เพียงการแก้ปัญหาแต่ละโครงการ ซึ่งยังไม่ใช่จำนวนส่วนใหญ่
เมื่อถามถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ใช้นโยบายประชานิยมกับโครงการไทยเข้มแข็งในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นคนละสถานการณ์ ขณะที่ทำโครงการไทยเข้มแข็งนั้น มีการว่างงานสูง และรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะหยุดยั้งตรงนั้น แต่ขณะนี้ยังไม่มีสถานการณ์ตรงนั้น อย่างไรก็ตามจากการหารือกับประธานสภาอุตสาหกรรมเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็เห็นว่ามีสัญญาณอยู่บ้างถึงวิกฤติในภูมิภาคยุโรปที่เริ่มส่งสัญญาณถึงผู้ส่งออก ทำให้การส่งออกชะลอตัว
**แม้วหวยบนดิน-ยุคหมักฝันภาคละแห่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งนี้ นายวันชัย สุระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีแนวคิดที่จะให้รัฐบาลพิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 มาตรา 5 และมาตรา 22 เพื่อตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ที่ “ทุ่งกุลาร้องไห้” โดยอ้างว่า ไม่เหมาะกับการทำการเกษตรกรรม
สำหรับแนวคิดนี้ มีการนำเสนอมตั้งแต่สมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนมีนโยบายหวยบนดิน มาถึงสมัยนายสมัคร สุนทรเวช ที่จะรื้อฟื้นหวยบนดิน และให้มีบ่อนคาสิโน โดยคนพรรคพลังประชาชนขณะนั้น ยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นแนวคิดต่อเนื่องที่นำมาจากนโยบายสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะต้องการให้มี เอ็นเตอร์เทรนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งภาคหนึ่งก็จะมีแห่งหนึ่ง ถึงขั้นที่ต้องจัดทำประชาพิจารณ์ อย่างไรก็ตามขณะนั้นมีการต่อต้านนโยบายนี้อย่างหนักจนต้องพับไป
“รัฐบาลสมัยนั้น ปฏิเสธว่า จะไม่ทำให้การพนันเป็นเรื่องถูกกฎหมาย แต่จะทำในลักษณะเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา และจะจัดโซนพื้นที่ไว้เฉพาะ หากอยู่นอกโซนจะผิดกฎหมายทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายและให้เป็นระเนียบ”
**ข้าวหอมมะลิ ทำรายได้ 4 พันล้านต่อปี
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพื้นที่ “ทุ่งกุลา ร้องไห้” ปัจจุบันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีโครงการผลิตข้าวหอมมะลิมาตรฐานเพื่อการส่งออก เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ เกษตรกรในพื้นที่จำนวน 1.27 ล้านไร่ เกษตรกรเป้าหมาย 87,400 ครัวเรือน และเพิ่มผลผลิตข้าวหอมมะลิจาก 250 กก.ต่อไร่ เป็น 470 กก.ต่อไร่
โดยมีการส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์เพิ่มเติมอีก 4 แสนไร่ เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของตลาด โดยประมาณการผลผลิตเป้าหมาย 2 แสนตัน ของ 5 จังหวัดในทุ่งกุลาร้องไห้ โดยแยกเป็นเป้าหมายรายจังหวัด ได้แก่ จ.ร้อยเอ็ด พื้นที่นาจำนวน 986,807 ไร่ เป้าหมายพื้นที่ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 150,000 ไร่ ได้ผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ จำนวน 75,000 ตัน จ.สุรินทร์ พื้นที่นาจำนวน 575,993 ไร่ เป้าหมายพื้นที่ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 150,000 ไร่ ได้ผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ จำนวน 75,000 ตัน จ.ศรีสะเกษ พื้นที่นาจำนวน 287,000 ไร่ เป้าหมายพื้นที่ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 50,000 ไร่ ได้ผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ จำนวน 25,000 ตัน จ.มหาสารคาม พื้นที่นาจำนวน 193,890 ไร่ เป้าหมายพื้นที่ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 30,000 ไร่ ได้ผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ จำนวน 15,000 ตัน และจ.ยโสธร พื้นที่นาจำนวน 64,000 ไร่ เป้าหมายพื้นที่ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 20,000 ไร่ ได้ผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ จำนวน 10,000 ตัน
ซึ่งจะส่งผลทำให้เกษตรกรในทุ่งกุลาร้องไห้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกปีละ 700 ล้านบาท และหากคิดเป็นมูลค่าข้าวหอมมะลิอินทรีย์ในทุ่งกุลาร้องไห้ในพื้นที่เป้าหมาย 4 แสนไร่จะสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี.
