xs
xsm
sm
md
lg

ช็อกวัยรุ่นป่วยเข้า รพ.เหตุท้อง-แท้ง มากสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต
พบวัยรุ่นเข้ารักษาพยาบาล ด้วยปัญหาท้อง-แท้ง มากสุด แพทย์ใช้ช่องทางซักประวัติปัญหาวัยรุ่น หวังแก้ปัญหาเชิงรุก เชื่อ ลดปัญหาสุขภาพระยะยาว

 

ศ.พญ.สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สิริกิติ์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี กล่าวถึงการดูแลสุขภาพวัยรุ่น ในการประชุมวิชาการคณะแพทยศาสตร์ 3 สถาบัน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ว่า จากการศึกษา พบว่า วัยรุ่นไทยมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตอย่างมาก โดยรายงานปี 2546 พบว่า วัยรุ่นไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุร้อยละ 19.6 รองลงมาเป็นการเสียชีวิตจากโรคเอดส์และเอชไอวี ร้อยละ 13.7 ฆ่าตัวตาย ร้อยละ 8.0 ถูกฆาตกรรมร้อยละ 2.4 ขณะที่ปัญหาสุขภาพซึ่งมีการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล จากข้อมูลปี 2550 ที่พบมากที่สุด คือ ปัญหาท้องและแท้ง พบร้อยละ 29 ในช่วงอายุ 13- 18 ปี ทั้งนี้ สังเกตได้ว่า ปัญหาด้านสุขภาพของวัยรุ่นนั้น ไม่ได้จำกัดเฉพาะด้านสาธารณสุข อย่างเดียว แต่หมายถึงปัญหาภาพรวมที่เชื่อมทั้ง สังคม ครอบครัว ด้วย สะท้อน ให้เห็นว่า การพัฒนาด้านการแพทย์และการบริการสาธารณสุขที่จำกัดแค่การตั้งรับปัญหา หรือจะมาเร่งรักษาอย่างเดียว ภายหลังพบการเจ็บป่วยในวัยรุ่นไม่ได้ผลที่ดีแน่นอน จึง จำเป็นอย่างยิ่งที่วงการแพทย์ต้องรู้เท่าทันสาเหตุของปัญหาด้านอื่นด้วย เพื่อเร่งพัฒนาด้านสุขภาพและสาธารณสุข ในเชิงรุกให้ทันต่อพฤติกรรมของวัยรุ่น

ศ.พญ.สุวรรณา กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวทางในการแก้ปัญหาสุขภาพของวัยรุ่นในเชิงรุก ซึ่ง รพ.รามาธิบดี ได้ทำในขณะนี้ คือ การดำเนินงานในรูปแบบคลินิกวัยรุ่นตามสถาบันการศึกษา นำร่อง 10 แห่ง ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร จ.เพชรบุรี สุรินทร์ เชียงใหม่ เชียงราย ซึ่งมุ่งเน้นการตรวจคัดกรองเกี่ยวกับสุขภาพวัยรุ่นอย่างรอบด้าน รวมทั้งบริการรับปรึกษาปัญหาทั่วไปด้วย โดยคลินิกดังกล่าวจะมีการตั้งวิทยากรต้นแบบที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ อาทิ จิตแพทย์ กุมารแพทย์ สูตินรีแพทย์ นักกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์ฟื้นฟู นักโภชนาการ ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่บุคลากรในสถาบันการศึกษา และใช้ช่องทางการสื่อสารต่อสู่ครอบครัวของวัยรุ่น เพื่อให้เข้าใจบริบทของปัญหาในภาพรวม และร่วมมือการป้องกัน และคิดว่าการประชุมวิชาการร่วม 3 สถาบัน นั้นช่วยให้สามารถกระจายแนวทางในการป้องกันปัญหาได้ดีในวงการแพทย์

“ทั้งนี้ สิ่งที่จำเป็นสำหรับแพทย์ในปัจจุบัน คือ เทคนิคการซักประวัติของผู้ป่วยวัยรุ่น ที่มารับบริการสาธารณสุข ที่จำเป็นต้องรู้พื้นฐานครอบครัว การศึกษา กิจกรรม การใช้ยา พฤติกรรมทางเพศ สุขภาพ อารมณ์และความปลอดภัยในชีวิต ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยก่อให้เกิดโรคในวัยรุ่นทั้งสิ้น เช่น การซักประวัติในผู้ป่วย 1 ราย อาจพบว่า ฐานะครอบครัวยากจน จึงทำให้เกิดปัญหาเรื่องโภชนาการที่ไม่เหมาะสม, ปัญหาเรื่องการถูกคุกคามทางเพศ อาจก่อให้เกิดโรคซึมเศร้า หรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องอารมณ์ก็ก่อให้เกิดพฤติกรรมใช้ความรุนแรง เป็นต้น ซึ่งหากแพทย์พบว่า มีพฤติกรรมเสี่ยงก็จะสามารถให้คำแนะนำได้ เพื่อป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้น ซึ่งการปฏิบัติในคลินิกวัยรุ่นก็ใช้เทคนิคเดียวกัน ในการถ่ายทอดความรู้สู่บุคคลที่แวดล้อม จะได้แก้ปัญหาระบะยาวและลดปัญหาสังคมด้านอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาแม่วัยรุ่น ท้องและการทำแท้ง” ศ.พญ.สุวรรณา กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น