รมว.แรงงานจี้กระทรวงแรงงานเร่งพัฒนาทักษะฝีมือ-ภาษาต่างประเทศให้แรงงานไทย ดันเข้าสู่ระบบมาตรฐานฝีมือรับประชาคมอาเซียน ด้าน ส.อ.ท.แนะรัฐกำหนดค่าจ้างเป็น 3 ระบบสกัดแรงงานไทยไหลออก-คุมเข้มมาตรฐานแรงงานต่างชาติ
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 ที่มีการเปิดเสรีการเคลื่อนย้ายแรงงานว่า ได้มอบนโยบายให้กระทรวงแรงงานเร่งพัฒนาแรงงานไทยในเรื่องทักษะฝีมือและภาษาต่างประเทศ รวมทั้งสนับสนุนให้แรงงานช่างฝีมือไทยเข้าสู่ระบบมาตรฐานฝีมือแรงงานซึ่งมีกฎหมายรองรับและเริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว 11 สาขาอาชีพเพื่อให้ได้รับค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานป้องกันไม่ให้ไหลออกไปทำงานต่างประเทศ
“เมื่อเกิดประชาคมอาเซียนแล้ว ผมเชื่อว่าไทยคงไม่เสียเปรียบต่างชาติ รวมทั้งปัญหาแรงงานไทยไหลออกไปต่างประเทศไม่น่าห่วงมากนัก เนื่องจากปัจจุบันมีแรงงานไทยหมุนเวียนไปทำงานต่างประเทศเฉลี่ยปีละ 1 แสนคน ขณะนี้โดยภาพรวมมีอยู่ทั้งสิ้น 3-4 แสนคน และนำรายได้เข้าไทยปีละ 5-6 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากแรงงานไทยออกไปทำงานต่างประเทศจะมีข้อเสียเปรียบแรงงานประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องภาษาต่างประเทศ ส่วนทักษะฝีมือของแรงงานไทยนั้นเป็นที่ยอมรับของต่างชาติอยู่แล้ว” รมว.แรงงานกล่าว
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เชื่อว่าแรงงานต่างชาติจะไหลเข้าสู่ไทยมากกว่าแรงงานไทยจะไหลไปสู่ต่างชาติซึ่งรัฐบาลและกระทรวงแรงงานควรมีมาตรการรองรับโดยกำหนดค่าจ้างเป็น 3 ระบบแบ่งเป็น 1.ค่าจ้างขั้นต่ำจ่ายให้แก่แรงงานไร้ฝีมือ 2.ค่าจ้างแรกเข้าจ่ายให้แก่แรงงานที่มีคุณวุฒิวิชาชีพสาขาต่างๆ เช่น ผู้ที่มีวุฒิ ปวช. ปวส. อีกทั้งปรับอัตราค่าจ้างแรกเข้าทุกปีให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อแต่ละปี และ 3.ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแต่ละสาขาโดยจัดทำเกณฑ์มาตรฐานฝีมือแรงงานอาเซียนและนำมาใช้ประเมินทักษะฝีมือแรงงานไทยและต่างชาติแบ่งเป็นระดับต่ำ กลางและสูง
“ค่าจ้างทั้ง 3 ระบบนี้จะต้องใช้กับแรงงานไทยและต่างชาติโดยเท่าเทียมกันจะช่วยแก้ปัญหาแรงงานช่างฝีมือไทยไหลออกไปต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ไทยก็ได้ช่างฝีมือชาวต่างชาติที่มีมาตรฐานเข้ามาสู่ตลาดแรงงานไทยด้วย” นายธนิตกล่าว
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 ที่มีการเปิดเสรีการเคลื่อนย้ายแรงงานว่า ได้มอบนโยบายให้กระทรวงแรงงานเร่งพัฒนาแรงงานไทยในเรื่องทักษะฝีมือและภาษาต่างประเทศ รวมทั้งสนับสนุนให้แรงงานช่างฝีมือไทยเข้าสู่ระบบมาตรฐานฝีมือแรงงานซึ่งมีกฎหมายรองรับและเริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว 11 สาขาอาชีพเพื่อให้ได้รับค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานป้องกันไม่ให้ไหลออกไปทำงานต่างประเทศ
“เมื่อเกิดประชาคมอาเซียนแล้ว ผมเชื่อว่าไทยคงไม่เสียเปรียบต่างชาติ รวมทั้งปัญหาแรงงานไทยไหลออกไปต่างประเทศไม่น่าห่วงมากนัก เนื่องจากปัจจุบันมีแรงงานไทยหมุนเวียนไปทำงานต่างประเทศเฉลี่ยปีละ 1 แสนคน ขณะนี้โดยภาพรวมมีอยู่ทั้งสิ้น 3-4 แสนคน และนำรายได้เข้าไทยปีละ 5-6 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากแรงงานไทยออกไปทำงานต่างประเทศจะมีข้อเสียเปรียบแรงงานประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องภาษาต่างประเทศ ส่วนทักษะฝีมือของแรงงานไทยนั้นเป็นที่ยอมรับของต่างชาติอยู่แล้ว” รมว.แรงงานกล่าว
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เชื่อว่าแรงงานต่างชาติจะไหลเข้าสู่ไทยมากกว่าแรงงานไทยจะไหลไปสู่ต่างชาติซึ่งรัฐบาลและกระทรวงแรงงานควรมีมาตรการรองรับโดยกำหนดค่าจ้างเป็น 3 ระบบแบ่งเป็น 1.ค่าจ้างขั้นต่ำจ่ายให้แก่แรงงานไร้ฝีมือ 2.ค่าจ้างแรกเข้าจ่ายให้แก่แรงงานที่มีคุณวุฒิวิชาชีพสาขาต่างๆ เช่น ผู้ที่มีวุฒิ ปวช. ปวส. อีกทั้งปรับอัตราค่าจ้างแรกเข้าทุกปีให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อแต่ละปี และ 3.ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแต่ละสาขาโดยจัดทำเกณฑ์มาตรฐานฝีมือแรงงานอาเซียนและนำมาใช้ประเมินทักษะฝีมือแรงงานไทยและต่างชาติแบ่งเป็นระดับต่ำ กลางและสูง
“ค่าจ้างทั้ง 3 ระบบนี้จะต้องใช้กับแรงงานไทยและต่างชาติโดยเท่าเทียมกันจะช่วยแก้ปัญหาแรงงานช่างฝีมือไทยไหลออกไปต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ไทยก็ได้ช่างฝีมือชาวต่างชาติที่มีมาตรฐานเข้ามาสู่ตลาดแรงงานไทยด้วย” นายธนิตกล่าว