ส่วนที่หากมาเปิดที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ตนมองว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากทุ่งกุลาร้องไห้ตอนนี้ เป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิชั้นดี รายได้อาจมากกว่าคาสิโนด้วยซ้ำ โดยเฉพาะในแง่การกำกับดูแลคนไทยที่จะเข้าไปเล่นการพนัน เพราะขนาดบ่อนที่อยู่ตามชายแดน ภาครัฐก็ยังไม่สามารถควบคุมดูแลไม่ให้คนไทยไปเล่นได้เลย อีกทั้งประเทศต่างๆที่มีคาสิโน ซึ่งเป็นประเทศที่มีกฎหมายเข้มงวดกว่าเรามาก ก็ยังพบว่าในพื้นที่ที่มีบ่อนการพนัน มีปัญหาด้านสังคมตามมา อาทิ การก่ออาชญากรรม
“ขณะนี้สังคมได้ปลูกฝังเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง หากรัฐบาลเปิดบ่อนกาสิโนดังกล่าว เท่ากับว่าเป็นสิ่งที่ขัดกับหลักการดังกล่าว แต่หากรัฐบาลต้องการที่จะเปิดบ่อนการพนันนั้น ควรต้องมีการสอบถามความเห็นจากประชาชนก่อน เพราะรัฐบาลยังไม่สามารถเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามอบายมุข แต่กลับมีแนวคิดเปิดแหล่งอบายมุขเพิ่มอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่ทราบว่ารัฐบาลไม่มีอะไรทำหรืออย่างไร” นายสมชาย ระบุ
**ปูดนายทุน“ลาสเวกัส-มาเก๊า”หวังล๊อบบี้
นายสมชาย กล่าวอีกว่า เรื่องแนวคิดเปิดบ่อนคาสิโน ได้มีการพูดคุยในวงนักการเมืองมาแล้วประมาณ 1-2 อาทิตย์ เพราะทราบว่ามีความพยายามผู้ประกอบการบ่อนการพนันที่ลาสเวกัส และมาเก๊า ส่งคนมาประสานงานกับนักการเมืองระดับผู้บริหารในคณะรัฐบาลและที่สภาฯ หลังจากได้พยายามมาหลายครั้งในรัฐบาลที่ผ่านๆมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลมีแนวคิดดังกล่าวจริง ตนอยากให้ตระหนักว่าการเปิดบ่อนพนันในต่างประเทศ ส่วนใหญ่มีจุดประสงค์เพื่อดูดเงินจากคนต่างชาติ แต่การเปิดบ่อนในเมืองไทยนั้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นดูดเงินของคนไทยด้วยกันเอง ส่วนความร่ำรวยและงบประมาณที่จะได้นั้นคือผู้ประกอบการจากต่างประเทศ และรัฐบาลที่จะได้รายได้จากการให้สัมปทานบ่อนการพนันเท่านั้น
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ประชาชนกำลังคาดหวังจากรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องและความเป็นอยู่ ดังนั้นตนจึงขอเรียกร้องว่ารัฐบาลอย่าฉวยโอกาสเอาความคาดหวังประชาชนมาเป็นประชานิยม ทั้งนี้ขอถามไปยังรัฐบาลว่าเหตุใดจึงไม่คิดในเรื่องการแก้ไขปัญหาภาษีมรดกที่ขณะนี้ทำให้เกิดความเลื่อมล้ำในสังคม นอกจากนี้ขอฝากไปยังรัฐบาลว่านโยบายเรื่องใดที่จะสร้างแนวคิดประชานิยมมากจนเกินเหตุ หรืออาจทำให้ประชาชนต้องล้มละลายตนคิดว่ารัฐบาลก็สมควรที่จะยกเลิกเช่น นโยบายสินเชื่อบ้านหลังแรก หรือรถยนต์คันแรกก็ควรที่จะมีการยกเลิกไปบ้าง
“เงินทั้งหมดเป็นเงินภาษีของประชาชน ดังนั้นจึงขอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายดังกล่าวและกลับไปสู่แนวคิดที่พอเพียง การกระทำใดๆนั้นต้องตอบสังคมให้ได้ว่า สมควรที่จะให้มีแหล่งอบายมุขเสรีหรือไม่ ถ้าไม่ก็ไม่ควรที่จะดำเนินการผลักดันนโยบายในเรื่องดังกล่าว” นายสมชายกล่าว
