กทม.เตรียมเสนอรัฐบาลจัดหาระบบพร้อมอุปกรณ์ในการปรับปรุงระบบทะเบียนราษฎร์และบัตรประชาชน เพื่อรองรับการทำงานในระบบที่สอดคล้องกัน หลังกระทรวงมหาดไทย ปรับปรุงระบบใหม่ ซึ่งจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค. 2554 นี้
วันนี้ (20 มิ.ย.) นายมานิต เตชอภิโชค ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล กทม. รายงานต่อที่ประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครซึ่งมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.เป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับการปรับปรุงระบบทะเบียนราษฎร และบัตรประจำตัว ซึ่งสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการปรับปรุงระบบทะเบียนราษฎร และบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ ส่งผลให้เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ กทม.ใช้อยู่ไม่สามารถรองรับการทำงานของระบบใหม่ได้ โดยระบบดังกล่าวจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2554 หรืออาจขยายเวลาให้ใช้ระบบเดิมได้ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2554
ดังนั้น กทม.จึงจำเป็นต้องดำเนินการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์เพื่อให้บริการประชาชน (Bangkok Service Center) ให้กับทุกสำนักงานเขต เพื่อปรับปรุงระบบทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชนอย่างเร่งด่วนภายใน 31 ตุลาคม 2554 เพื่อให้สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับกระทรวงมหาดไทย มิฉะนั้นจะเกิดความเสี่ยงที่กรมการปกครองจะไม่สามารถรองรับระบบเดิมให้กับกทม.ต่อไปได้ ซึ่งจะมีผลเสียต่อการให้บริการของกทม.
ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้มีมติให้สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล กทม. ทำหนังสือถึงรัฐบาลดำเนินการจัดหาระบบพร้อมอุปกรณ์ในการปรับปรุงระบบทะเบียนราษฎร และบัตรประชาชนของกรุงเทพมหานครให้ทันตามกำหนดเวลา
วันนี้ (20 มิ.ย.) นายมานิต เตชอภิโชค ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล กทม. รายงานต่อที่ประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครซึ่งมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.เป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับการปรับปรุงระบบทะเบียนราษฎร และบัตรประจำตัว ซึ่งสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการปรับปรุงระบบทะเบียนราษฎร และบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ ส่งผลให้เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ กทม.ใช้อยู่ไม่สามารถรองรับการทำงานของระบบใหม่ได้ โดยระบบดังกล่าวจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2554 หรืออาจขยายเวลาให้ใช้ระบบเดิมได้ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2554
ดังนั้น กทม.จึงจำเป็นต้องดำเนินการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์เพื่อให้บริการประชาชน (Bangkok Service Center) ให้กับทุกสำนักงานเขต เพื่อปรับปรุงระบบทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชนอย่างเร่งด่วนภายใน 31 ตุลาคม 2554 เพื่อให้สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับกระทรวงมหาดไทย มิฉะนั้นจะเกิดความเสี่ยงที่กรมการปกครองจะไม่สามารถรองรับระบบเดิมให้กับกทม.ต่อไปได้ ซึ่งจะมีผลเสียต่อการให้บริการของกทม.
ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้มีมติให้สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล กทม. ทำหนังสือถึงรัฐบาลดำเนินการจัดหาระบบพร้อมอุปกรณ์ในการปรับปรุงระบบทะเบียนราษฎร และบัตรประชาชนของกรุงเทพมหานครให้ทันตามกำหนดเวลา
