สมเด็จพระเทพรัตนฯ ทรงโปรดเกล้าฯให้ “น้องธันย์” เข้าเรียน ร.ร.จิตรลดา 3 ส.ค.นี้ ด้านพ่อของน้องธันย์ เผย คืบหน้ากรณีฟ้องศาลสิงคโปร์เรียกร้องค่าเสียหายในวันที่ 8 ส.ค.นี้
จากกรณี น.ส.ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ หรือ น้องธันย์ ที่ประสบอุบัติเหตุโดนเบียดจนตกรางรถไฟฟ้าทับขาขาดทั้งสองข้าง และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯ มอบให้ศูนย์สิรินธร เพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ช่วยเหลือโดยเฉพาะในเรื่องของขาเทียมผ่านโครงการขาเทียมของศูนย์สิรินธรฯ และกำลังอยู่ในระหว่างการทำกายภาพบำบัดที่ศูนย์สิรินธรฯ นั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ล่าสุด วันนี้ (26 ก.ค.) ที่ตึกเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า น้องธันย์ พร้อมด้วย นายกิตติ์ธเนศ เป็นเอกชนะศักดิ์ บิดาของน้องธันย์ ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการของ พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก และร่วมฝึกกายภาพบำบัดด้วยกัน
ทั้งนี้น้องธันย์ กล่าวก่อนเดินทางกลับว่า ติดตามข่าวของหมอมุกมาโดยตลอด และอยากจะมาให้กำลังใจนานแล้ว พอมีโอกาสจึงเดินทางมาให้กำลังใจหมอมุกที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ในส่วนของการฝึกกายภาพบำบัดของตนนั้น ช่วงนี้ฝึกหนักมาก ทั้งช่วงเช้าและเย็น เพราะต้องการที่จะสามารถใส่ขาเทียมไปโรงเรียนได้ทันในวันที่ 3 ส.ค.นี้
ด้านนายกิตติ์ธเนศ กล่าวว่า ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ น้องธันย์ จะเข้าเรียนที่โรงเรียนจิตรลดา ในระดับชั้น ม.3 ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงโปรดเกล้าฯให้น้องธันย์ ได้ย้ายเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนจิตรลดาแทนที่จะต้องกลับไปเรียนที่ จ.ตรัง ทั้งนี้ แม้น้องธันย์จะเริ่มไปโรงเรียนในวันที่ 3 ส.ค.นี้แล้ว แต่จะต้องมีการฝึกกายภาพบำบัด และพักรักษาตัวอยู่ที่ศูนย์สิรินธรฯ โดยตลอด โดยน้องธันย์ จะฝึกกายภาพบำบัดในช่วงเช้าเวลาประมาณ 08.00-12.00 น.จากนั้นจะเดินทางไปเรียนที่โรงเรียนจิตรลดาในช่วงบ่าย จนถึง 19.00 น.เพื่อเรียนชดเชยในช่วงเช้าที่น้องธันย์ไม่ได้เข้ามาเรียน ส่วนขาเทียมพระราชทานนั้น คาดว่า น้องธันย์จะได้ใส่ประมาณช่วงเดือน ส.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วกรณีการฟ้องศาลนั้นเป็นอย่างไร นายกิตติ์ธเนศ กล่าวว่า ในส่วนความคืบหน้าการฟ้องร้องบริษัท SMRT ที่ดูแลระบบรถไฟฟ้าของสิงคโปร์ เพื่อขอความเป็นธรรมจากศาลสิงคโปร์นั้น หลังจากที่ทางสโมสรโรตารี่ จ.ตรัง ซึ่งตนเป็นสมาชิกอยู่ ได้ประสานยังสโมสรโรตารี่สิงคโปร์ เพื่อตั้งทนายขึ้นฟ้องร้องขอความเป็นธรรมนั้น ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ จะมีการยื่นฟ้องต่อศาลสิงคโปร์ เพื่อเรียกร้องความเสียหายเป็นจำนวนเงิน 3.4 ล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 81,600,000 บาท ทั้งนี้ ยอมรับว่า จำนวนเงินดังกล่าวไม่สามารถทดแทนสิ่งน้องธันย์เสียไปได้ แต่ก็ถือว่าจะมาช่วยค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าอุปกรณ์ขาเทียมที่น้องธันย์จะต้องใส่ เพราะขาเทียมดังกล่าวจะต้องมีการเปลี่ยนทุก 3-5 ปี