**สว.อุทัยฯหนุนเชื่อปราบธุรกิจมืด
ด้าน นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี ให้ความเห็นว่า ตนเห็นด้วยและพร้อมสนับสนุนหากจะมีการเปิดบ่อนคาสิโนในประเทศไทย แต่ไม่เห็นด้วยที่จะให้สถานที่ดังกล่าวเป็นศูนย์รวมแหล่งบันเทิง หรือเป็นศูนย์การเรียนรู้ของเยาวชน ทั้งนี้หากหน่วยงานของรัฐเตรียมดำเนินโครงการดังกล่าวจริง อยากให้พิจารณามาตรการควบคุมที่มีความรอบคอบจริงจัง อาทิ ตั้งองค์กรหรือหน่วยงานขึ้นมากำกับดูแลบ่อนกาสิโนเป็นการเฉพาะ ส่วนระยะเวลาที่จะดำเนินการนั้น ไม่ควรเร่งรีบทำตอนนี้ ควรรอเวลาสัก 6 เดือนเพื่อให้รัฐบาลได้เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้แล้วเสร็จก่อนหรือสร้างผลงานให้เป็นรูปธรรมก่อน ทั้งนี้เพื่อลดแรงต่อต้านหรือโจมตีจากกลุ่มบุคคลที่ไม่เห็นด้วย และเป็นการขอเสียงสนับสนุนจากประชาชน
“การเปิดบ่อนกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย เชื่อว่าจะสามารถควบคุมการเกิดขึ้นของกลุ่มมาเฟีย กลุ่มผู้ที่ทำผิดกฎหมาย รวมถึงป้องกันไม่ให้มีการซื้อ-ขายยาเสพติดได้ นอกจากนั้นแล้วจะเป็นการควบคุมไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ในการเปิดบ่อนการพนันเถื่อน เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน” นายสิงห์ชัย กล่าว
*แค่โยนหินถามทาง เกิดรบ.นี้ยาก
นายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี กล่าวถึงกรณีการให้ข่าวของ นายวันชัย สุระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกิจแบ่งรัฐบาล เตรียมเสนอโครงการศูนย์บันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เมนท์ คอมเพล็กซ์ ที่มีแหล่งการพนัน แหล่งบันเทิงแบบครบวงจร ให้รัฐบาลพิจารณาเพื่อดำเนินการว่า เป็นเพียงการอยากโยนหินถามทางเท่านั้น คงไม่คิดที่จะเร่งดำเนินการโครงการดังกล่าวในช่วงเวลานี้ ทั้งนี้ความเห็นส่วนตัวมองว่าการตั้งบ่อนคาสิโนในประเทศนั้น ต้องผ่านกระบวนการรับฟังความเห็นจากภาคส่วนของสังคม และต้องแก้ไขกฎหมาย ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานาน คงไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ภายในอายุของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
“ถ้าพูดจริงๆ แล้ว การไปทำกาสิโนที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ไม่แน่ใจว่าคนจะแห่ไปเล่นหรือไม่ เพราะหากเทียบกับแหล่งคาสิโนในประเทศเพื่อนบ้านแล้วการเดินทางจะเข้าถึงได้ง่ายกว่า และหากประเทศไทยจะเปิดตลาดบ่อนการพนันแข่งขันกับต่างประเทศนั้นไม่ง่าย หากเปิดบ่อนเล็กคงไม่ประสบความสำเร็จ” นายประสิทธิ์ กล่าว
** “ปู”ปัดแนวคิดกองสลากเปิดคาสิโน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีแนวความคิดสร้างกาสิโน ในรูปแบบของเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ หรือสถานบันเทิงแบบครบวงจรว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดเลย เพิ่งได้ยินครั้งแรก ซึ่งยังไม่อยู่ในแนวนโยบายที่จะต้องเร่งทำในตอนนี้ ต้องขอไปดูในรายละเอียดก่อน เพราะมีทั้งผลดี และผลเสียหลายอย่าง ยังไม่ขอแสดงความคิดเห็นอะไรในตอนนี้
เมื่อถามว่า ในอดีตสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยมีการเสนอแนวความคิดนี้ จะมีการต่อยอดในเรื่องนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขอทำการศึกษาก่อน เพราะเวลาได้เปลี่ยนไปแล้ว ต้องขอดูผลกระทบข้อดี ข้อเสียต่างๆ และขอฟังความคิดเห็นจากประชาชนด้วย ถ้าจะทำทุกอย่างต้องทำการศึกษา แต่เวลานี้ไม่มีแนวคิดที่จะทำ เพราะมีหลายอย่างที่จะเป็นประเด็นได้ ขอยังไม่ให้ความคิดเห็นในเรื่องนี้ในเวลานี้
