ปลัดกระทรวงแรงงานชงของบพันล้านจากรัฐบาลใหม่ ตั้งกองทุน-สถาบันความปลอดภัยในการทำงานภายใน 1 ปี อธิบดี กสร.เผยช่วง 10 เดือนพบนายจ้างผิดกฎหมายความปลอดภัยฯ 91 คดี ถูกปรับเป็นเงิน 6 ล้าน
วันนี้ (7 ก.ค.) ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน (รง.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการทำงานแห่งชาติ ครั้งที่ 25 ว่า การจัดงานในปีนี้เน้นแนวคิดให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการดูแลแรงงานให้มี ความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งกระทรวงแรงงานยินดีสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงานอย่างเต็มที่ โดยในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 จะมีผลบังคับใช้ จะมีการจัดตั้งสถาบัน และกองทุนความปลอดภัยฯ ขึ้นภายใน 1 ปี
“งบกองทุนความปลอดภัยฯ จะมาจาก 2 ส่วน คือ ส่วนแรกมาจากเงินกองทุนทดแทนของสำนักงานประกันสังคม ซึ่งการหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะดึงเงินจากกองทุนทดแทนมากี่เปอร์เซ็นต์ และอีกส่วนจะมาจากการสนับสนุนของรัฐบาล โดยกระทรวงฯ จะเสนอของบประมาณจากรัฐบาลใหม่ประมาณ 1 พันล้านบาท เพื่อนำมาจัดตั้งกองทุนความปลอดภัยฯ เพื่อส่งเสริมด้านความปลอดภัยในการทำงาน” นายสมเกียรติกล่าว
นางอัมพร นิติสิริ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า จากข้อมูลของ กสร.พบว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 จนถึงปัจจุบัน มีการดำเนินคดีอาญาตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 จำนวนทั้งสิ้น 655 คดี เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 12 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นคดีสถานประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยในการทำงาน 91 คดี คิดเป็น 14.81 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนคดีทั้งหมด โดยมีการจ่ายค่าปรับประมาณ 6 ล้านบาท คิดเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าปรับทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในปีนี้มีสถานประกอบการที่ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัยในการทำงานระดับประเทศทั้งสิ้น 528 แห่ง
“เชื่อว่าหลังจาก พ.ร.บ.ความปลอดภัยฯ มีผลบังคับใช้แล้ว จะทำให้สถานประกอบการดูแลความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้างมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการเพิ่มโทษนายจ้างที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยฯ จากเดิมจำคุก 1 ปี ปรับ 2 แสนบาท เพิ่มเป็นจำคุก 2 ปี ปรับ 8 แสนบาท โดยเฉพาะค่าปรับนั้นจะต้องจ่ายมากขึ้น ทำให้นายจ้างไม่กล้าที่จะละเลยการดูแลความปลอดภัยของลูกจ้าง” นางอัมพรกล่าว
วันนี้ (7 ก.ค.) ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน (รง.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัปดาห์ความปลอดภัยในการทำงานแห่งชาติ ครั้งที่ 25 ว่า การจัดงานในปีนี้เน้นแนวคิดให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการดูแลแรงงานให้มี ความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งกระทรวงแรงงานยินดีสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงานอย่างเต็มที่ โดยในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ พ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 จะมีผลบังคับใช้ จะมีการจัดตั้งสถาบัน และกองทุนความปลอดภัยฯ ขึ้นภายใน 1 ปี
“งบกองทุนความปลอดภัยฯ จะมาจาก 2 ส่วน คือ ส่วนแรกมาจากเงินกองทุนทดแทนของสำนักงานประกันสังคม ซึ่งการหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะดึงเงินจากกองทุนทดแทนมากี่เปอร์เซ็นต์ และอีกส่วนจะมาจากการสนับสนุนของรัฐบาล โดยกระทรวงฯ จะเสนอของบประมาณจากรัฐบาลใหม่ประมาณ 1 พันล้านบาท เพื่อนำมาจัดตั้งกองทุนความปลอดภัยฯ เพื่อส่งเสริมด้านความปลอดภัยในการทำงาน” นายสมเกียรติกล่าว
นางอัมพร นิติสิริ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า จากข้อมูลของ กสร.พบว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 จนถึงปัจจุบัน มีการดำเนินคดีอาญาตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 จำนวนทั้งสิ้น 655 คดี เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 12 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นคดีสถานประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยในการทำงาน 91 คดี คิดเป็น 14.81 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนคดีทั้งหมด โดยมีการจ่ายค่าปรับประมาณ 6 ล้านบาท คิดเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าปรับทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในปีนี้มีสถานประกอบการที่ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัยในการทำงานระดับประเทศทั้งสิ้น 528 แห่ง
“เชื่อว่าหลังจาก พ.ร.บ.ความปลอดภัยฯ มีผลบังคับใช้แล้ว จะทำให้สถานประกอบการดูแลความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้างมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการเพิ่มโทษนายจ้างที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยฯ จากเดิมจำคุก 1 ปี ปรับ 2 แสนบาท เพิ่มเป็นจำคุก 2 ปี ปรับ 8 แสนบาท โดยเฉพาะค่าปรับนั้นจะต้องจ่ายมากขึ้น ทำให้นายจ้างไม่กล้าที่จะละเลยการดูแลความปลอดภัยของลูกจ้าง” นางอัมพรกล่าว