จากกรณี น.ส.ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ หรือ น้องธันย์ ที่ประสบอุบัติเหตุโดนเบียดจนตกรางรถไฟฟ้าทับขาขาดทั้งสองข้าง และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯ มอบให้ศูนย์สิรินธร เพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ช่วยเหลือโดยเฉพาะในเรื่องของขาเทียมผ่านโครงการขาเทียมของศูนย์สิรินธรฯ และกำลังอยู่ในระหว่างการทำกายภาพบำบัดที่ศูนย์สิรินธรฯ นั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ล่าสุด วันนี้ (26 ก.ค.) ที่ตึกเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า น้องธันย์ พร้อมด้วย นายกิตติ์ธเนศ เป็นเอกชนะศักดิ์ บิดาของน้องธันย์ ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการของ พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก และร่วมฝึกกายภาพบำบัดด้วยกัน
ทั้งนี้น้องธันย์ กล่าวก่อนเดินทางกลับว่า ติดตามข่าวของหมอมุกมาโดยตลอด และอยากจะมาให้กำลังใจนานแล้ว พอมีโอกาสจึงเดินทางมาให้กำลังใจหมอมุกที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ในส่วนของการฝึกกายภาพบำบัดของตนนั้น ช่วงนี้ฝึกหนักมาก ทั้งช่วงเช้าและเย็น เพราะต้องการที่จะสามารถใส่ขาเทียมไปโรงเรียนได้ทันในวันที่ 3 ส.ค.นี้
ด้านนายกิตติ์ธเนศ กล่าวว่า ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ น้องธันย์ จะเข้าเรียนที่โรงเรียนจิตรลดา ในระดับชั้น ม.3 ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงโปรดเกล้าฯให้น้องธันย์ ได้ย้ายเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนจิตรลดาแทนที่จะต้องกลับไปเรียนที่ จ.ตรัง ทั้งนี้ แม้น้องธันย์จะเริ่มไปโรงเรียนในวันที่ 3 ส.ค.นี้แล้ว แต่จะต้องมีการฝึกกายภาพบำบัด และพักรักษาตัวอยู่ที่ศูนย์สิรินธรฯ โดยตลอด โดยน้องธันย์ จะฝึกกายภาพบำบัดในช่วงเช้าเวลาประมาณ 08.00-12.00 น.จากนั้นจะเดินทางไปเรียนที่โรงเรียนจิตรลดาในช่วงบ่าย จนถึง 19.00 น.เพื่อเรียนชดเชยในช่วงเช้าที่น้องธันย์ไม่ได้เข้ามาเรียน ส่วนขาเทียมพระราชทานนั้น คาดว่า น้องธันย์จะได้ใส่ประมาณช่วงเดือน ส.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วกรณีการฟ้องศาลนั้นเป็นอย่างไร นายกิตติ์ธเนศ กล่าวว่า ในส่วนความคืบหน้าการฟ้องร้องบริษัท SMRT ที่ดูแลระบบรถไฟฟ้าของสิงคโปร์ เพื่อขอความเป็นธรรมจากศาลสิงคโปร์นั้น หลังจากที่ทางสโมสรโรตารี่ จ.ตรัง ซึ่งตนเป็นสมาชิกอยู่ ได้ประสานยังสโมสรโรตารี่สิงคโปร์ เพื่อตั้งทนายขึ้นฟ้องร้องขอความเป็นธรรมนั้น ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ จะมีการยื่นฟ้องต่อศาลสิงคโปร์ เพื่อเรียกร้องความเสียหายเป็นจำนวนเงิน 3.4 ล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 81,600,000 บาท ทั้งนี้ ยอมรับว่า จำนวนเงินดังกล่าวไม่สามารถทดแทนสิ่งน้องธันย์เสียไปได้ แต่ก็ถือว่าจะมาช่วยค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าอุปกรณ์ขาเทียมที่น้องธันย์จะต้องใส่ เพราะขาเทียมดังกล่าวจะต้องมีการเปลี่ยนทุก 3-5 ปี