เมื่อถามว่า หากให้มีการเปิดได้จริงจะสวนทางกับนโยบายการปรับอบายมุขหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่ใช่นโยบาย ตนไม่เคยสั่งการหรือพูดถึงตรงนี้เลย เอาภารกิจการแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนก่อน ตรงนี้ไม่ใช่นโยบายเร่งด่วนที่ต้องมาทำ
เมื่อถามว่าเรื่องบ่อนกาสิโนจะใช้รูปแบบใดสอบถามความคิดเห็นของประชาชนหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “ดิฉันบอกว่าถ้าจะทำ ตอนนี้ยังไม่มีความคิดที่จะทำ ทุกอย่างต้องศึกษาดูก่อน”
**“สามีปู” รับมีจดหมายถามหวย “นายกฯ”
นายอนุสรณ์ อมรฉัตร คู่สมรสนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการเป็นประธานการประชุมคู่สมรสคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 1 ถึงเรื่องจดหมาย ที่ส่งมาที่บ้านส่วนใหญ่เป็นเรื่องอะไรว่า “ขอหวย ขอตังค์ แต่ตอนนี้หวยฮ็อตมาก หวยทะเบียนรถ ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหวยล็อกก็เลยขอกันใหญ่ ถ้าล็อกจริงพวกผมรวยไปก่อนแล้ว” เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีเครียดหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวย้อนว่า เครียดเรื่องหวยหรือครับ ไม่เครียด เพราะตนบอกว่าวันหวยออกห้ามเปลี่ยนรถเด็ดขาด ให้ใช้คันเดิมแต่ถ้าออกเลขก็ช่วยไม่ได้
เมื่อถามว่าเท่าที่ดูล็อกจริงหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ถ้าล็อกตนรวยก่อนแล้ว ตรวจสอบทรัพย์สินได้เลย
**ส.ส.เพื่อไทยหนุนฟื้นหวยบนดินก็เอาด้วย
ที่รัฐสภา นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีแนวคิดปัดฝุ่นโครงการคาสิโนคอมเพล็กซ์ในประเทศแถบจังหวัดภาคอีสาน อย่างพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ เมื่อวันที่ 28 กันยายนว่า หากมองในแง่ของการสร้างรายได้ให้ประเทศก็ไม่เป็นไร เพราะถึงอย่างไรวันนี้ประเทศไทยก็ตกอยู่ในสภาพที่เรียกว่า เกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกงอยู่แล้ว โดยมีคนไทยนำเงินออกไปเล่นการพนันในประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก แล้วขณะนี้บ้านเมืองเราก็มีความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากมาแก้ปัญหา แต่ทั้งนี้ต้องพูดคุยหลายฝ่ายนำข้อดีข้อเสียมาชั่งน้ำหนักดูว่าได้คุ้มเสียหรือไม่ และหากเปิดกาสิโน ต้องมีมาตรการควบคุมผู้เล่นให้ดี ทำอย่างไรไม่ให้เด็กและผู้มีรายได้ต่ำเข้าไปเล่น เพราะหากหมดเนื้อหมดตัวก็อาจจะนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรม ปล้น ชิง วิ่งราวได้
นายศักดากล่าวว่า นอกจากนี้ เห็นด้วยกับการนำหวยใต้ดินขึ้นมาทำให้ถูกกฎหมาย ดีกว่าให้เงินตกไปอยู่กับเจ้ามือหวยเถื่อน หากนำเงินดังกล่าวมาพัฒนาประเทศ สมมุติว่าเราได้เงินจากหวย จากกาสิโน ประเทศมีรายได้เพิ่มปีละ 1-2 แสนล้านบาทมาช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ก็น่าจะเป็นประโยชน์กว่า
