ส.ท.ช.ยื่นหนังสือร้องนายกฯ-ผู้ว่าฯ กทม.เหตุกทม.ไม่สนใจใช้วิธีจัดการขยะแบบใหม่ แต่ยังใช้วิธีฝังกลบที่ล่าสมัย ส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อม แถมอาจเอื้อให้เอกชนบางรายได้
นายไชยนิรันดร์ พยอมแย้ม โฆษกเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ (ส.ท.ช.) และคณะ เปิดเผยว่า เครือข่ายได้ยื่นหนังสือถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อให้ตรวจสอบกรณีโครงการจ้างฝังกลบขยะของ กทม.เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการจัดการปัญหาขยะด้วยวิธีการฝังกลบที่ กทม.ดำเนินการอยู่ รวมทั้งมีบริษัทเอกชนที่พร้อมเสนอตัวเข้ามาจัดการปัญหาขยะด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ กทม.กลับปฏิเสธ และยืนยันจะใช้วิธีการฝังกลบ ซึ่งเป็นแนวทางแก้ปัญหาแบบเก่าและส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ในขณะที่มีผู้ที่จะเสนอเทคโนโลยีใหม่ ไม่ว่าเป็นวิธีการนำขยะไปผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า การจัดการขยะด้วยวิธีการเผา หรือนำของเหลือจากการเผาขยะไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ทั้งที่เป็นวิธีการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดินที่กทม.ต้องจ่ายค่าจ้างปีละหลายร้อยล้านบาท แต่ กทม.กลับไม่เลือก ซึ่งการจ้างรายเก่าก็ทำให้มีข้อสังเกตว่าจะเอื้อให้เอกชนรายใดรายหนึ่งหรือไม่
ด้านนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ขณะนี้ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษามาดำเนินการศึกษาโครงการเตาเผาขยะของกทม. ขนาด 300 ตันและ 2,000 ตันแล้ว รวมทั้งการแก้ปัญหาขยะด้วยวิธีอื่นๆ และการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ แต่เนื่องจากระบบราชการไม่สามารถที่จะทำได้อย่างรวดเร็ว ส่วนกรณีที่มีเอกชนติดต่อขอนำขยะไปผลิตเป็นกระแสไฟฟ้านั้น เป็นการนำขยะของ กทม.ไปทำให้เกิดรายได้ซึ่งจะต้องเข้าพ.ร.บ.ร่วมทุนฯที่จะมีขั้นตอน 18 ขั้นตอนและใช้เวลานาน แต่ก็ได้สั่งการให้สำนักสิ่งแวดล้อมไปสรุปแนวทางเหตุผลความจำเป็น ผลดีผลเสียที่ กทม.จะได้รับหากดำเนินการโดยใช้วิธีการต่างๆ