สวธ.เล็งตีทะเบียน “หมอพื้นบ้าน” ขึ้นมรดกทางวัฒนธรรมจับต้องไม่ได้ รักษาเอกลักษณ์ไทย และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
นายอภินันท์ โปษยานนท์ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้เข้าร่วมการประชุม มหกรรมหมอพื้นบ้านนานาชาติ จัดโดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ สมาพันธ์แพทย์แผนไทยล้านนา เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพของเอเชีย ในส่วนของ สวธ.เห็นควรที่จะมีการศึกษาองค์ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์พื้นบ้าน หรือการแพทย์แผนไทยควบคู่ไปด้วย เพื่อที่จะเตรียมตัวผลักดันสู่การขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ เนื่องเพราะปัจจุบันนี้การแพทย์พื้นบ้านไทยกำลังเป็นที่นิยมในระดับนานาชาติ ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญและต้องการเข้ามาศึกษาในประเทศไทย
ทั้งนี้ หลักสูตรการแพทย์พื้นบ้านมีหลากหลายสาขา จึงต้องหาเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและจะต้องมีความแตกต่างจากประเทศต่างๆ ด้วย ทั้งในส่วน ท่านวด กาบำบัดรักษา สมุนไพรที่นำมาใช้ ตลอดจนการเชื่อมโยงไปสู่ธุรกิจสปาไทย ซึ่งมีการเปิดให้บริการบำบัดโดยแพทย์พื้นบ้านด้วย
นายอภินันท์ กล่าวว่า เมื่อได้ศึกษาองค์ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์พื้นบ้านของไทยแล้ว จะนำไปบรรจุในแผนของกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ซึ่งจะสอดคล้องกับแผนนโยบายของรัฐบาล ในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และสังคม ตามที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงต่อรัฐสภา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม จะต้องร่วมมือกันสร้างเอกลักษณ์ รวมทั้งร่วมกันผลักดันให้การแพทย์พื้นบ้านของไทยได้รับการจดทะเบียน เพราะภูมิปัญญาพื้นบ้านไทยทางการแพทย์นั้น ไม่เหมือนใครในโลก เฉกเช่นเดียวกันกับอาหารไทย เป็นเสน่ห์ประจำชาติ แต่ยังมีข้อที่ต้องมัดระวัง คือ จะต้องหากฎเกณฑ์และมาตรฐานการของแพทย์พื้นบ้านของไทยให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการลักลอบหรือนำไปใช้ที่บิดเบือนไปจากของจริง อาจทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยเสื่อมเสียได้