เลขาฯ สปส.ชง 4 แนวทางแก้เงินกองทุนชราภาพหมดเกลี้ยงในปี 2586 เพิ่มสิทธิประโยชน์ประกันสังคมมาตรา 40 ด้าน “เผดิมชัย” สั่งปลัดแรงงานหาแนวทางแก้
วันที่ (29 ส.ค.) นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวตอนหนึ่งในการเสนอภารกิจสำนักงานประกันสังคม ต่อนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในการมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ว่า ปัจจุบันสิทธิประโยชน์ของประกันสังคม คือ การจ่ายเงินกรณีชราภาพ ซึ่งปัจจุบันมีเงินสะสมกองทุนประกันสังคมกรณีชราภาพอยู่กว่า 6 แสนล้านบาท และจะเริ่มจ่ายเงินบำนาญให้กับผู้ประกันตนในปี 2557 ทำให้เงินกองทุนส่วนนี้หมดลงในปี 2586
เลขาธิการ สปส.กล่าวอีกว่า สปส.ได้เตรียมแนวทางแก้ปัญหาในเรื่องนี้ ใน 4 แนวทาง ได้แก่ 1.การเพิ่มเงินสมทบ ซึ่งปัจจุบันอัตราเงินสมทบอยู่ที่ 6% ของค่าจ้างเฉลี่ย หากเพิ่มอัตราเงินสมทบ 1% ทุก 5 ปี เงินกองทุนจะหมดลงในปี 2563 และหากเพิ่มอัตราเงินสมทบ 2% ทุก 5 ปี เงินกองทุนจะหมดลงในปี 2605 2.การขยายเวลาส่งเงินสมทบเพื่อเกิดสิทธิ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 15 ปี หากขยายเวลาเพื่อเกิดสิทธิเป็น 20 ปี เงินกองทุนจะหมดลงในปี 2590 และถ้าขยายเวลาส่งเงินสมทบเป็น 25 ปี เงินกองทุนจะหมดในปี 2596 3.การขยายอายุเกษียณ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่อายุ 55 ปี หากขยายอายุเกษียณเป็น 56 ปี เริ่มในปี 2558 และขยายเพิ่ม 1 ปี ทุกๆ 5 ปี หลังจากนั้น เงินกองทุนจะหมดลงในปี 2592 และ 4.เพิ่มอัตราผลตอบแทน โดยปัจจุบันอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 5.5% หากเพิ่มอัตราผลตอบแทนเป็น 6% เงินกองทุนจะหมดลงในปี 2587 เพิ่มอัตราผลตอบแทน 7% เงินกองทุนจะหมดลงในปี 2589 และเพิ่มอัตราผลตอบแทน 8% เงินกองทุนจะหมดลงในปี 2591
“แนวทางเหล่านี้จะเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดประกันสังคมในเดือน ก.ย.นี้ หลังจากนั้น สปส.จะจัดประชาพิจารณ์ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง แล้วเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป” นายปั้น กล่าว
เลขาธิการ สปส.กล่าวต่อว่า สปส.เตรียมปรับปรุงสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ซึ่งเป็นแรงงานนอกระบบโดยปัจจุบันมีแรงงานนอกระบบสมัครเข้าประกันสังคมมาตรา 40 แล้วกว่า 4.1 แสนคน ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะ 1 ปีและระยะต่อไปของการเป็นผู้ประกันตน ได้แก่ เพิ่มค่าทำศพภายในปี 2555 เพิ่มเงินชดเชยการขาดรายได้กณีผู้ป่วยในให้ได้รับตั้งแต่วันแรกที่นอนโรงพยาบาลภายในปี 2556 ปรับสัดส่วนเงินสมทบในส่วนของบำเหน็จสะสมเพิ่มขึ้นมากกว่า 50 บาทต่อเดือน ภายในปี 2557 จัดสิทธิประโยชน์ให้บุตรและคู่สมรสของแรงงานนอกระบบภายในปี 2558
นายเผดิมชัย กล่าวว่า กรณีเงินกองทุนชราภาพ ซึ่งเงินกองทุนจะเริ่มจ่ายเงินบำนาญให้แก่ผู้ประกันตนในปี 2557 และหมดลงในปี 2586 จะมอบให้ นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (กปส.) ไปหาแนวทางแก้ปัญหาและหารือกับบอร์ดประกันสังคม
