“จะเด็จ” ควง “สุเพ็ญศรี” เปิดตัวองค์กรใหม่ “มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล” หวังกระตุ้นความเท่าเทียมหญิงชาย สอดรับ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงฯ ชี้สถิติล่วงละเมิดยังพุ่งเฉลี่ย 71 รายต่อวัน ขณะที่ 11% เป็นเพศชาย หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ เผยเด็กชายอายุต่ำกว่า 15 ปี 3 คนโดนพระรูปเดียวข่มขืนต่อเนื่อง
วันนี้ (1 ก.ค.) ที่หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์ กรุงเทพฯ) ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัว “มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล” โดย นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า สาเหตุที่เราเปิดมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลนี้ขึ้นมานั้นเนื่องจากอยากจะเปิดพื้นที่ให้ผู้ชายเข้ามาขอรับคำปรึกษา โดยทางมูลนิธิจะมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ชายที่เข้าใจปัญหาและผ่านการฝึกอบรมมาคอยรับฟังปัญหาทางโทรศัพท์โดยจะเป็นการให้กำลังใจมากกว่าการตำหนิ สามารถแก้ทุกข์ให้เขาได้ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่มาจากความคาดหวังของสังคมที่ผู้ชายต้องเป็นผู้นำ ผู้ชายต้องเป็นใหญ่ ดังนั้น การมีมูลนิธินี้จะช่วยให้เขาสามารถปรับตัวได้ ทั้งนี้ มูลนิธิฯ มุ่งเน้นสร้างความเสมอภาคระหว่างเพศ คอยให้คำปรึกษา ความช่วยเหลือ และฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้ถูกกระทำ รวมทั้งมีกระบวนการปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมของผู้กระทำ เพื่อสอดรับกับ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ที่เน้นการปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้กระทำความรุนแรง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นความร่วมมือกันทั้งหญิงและชาย
“ข้อมูลของศูนย์พึ่งได้ระบุว่า สถานการณ์ความรุนแรงต่อเด็กและผู้หญิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยในปี 2552 มีผู้เข้ารับบริการ 22,925 ราย เฉลี่ยวันละ 63 ราย หรือชั่วโมงละ 3 คน ส่วนปี 2553 เพิ่มมากขึ้นถึง 25,744 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 71 ราย ซึ่งผู้ที่ถูกทำร้าย เป็นเด็ก 51% สตรี 48% หากแบ่งสัดส่วนจะเป็นเด็กผู้หญิง 88% เด็กผู้ชาย 11% เฉลี่ยอายุอยู่ที่ 10-15 ปี สาเหตุของการกระทำรุนแรงเป็นเรื่องเพศ 68% รองลงมา ทำร้ายร่างกาย 21% โดยผู้ที่กระทำเป็นเพื่อนและแฟน” ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าว
นายจะเด็จกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานหรือองค์กรใดที่ทำหน้าที่ฟื้นฟูผู้ชายที่เป็นผู้ กระทำความรุนแรง และต้องการปรับเปลี่ยนตนเองเพื่อร่วมแก้ไขปัญหา รวมถึงผู้ชายที่มีความทุกข์จากปัญหาในครอบครัว และบางรายเป็นผู้ถูกกระทำ ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีอยู่จำนวนมากในสังคม ประกอบกับค่านิยมที่ปลูกฝังให้ผู้ชายต้องเป็นผู้นำ ไม่แสดงความอ่อนแอ ติดในเรื่องของศักดิ์ศรีคิดว่าต้องมีอำนาจเหนือกว่าผู้หญิง ผู้ชายจึงไม่ค่อยมีช่องทางระบายความคับข้องใจ ไม่มีศูนย์ช่วยเหลือ ทำให้บางรายหาทางออกด้วยอบายมุข ดื่มเหล้า ก้าวร้าวหรือไปทำผิดซ้ำ ซึ่ง เป็นการหาทางออกที่ทำร้ายทั้งตนเอง คนในครอบครัว และผู้อื่น ดังนั้น จึงต้องการให้ความช่วยเหลือในการฟื้นฟูและปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้ชาย เพื่อนำมาสู่การยุติความรุนแรง โดยเปิดสายด่วนให้คำปรึกษารับเรื่องราวร้องทุกข์ ผ่านหมายเลขโทร. 0-2513-2889 ทุกวันพุธ พฤหัสบดี และวันศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. โดยมีอาสาสมัครที่เป็นผู้ชายที่มีประสบการณ์และเข้าใจปัญหาความรุนแรงในครอบครัว รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งด้านกฎหมายและด้านสังคม สงเคราะห์ นอกจากนี้ เรายังจะมีการลงไปเยี่ยมบ้านชายที่ประสบปัญหาอีกด้วย
น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า จากการทำงานที่ผ่านมา พบว่าความรุนแรงทางเพศไม่ได้เกิดขึ้นในเฉพาะกลุ่มผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มเกิดขึ้นกับผู้ชายเช่นกัน เห็นได้จากกรณีตัวอย่างในจังหวัดกนึ่ง มีเด็กชายอายุ 13 ปี ถูกพระล่วงละเมิดทางเพศ โดยก่อนหน้านี้ครอบครัวของเด็กชายได้ไปทำบุญที่วัดที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง และพระได้พยายามชักชวนเด็กชายให้มาบวชเณรภาคฤดูร้อน ในระหว่างบวชเณรนั้นแม่ของเด็กชายสังเกตว่าลูกชายมีอาการผิดปกติ ไม่ยอมพูดจา เหม่อลอย จึงได้พยายามสอบถามหลายครั้งจนลูกชายเปิดเผยว่าถูกพระล่วงละเมิดทางเพศ จึงได้เข้าแจ้งความ ขณะนี้เวลาล่วงเลยมา 1 ปี แต่คดียังไม่มีความคืบหน้าซึ่งกรณีแบบนี้พระรูปดังกล่าวเคยล่วงละเมิดทางเพศเยาวชนชายอายุต่ำกว่า 15 ปีมาแล้วรวม 3 ราย และบางรายยังกระทำต่อเนื่องถึง 2 ปี
ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผอ.สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า จากปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้นให้กระทำพฤติกรรมที่รุนแรงทางเพศ โดยสามารถทำลายสติและการยับยั้งชั่งใจ เห็นได้จากข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ ทั้งอาชญากรรม อุบัติเหตุ