**'มาร์ค'ปัดไม่เอาด้วยตั้งคาสิโนถูกกม.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีแนวคิดจะเป็นเจ้าภาพจัดทำโครงการสถานบันเทิงแบบครบวงจรหรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งจะมีการเปิดบ่อนบ่อนคาสิโนด้วย ว่า รัฐบาลควรจะต้องชี้แจงในรายละเอียด โดยเฉพาะในส่วนนโยบายซึ่งกระทรวงการคลังยังไม่มีการแสดงท่าทีอะไร แต่จุดยืนของตนนั้นเหมือนเดิมคือไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตามทราบว่ากรณีดังกล่าวพยายามผลักดันมาหลายรอบในรัฐบาลหลายสมัย ซึ่งจะทำหรือไม่ในรัฐบาลปัจจุบันคงต้องพูดให้ชัด เพราะหากมีการดำเนินการจริงจะขัดกับแนวทางการปราบบ่อนการพนันที่เคยระบุก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ตนยังไม่อยากลงรายละเอียดไปก่อน เพราะคงต้องพิจารณาจากนโยบาย หากมีนโยบายก็ต้องแก้กฎหมาย ด้วยกรณีดังกล่าวไม่สามารถทำได้ในกฎหมายปัจจุบัน
ส่วนการอ้างว่าจะเอานำรายได้เพื่อไปทำประโยชน์กับสังคมในด้านอื่นๆนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันมีรายละเอียดเยอะ โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้ให้นายเกียรติ สิทธิอมร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เงา ได้รวบรวมข้อมูลเพราะการศึกษาผลกระทบเรื่องนี้ในประเทศต่างๆมีชัดเจนที่จะเปรียบเทียบได้
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีท่าทีของรัฐบาลที่ยืนยันจะทำนโยบายประชานิยมว่า สิ่งที่เป็นปัญหาคือการกระตุ้นที่เกิดความยั่งยืน มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรม ซึ่งต้องดูแต่ละมาตรการว่าเป็นอย่างไร อาทิ การจะกระตุ้นให้คนซื้อรถ ซื้อบ้านหลังแรกกับคนที่ไม่ใช่ผู้มีรายได้น้อยนั้นคงไม่เห็นด้วย เพราะไม่ใช่การกระตุ้นที่เป็นธรรมหรือคนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ ตนมองว่าขณะนี้รัฐบาลยังขาดภาพความชัดเจนที่จะรับมือเศรษฐกิจภาพรวม มีแต่เพียงการแก้ปัญหาแต่ละโครงการ ซึ่งยังไม่ใช่จำนวนส่วนใหญ่
เมื่อถามถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ใช้นโยบายประชานิยมกับโครงการไทยเข้มแข็งในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นคนละสถานการณ์ ขณะที่ทำโครงการไทยเข้มแข็งนั้น มีการว่างงานสูง และรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะหยุดยั้งตรงนั้น แต่ขณะนี้ยังไม่มีสถานการณ์ตรงนั้น อย่างไรก็ตามจากการหารือกับประธานสภาอุตสาหกรรมเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็เห็นว่ามีสัญญาณอยู่บ้างถึงวิกฤติในภูมิภาคยุโรปที่เริ่มส่งสัญญาณถึงผู้ส่งออก ทำให้การส่งออกชะลอตัว
