xs
xsm
sm
md
lg

ไทยติดอันดับ 2 นักท่องเที่ยวตายด้วยอุบัติเหตุมากสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


องค์กรด้านความปลอดภัย ระบุ ไทยติดอันดับ 2 นักท่องเที่ยวต่างชาติตายจากอุบัติเหตุสูงสุด รองจากฮอนดูรัส แนะวางเข้มนโยบายด้านการท่องเที่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทาง

นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ เปิดเผยว่า องค์กรด้านความปลอดภัย (Make Road Safe & FIA Foundation) ได้ทำบันทึกชื่อ “การเดินทางที่เลวร้าย Bad Trip: International tourism and road death in developing world” ส่งไปถึงประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเนื้อหาในหนังสือได้ระบุถึงปัญหาความปลอดภัยในการเดินทาง เฉพาะข้อมูลการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวอเมริกา พบว่า ร้อยละ 72.6 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนร้อยละ 73 รถยนต์ ร้อยละ 12 รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 7 เดินเท้า และรถสาธารณะร้อยละ 3

ที่น่าตกใจ คือ ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ประเทศไทยถูกจัดอันดับความเสี่ยงในลำดับที่ 2 รองจาก ฮอนดูรัส พบว่า นักท่องเที่ยวอเมริกามีอัตราการตายในประเทศไทย ถึง 50 ต่อประชากรนักท่องเที่ยว 100,000 คน (สูงกว่าอัตราการตายของคนไทย 18.7 ต่อประชากร 100,000 คน) โดยระบุสาเหตุสำคัญ คือ ประเทศที่มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่กลับไม่ให้ความสำคัญในการกำหนดนโยบายและมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการจัดการความปลอดภัยทางถนนให้นักท่องเที่ยว ปล่อยให้เป็นภาระของภาคเอกชนและธุรกิจท่องเที่ยวต้องลงทุนด้านความปลอดภัยเอง รวมทั้งขาดระบบติดตามกำกับในเรื่องนี้

ในช่วงเดียวกันนี้ ได้มีบันทึกเตือนความจำ (Memorandum: Reducing the incidence of motorcycle accidents in the tourism industry in Pai Thailand) เพื่อช่วยกันลดการตายจากอุบัติเหตุด้วยรถจักรยานยนต์ของนักท่องเที่ยว เขียนโดย Dr.Clive A Marks ส่งให้กระทรวงต่างๆ สำนักข่าวทั่วโลก และทุกสถานทูตในประเทศไทย โดยมีแรงกระตุ้นในการเขียนจากการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ของเด็กหนุ่มชาวอเมริกัน วัย 19 ปี ที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน (10 พ.ค.54) และหนึ่งปีก่อนหน้านี้ ณ จุดเดียวกัน ก็มีเด็กหนุ่มวัย 19 ปี ชาวอังกฤษ เสียชีวิตด้วยรถจักรยานยนต์ในลักษณะเดียวกัน (7 พ.ค.53) ที่น่าตกใจคือ ยอดผู้บาดเจ็บเฉพาะรถจักรยานยนต์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มารักษากับโรงพยาบาลปาย สูงถึง 250 คน/ปี ในตอนท้ายของบันทึก ระบุอีกว่า เมืองท่องเที่ยงอื่นๆ เช่น ภูเก็ต พัทยา ฯลฯ ก็มีสถานการณ์ด้านความปลอดภัยทางถนนที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน

ในข่าวนี้มีหลายสิ่งที่ถูกเผยแพร่และตั้งคำถามกลับมายังหน่วยงานผู้รับผิดชอบ ที่มักจะละเลยต่อมาตรฐานด้านความปลอดภัยทางถนน ตั้งแต่มาตรฐานของคนขับรถ ซึ่งพบว่ามักจะขับเร็วเกินกำหนด การดื่มสุรา รวมทั้งความปลอดภัยของตัวรถและสภาพของถนน ที่สำคัญคือ การตั้งคำถามกับระบบการกำกับติดตามอย่างเอาจริงเอาจังจากตำรวจทางหลวง คมนาคม และความล้มเหลวของธุรกิจท่องเที่ยว ในการจะผลักดันให้มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว

นพ.ธนะพงศ์ กล่าวว่า ดังนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องไม่ละเลยและมองข้ามปัญหาของความปลอดภัยทางถนนของนักท่องเที่ยวด้วย โดยร่วมกับหน่วยงานหลัก เช่น กระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว เป็นต้น ร่วมวางแนวทางแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและยาว
กำลังโหลดความคิดเห็น