วันที่ (29 ส.ค.) นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวตอนหนึ่งในการเสนอภารกิจสำนักงานประกันสังคม ต่อนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในการมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ว่า ปัจจุบันสิทธิประโยชน์ของประกันสังคม คือ การจ่ายเงินกรณีชราภาพ ซึ่งปัจจุบันมีเงินสะสมกองทุนประกันสังคมกรณีชราภาพอยู่กว่า 6 แสนล้านบาท และจะเริ่มจ่ายเงินบำนาญให้กับผู้ประกันตนในปี 2557 ทำให้เงินกองทุนส่วนนี้หมดลงในปี 2586
เลขาธิการ สปส.กล่าวอีกว่า สปส.ได้เตรียมแนวทางแก้ปัญหาในเรื่องนี้ ใน 4 แนวทาง ได้แก่ 1.การเพิ่มเงินสมทบ ซึ่งปัจจุบันอัตราเงินสมทบอยู่ที่ 6% ของค่าจ้างเฉลี่ย หากเพิ่มอัตราเงินสมทบ 1% ทุก 5 ปี เงินกองทุนจะหมดลงในปี 2563 และหากเพิ่มอัตราเงินสมทบ 2% ทุก 5 ปี เงินกองทุนจะหมดลงในปี 2605 2.การขยายเวลาส่งเงินสมทบเพื่อเกิดสิทธิ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 15 ปี หากขยายเวลาเพื่อเกิดสิทธิเป็น 20 ปี เงินกองทุนจะหมดลงในปี 2590 และถ้าขยายเวลาส่งเงินสมทบเป็น 25 ปี เงินกองทุนจะหมดในปี 2596 3.การขยายอายุเกษียณ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่อายุ 55 ปี หากขยายอายุเกษียณเป็น 56 ปี เริ่มในปี 2558 และขยายเพิ่ม 1 ปี ทุกๆ 5 ปี หลังจากนั้น เงินกองทุนจะหมดลงในปี 2592 และ 4.เพิ่มอัตราผลตอบแทน โดยปัจจุบันอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 5.5% หากเพิ่มอัตราผลตอบแทนเป็น 6% เงินกองทุนจะหมดลงในปี 2587 เพิ่มอัตราผลตอบแทน 7% เงินกองทุนจะหมดลงในปี 2589 และเพิ่มอัตราผลตอบแทน 8% เงินกองทุนจะหมดลงในปี 2591
“แนวทางเหล่านี้จะเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดประกันสังคมในเดือน ก.ย.นี้ หลังจากนั้น สปส.จะจัดประชาพิจารณ์ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง แล้วเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป” นายปั้น กล่าว
เลขาธิการ สปส.กล่าวต่อว่า สปส.เตรียมปรับปรุงสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ซึ่งเป็นแรงงานนอกระบบโดยปัจจุบันมีแรงงานนอกระบบสมัครเข้าประกันสังคมมาตรา 40 แล้วกว่า 4.1 แสนคน ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะ 1 ปีและระยะต่อไปของการเป็นผู้ประกันตน ได้แก่ เพิ่มค่าทำศพภายในปี 2555 เพิ่มเงินชดเชยการขาดรายได้กณีผู้ป่วยในให้ได้รับตั้งแต่วันแรกที่นอนโรงพยาบาลภายในปี 2556 ปรับสัดส่วนเงินสมทบในส่วนของบำเหน็จสะสมเพิ่มขึ้นมากกว่า 50 บาทต่อเดือน ภายในปี 2557 จัดสิทธิประโยชน์ให้บุตรและคู่สมรสของแรงงานนอกระบบภายในปี 2558
นายเผดิมชัย กล่าวว่า กรณีเงินกองทุนชราภาพ ซึ่งเงินกองทุนจะเริ่มจ่ายเงินบำนาญให้แก่ผู้ประกันตนในปี 2557 และหมดลงในปี 2586 จะมอบให้ นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (กปส.) ไปหาแนวทางแก้ปัญหาและหารือกับบอร์ดประกันสังคม