กทม.เดินหน้าจัดการป้ายผิดกฎหมายทุกจุดทั่วกรุง ใช้ CCTV ตรวจจับ ตั้งคณะทำงานดูแลใช้มาตรการเบาไปหาเบายึดจัดการช้างเร่ร่อนเป็นแบบอย่าง มอบ 6 กลุ่มหาถนนตัวอย่างปลอดป้ายเลอะเทอะ ชวนประชาชนโพสต์ป้ายผิดระเบียบผ่านเฟซบุ๊ก “ธีระชน” ลั่นจัดการต่อเนื่องให้เสร็จใน 18 เดือนนับจากนี้
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมการจัดระเบียบป้ายในที่สาธารณะและการทำความสะอาดใน กทม.ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบประการแรกจะมีการตั้งคณะทำงานโดยมีผู้แทนจากสำนักการโยธา สำนักเทศกิจ สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล สำนักการคลัง สำนักการจราจรและขนส่ง และสำนักงานเขตเพื่อสรุปรายงานและกำหนดมาตรการรื้อถอนตู้โทรศัพท์ผิดกฎหมาย ที่มีกว่า 2 หมื่นตู้จาก 3 หมื่นตู้ซึ่งเบื้องต้นจะจัดให้มีการดูแลทำความสะอาดตู้โทรศัพท์ที่ถูกกฎหมาย แม้ทางบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) จะมีการจ้างเอกชนเข้ามารักษาความสะอาดแต่ก็ยังพบว่ามีความเลอะเทอะจากการติด ป้ายประกาศต่างๆ อยู่ส่วนตู้ที่ผิดกฎหมายจะมีการนำสติกเกอร์ไปติดไว้บอกอย่างชัดเจนขณะที่ ป้ายผิดกฎหมายที่มีการติดตามตู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตก็จะต้องได้รับการรื้อถอน ออกไปซึ่งทั้งหมดนี้จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน
นายธีระชนกล่าวต่อว่า ประการที่สอง ป้ายผิดกฎหมายขนาดใหญ่ที่มีจำนวน 131 ป้าย จะมีการตั้งคณะทำงานชุดที่ 2 ประกอบด้วย ผู้แทนจากสำนักการโยธา สำนักเทศกิจ สำนักงานกฎหมายและคดี และสำนักงานเขตเพื่อดำเนินคดีกับป้ายผิดกฎหมายโดยสำนักการโยธาจะจัดสรรงบ ประมาณสำหรับการรื้อถอนป้าย และจัดการเรียกเก็บค่ารื้อถอนป้ายจากเจ้าของที่แท้จริง ประการที่สาม ในส่วนของป้ายขนาดเล็ก ได้มอบหมายให้ 6 กลุ่มโซนลงพื้นที่ตรวจสอบและรายงานมาทุกสัปดาห์พร้อมทั้งไปคัดเลือกถนน ตัวอย่างหนึ่งเส้นทางนำร่องของแต่ละกลุ่มโซนเพื่อดำเนินการรักษาความสะอาด และปรับปรุงถนน สะพานให้ปลอดจากป้ายโฆษณาที่ผิดกฎหมายซึ่งตั้งเป้าจะทำให้แล้วเสร็จใน 3 เดือน
นายธีระชนกล่าวอีกว่า ประการที่สี่สำนักการจราจรและขนส่งจะไปดำเนินการทาสีสัญญาณเครื่องหมายจราจรใหม่ซึ่งจะทำให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ขณะที่ประการที่ห้าพวกผนังที่มีการขัดเขียนลวดลายต่างๆ นั้น กทม.ได้สร้างเครือข่ายร่วมกันกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เช่น บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้านครหลวง เจ้าของอาคารพาณิชย์ บริษัทผลิตและจำหน่ายสี เป็นต้น โดยโครงการนี้จะเชิญผู้นำความคิดที่เป็นที่รู้จักของสังคม 3 ท่าน มาร่วมเป็น Brand Ambassador ประกอบด้วย ดร.ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ นักคิดและนักเคลื่อนไหว อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านจิตรกรรม และนายนิธิ สถาปิตานนท์ ศิลปินแห่งชาติ และผู้เขียนหนังสือเรื่องเมืองบ้าป้าย รวมทั้งศิลปินดารา ร่วมรณรงค์ ปลุกกระแส และสำนึกร่วมรับผิดชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง พร้อมกับมอบให้ 6 กลุ่มโซนดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน นอกจากนี้จะมอบหมายให้สำนักเทศกิจไปตรวจสอบป้ายที่เลียนแบบเครื่องหมายจราจรจำนวนมาก และมีการติดตั้งป้ายบังทัศนวิสัยในการจราจรอีกด้วย
“ทั้งหมดทุกข้อที่กล่าวมา กทม.จะดำเนินการต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 18 เดือน นับจากนี้เป็นต้นไปคือจนกว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.จะครบวาระ ขณะเดียวกันก็ขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นแนวร่วมด้วยการพบเห็นป้ายที่ผิดกฎหมาย ก็ขอให้โทร.มายังสายด่วน 1555 เพื่อ จะได้แจ้งประสานไปยังเขตเพื่อดำเนินการหรือประชาชนสามารถถ่ายรูปแล้วโพสต์ แจ้งลงมาในเฟซบุ๊ก สายด่วน 1555 ก็ได้ พร้อมกับการตั้งอาสาสมัครเฝ้าระวัง บันทึกภาพ ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ โดยมีรางวัลตอบแทน รวมถึงการตรวจตราผ่านกล้อง CCTV ตาม สถานที่สำคัญทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ที่ประชุมจะมีการประชุมติดตามงานทุก เดือนโดยจะใช้มาตรการตั้งแต่เบาสุดจนไปถึงหนักสุดคือแจ้งความดำเนินคดี เหมือนกับการแก้ไขปัญหาเรื่องช้างเร่ร่อน ขณะเดียวกันการจัดเก็บภาษีเกี่ยวกับป้าย กทม.จัดเก็บได้เพียงปีละ 8 ล้านบาทขณะที่ป้ายนับล้าน ซึ่งหากเป็นไปได้ กทม.ยอมเสียรายได้ในส่วนนี้เพื่อแลกกับบ้านเมืองที่สะอาด” รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
