xs
xsm
sm
md
lg

วธ.พร้อมส่งคืนโบราณวัตถุอีก 36 ชิ้นให้กัมพูชาหากมีหลักฐานชัดเจน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วธ.พร้อมคืนโบราณวัตถุ 36 ชิ้น หากกัมพูชามีหลักฐานชัดเจน ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ระบุเก็บรักษาครบทุกชิ้นที่คลังกลาง จ.ปทุมธานี

เมื่อวันที่ 7 ส.ค. สำนักข่าวซินหัวของจีน เผยแพร่ข่าวนายฮึม แชม รัฐมนตรีกระทรวงศิลปะและวัฒนธรรมกัมพูชาระบุว่า ได้ขอให้นายสมปอง สงวนบรรพ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา ช่วยดำเนินการส่งคืนโบราณวัตถุที่เหลืออยู่ หลังจากทางการไทยยึดได้โบราณวัตถุ ที่ถูกลักลอบโจรกรรมมาจากกัมพูชาจำนวน 43 ชิ้นเมื่อปี 2543 แต่เมื่อปี 2552 ได้ส่งคืนกัมพูชาแล้ว 7 ชิ้น

วันนี้ (8 ส.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า การลักลอบขนโบราณวัตถุ ไม่ได้เกิดในสมัยที่ตนเป็น รมว.วธ. โดยส่วนตัวเห็นว่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเป็นเรื่องที่ไทยกับกัมพูชาพูดคุยกันได้ บางครั้งขั้นตอนการพิสูจน์โบราณวัตถุอาจจะมีความยุ่งยาก ถ้าเรามีการจัดตั้งคณะกรรมการพิสูจน์โดยเฉพาะก็น่าจะเร่งพิสูจน์ความเป็นเจ้าของได้โดยเร็ว หากมีหลักฐานชัดพร้อมส่งคืน

2 ประเทศควรมีการเจรจากันได้ เพราะก่อนหน้านี้ตนเคยเดินทางไปทอดผ้าป่าที่กัมพูชาและได้พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศิลปะและวัฒนธรรมกัมพูชา บรรยากาศก็เป็นไปอย่างราบรื่น ความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชากับไทยในด้านวัฒนธรรมนั้นไม่มีปัญหาอะไร เรื่องการทวงคืนโบราณวัตถุครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน คาดว่า รมว.วธ.คนใหม่น่าจะเข้ามาสะสางได้” นายนิพิฐฏ์กล่าว

นายนิพิฐฏ์ กล่าวว่า ตนสอบถามไปยังนางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร ถึงโบราณวัตถุทั้งหมด ที่ทางการกัมพูชาได้ยื่นหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของชัดเจนเพียง 7 ชิ้น ซึ่งส่งคืนไปแล้ว ส่วนที่เหลือ 36 ชิ้นหลักฐานยังไม่ชัดเจน จำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ก่อน รอหลักฐานที่ชัดเจนมายืนยัน หรือทั้ง 2 ประเทศมาเจรจากันอีกครั้ง

นายอนันต์ ชูโชติ ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร กล่าวว่า สำนักพิพิธภัณสถานแห่งชาติ ได้จัดเก็บโบราณวัตถุ 36 ชิ้นไว้ที่คลังกลาง จ.ปทุมธานี หากมีการเจรจาระดับประเทศ หรือมีหลักฐานมายืนยัน ทางสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจะมีคณะกรรมการตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอีกครั้ง โบราณวัตถุส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมประดับแหล่งโบราณสถาน

อนึ่ง โบราณวัตถุทั้ง 43 ชิ้นเป็นของกลางที่กรมศุลกากรยึดมาได้จากการลักลอบนำเข้าประเทศไทยเมี่อปี2543 และนำส่งให้กรมศิลปากรเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประติมากรรมที่ประดับบนปราสาทขอมไม่ว่าจะเป็นบันทายฉมายปราสาทพระขันธ์พระนคร กรมศิลปากรได้ดำเนินการพิสูจน์เอกลักษณ์ของโบราณวัตถุตามที่กัมพูชาเรียกร้องแล้วพบว่ามีโบราณวัตถุ 7 ชิ้น ได้แก่ เศียรยักษ์เศียรอสูร 6 ชิ้น และเศียรเทวดา 1 ชิ้นที่อยู่ในเกณฑ์คืนให้แก่ทางกัมพูชาเนื่องจากมีหลักฐานค่อนข้างชัดเจนและมีเอกลักษณ์ว่าเป็นศิลปะเขมรแบบบายนในสมัยพุทธศตวรรษที่ 18 ทำจากหินทราย เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างไทย-กัมพูชาเกี่ยวกับการส่งคืนโบราณวัตถุศิลปวัตถุที่ถูกลักลอบให้แก่ประเทศเจ้าของ ส่วนที่เหลือ 36 ชิ้นที่ยังไม่ได้ส่งคืน เพราะหลักฐานที่ส่งมานั้นยังไม่เพียงพอว่าเป็นชิ้นส่วนจากโบราณสถานใดในประเทศกัมพูชา
กำลังโหลดความคิดเห็น