xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายเยาวชนจี้พรรคการเมืองล้างบางร้านเหล้ารอบสถานศึกษา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
เครือข่ายเยาวชนฯ จับตานโยบายหาเสียง จี้พรรคการเมืองเข้าถึงเยาวชน ล้างบางเหล้าปั่น-ร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ตีปี๊บรณรงค์วัยโจ๋ 18 ปีใช้สิทธิครั้งแรกเลือกพรรคการเมืองคุณภาพ ไม่เมินปัญหาสังคม ขณะที่ “ผอ.มูลนิธิหญิง-ชายก้าวไกล” หวังเลือกตั้งใหม่ พิสูจน์ความจริงใจ ย้ำต้องปัดฝุ่นสถานภาพสตรี เตรียมเดินสายยื่นข้อเสนอพรรคการเมือง

วันนี้ (29 พ.ค.) น.ส.จิราภรณ์ กมลรังสรรค์ แกนนำเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ถือเป็นช่วงการหาเสียงของหลายพรรคการเมือง ดังนั้นนโยบายแต่ละพรรคควรเข้าถึงกลุ่มเยาวชนบ้าง เช่น ปัญหาการพนันออนไลน์ พนันบอล ท้องก่อนวัยอันควร รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นปัญหาใหญ่จึงอยากฝากให้ผู้สมัครทุกพรรค นำเรื่องปัญหาเหล้าปั่น และร้านเหล้ารอบสถานศึกษาเข้าไปพิจารณาเพราะ หากดูจากข้อมูลที่เครือข่ายเยาวชนฯ ได้ลงพื้นที่สำรวจร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา 45 แห่ง รัศมี 300 เมตร ในทุกภาคระหว่างวันที่ 1-11 ก.ย. 2553 พบว่า มีร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1,522 ร้าน หรือ 1 มหาวิทยาลัยจะมี 34 ร้าน ตั้งแต่ร้านโชวห่วย ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ผับ-บาร์ นอกจากนี้พบว่าในรอบ 1 ปีมีร้านเหล้ารอบสถานศึกษาในรัศมี 300 เมตร มีเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4-6 ร้านต่อสถาบัน

จากข้อมูลหากเทียบกับในอดีตถือว่าพุ่งสูงขึ้น และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่มีมาตรการของภาครัฐเข้ามาควบคุม อีกทั้งบางแห่งเปิดให้บริการเกินเวลา และยังปล่อยให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการ หากขายเหล้าเบียร์ให้ด้วยถือว่าผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังพบว่ามีการจัดโปรโมชั่นเพื่อจูงใจลูกค้า เช่น ถ้าเป็นผู้หญิง 4-5 คน เข้าไปก่อน 3 ทุ่ม จะได้เหล้าฟรีหนึ่งขวด จูงใจลูกค้าผู้ชายให้เห็นว่าร้านนี้มีสาวๆ เยอะ ขณะเดียวกัน การที่ร้านเหล้าปั่นขายอย่างเอิกเกริกรอบโรงเรียน ติดป้ายโฆษณาชัดจะทำให้นักศึกษานักเรียนเข้าถึงง่าย

“อยากให้ทุกพรรคเล็งเห็นความสำคัญของปัญหาเยาวชนจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมีนโยบายควบคุมชัดเจน ทั้งนี้ เชื่อว่าหากมีการสานต่อและออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ จะช่วยลดจำนวนนักดื่ม หยุดยั้งนักดื่มหน้าใหม่ หยุดการทะเลาะวิวาท อาชญากรรม เพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม ปัญหาการเรียนไม่จบ และหลังจากนี้อยากเชิญชวนเพื่อนเยาวชนทั่วทั้งประเทศ จับตาดูนโยบายของผู้ลงสมัครแต่ละพรรคว่ามีความจริงใจในการปกป้องเยาวชนมากแค่ไหน โดยจะจัดกิจกรรมร่วมรณรงค์กับเพื่อนเยาวชน โดยเฉพาะเยาวชนอายุครบ 18 ปี ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นครั้งแรก ให้ออกไปใช้สิทธิเลือกพรรคการเมืองที่มีนโยบายดังกล่าว อีกทั้งจะรวมตัวกันเพื่อเข้ายื่นข้อเสนอเชิงนโยบายกับพรรคการเมืองต่างๆ ในเร็วๆ นี้ด้วย” น.ส.จิราภรณ์กล่าว

ด้าน นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิง-ชายก้าวไกล กล่าวว่า การหาเสียงเพื่อชูนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองส่วนใหญ่จะเน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นหลัก แต่กลับมองข้ามเรื่องสิทธิของผู้หญิง ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทบต่อสังคม โดยเฉพาะการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเยาวชนหญิงตกเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ถูกกระทำ ทั้งการคุกคามทางเพศ การถูกข่มขืน รุมโทรม ใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก การละเมิดสิทธิในที่ทำงาน หรือตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาผู้หญิงไม่กล้าออกมาร้องทุกข์ และกฎหมายที่มีอยู่ก็ยังขาดความชัดเจนในการบังคับใช้ และบางประเด็นก็ล้าหลัง ดังนั้น ควรจะมีการปฏิรูปกฎหมาย เพื่อปรับเปลี่ยนแนวทางการคุ้มครองการคุกคามทางเพศให้ครอบคลุม ซึ่งเชื่อว่าการเลือกตั้งใหม่ครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์ถึงความจริงใจในการยกระดับสถานภาพของสตรี ที่ต้องเร่งปัดฝุ่นให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน

“พรรคการเมืองควรหยิบยกเรื่องบทบาทและนโยบายที่ทำเพื่อผู้หญิงมานำเสนอบ้าง เพราะที่ผ่านมาไม่มีการชูนโยบายหรือพูดถึงเรื่องนี้เลย ส่วนใหญ่จะเน้นประชานิยมเป็นจุดขายหลัก อย่างไรก็ตาม ควรให้ความสำคัญต่อบทบาทผู้หญิง มีนโยบายส่งเสริมรายได้และงบประมาณที่เพียงพอ เพราะผู้หญิงเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ในประเทศ จึงควรได้รับสิทธิในการพัฒนาศักยภาพ มีการประกอบอาชีพที่มั่นคง เห็นได้จากช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ผู้หญิงจำนวนมากต้องถูกเลิกจ้าง และตกงานเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งหลายรายตกอยู่ในสภาพที่แย่ ทั้งนี้ ทางมูลนิธิฯยินดีจะร่วมเดินสายกับเครือข่ายเยาวชนฯเพื่อยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายให้กับพรรคการเมืองต่างๆด้วย” ผอ.มูลนิธิหญิง-ชายก้าวไกลกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น