**แม้วหวยบนดิน-ยุคหมักฝันภาคละแห่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งนี้ นายวันชัย สุระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีแนวคิดที่จะให้รัฐบาลพิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 มาตรา 5 และมาตรา 22 เพื่อตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ที่ “ทุ่งกุลาร้องไห้” โดยอ้างว่า ไม่เหมาะกับการทำการเกษตรกรรม
สำหรับแนวคิดนี้ มีการนำเสนอมตั้งแต่สมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนมีนโยบายหวยบนดิน มาถึงสมัยนายสมัคร สุนทรเวช ที่จะรื้อฟื้นหวยบนดิน และให้มีบ่อนคาสิโน โดยคนพรรคพลังประชาชนขณะนั้น ยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นแนวคิดต่อเนื่องที่นำมาจากนโยบายสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะต้องการให้มี เอ็นเตอร์เทรนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งภาคหนึ่งก็จะมีแห่งหนึ่ง ถึงขั้นที่ต้องจัดทำประชาพิจารณ์ อย่างไรก็ตามขณะนั้นมีการต่อต้านนโยบายนี้อย่างหนักจนต้องพับไป
“รัฐบาลสมัยนั้น ปฏิเสธว่า จะไม่ทำให้การพนันเป็นเรื่องถูกกฎหมาย แต่จะทำในลักษณะเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา และจะจัดโซนพื้นที่ไว้เฉพาะ หากอยู่นอกโซนจะผิดกฎหมายทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายและให้เป็นระเนียบ”
**ข้าวหอมมะลิ ทำรายได้ 4 พันล้านต่อปี
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพื้นที่ “ทุ่งกุลา ร้องไห้” ปัจจุบันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีโครงการผลิตข้าวหอมมะลิมาตรฐานเพื่อการส่งออก เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ เกษตรกรในพื้นที่จำนวน 1.27 ล้านไร่ เกษตรกรเป้าหมาย 87,400 ครัวเรือน และเพิ่มผลผลิตข้าวหอมมะลิจาก 250 กก.ต่อไร่ เป็น 470 กก.ต่อไร่
โดยมีการส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์เพิ่มเติมอีก 4 แสนไร่ เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของตลาด โดยประมาณการผลผลิตเป้าหมาย 2 แสนตัน ของ 5 จังหวัดในทุ่งกุลาร้องไห้ โดยแยกเป็นเป้าหมายรายจังหวัด ได้แก่ จ.ร้อยเอ็ด พื้นที่นาจำนวน 986,807 ไร่ เป้าหมายพื้นที่ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 150,000 ไร่ ได้ผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ จำนวน 75,000 ตัน จ.สุรินทร์ พื้นที่นาจำนวน 575,993 ไร่ เป้าหมายพื้นที่ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 150,000 ไร่ ได้ผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ จำนวน 75,000 ตัน จ.ศรีสะเกษ พื้นที่นาจำนวน 287,000 ไร่ เป้าหมายพื้นที่ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 50,000 ไร่ ได้ผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ จำนวน 25,000 ตัน จ.มหาสารคาม พื้นที่นาจำนวน 193,890 ไร่ เป้าหมายพื้นที่ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 30,000 ไร่ ได้ผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ จำนวน 15,000 ตัน และจ.ยโสธร พื้นที่นาจำนวน 64,000 ไร่ เป้าหมายพื้นที่ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 20,000 ไร่ ได้ผลผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ จำนวน 10,000 ตัน
ซึ่งจะส่งผลทำให้เกษตรกรในทุ่งกุลาร้องไห้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกปีละ 700 ล้านบาท และหากคิดเป็นมูลค่าข้าวหอมมะลิอินทรีย์ในทุ่งกุลาร้องไห้ในพื้นที่เป้าหมาย 4 แสนไร่จะสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี.
