นักวิชาการจวกพรรคการเมือง ใช้ “สวัสดิการเรียกคะแนน” ไม่แก้ปัญหาสังคมจริง

นักวิชาการ ชี้ นโยบายของพรรคการเมืองด้านพัฒนาสังคม ไม่มีความชัดเจน แค่ชูหาเสียง เตือนเรื่องสวัสดิการต้องมองระยะยาว อัดยังไม่มีพรรคใดแสดงวิสัยทัศน์ชัดเจนกับปัญหาสังคมใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้น แม่วัยใส เพศศึกษา ยาเสพติด

รศ.ดร.เดชา สังขวรรณ คณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า นโยบายสวัสดิการที่พรรคการเมืองนำมาหาเสียง ขณะนี้ ยังไม่เห็นมีพรรคใดระบุถึงการยั่งยืน เพราะสวัสดิการต้องคำนึงถึงเวลาในระยะยาว แต่เท่าที่มีการหาเสียง เช่น การชูประเด็นเครดิตเกษตรกร เป็นนโยบายที่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะเป็นที่ทราบดีว่า พฤติกรรมของคนไทยเมื่อมีให้ใช้ก็ใช้แต่จะมีความสามารถในการใช้คืนหรือไม่ ผู้ที่ออกนโยบายต้องนำไปพิจารณาด้วยว่าคนไทยมีวินัยแค่ไหน จึงมองว่าเป็นเพียงนโยบายประชานิยม ที่ประกาศมาเพื่อเรียกคะแนนเสียง แต่จะทำได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ ยังไม่มีความชัดเจน ส่วนนโยบายมอบเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปนั้น หากพิจารณาว่า อนาคตผู้สูงอายุไทยจะเพิ่มสูงขึ้น หากยังคงนโยบายนี้ไปอีก 2-3 ปี จะยังมีความสามารถทำได้หรือไม่ จึงมีความเห็นว่า นโยบายด้านสังคมของพรรคการเมืองที่แถลงออกมานั้น ทำได้ในระยะสั้นในช่วงที่เรามีเงิน อย่างไรก็ดี เห็นด้วยกับความจริงจังในนโยบายป้องกันและแก้ไขปราบปรามการติดยาเสพติดที่หลายพรรคมีความจริงจัง

ด้าน รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีคณะพัฒนาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า เท่าที่ดูนโยบายด้านพัฒนาสังคม ของแต่ละพรรคยังไม่มีอะไรชัดเจน การพัฒนาคุณภาพ ผู้พิการ เด็ก และสตรี ยังไม่มีความชัดเจน ปัญหาวัยรุ่นที่เป็นปัญหาสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นท้องก่อนวัยอันควร ปัญหายาเสพติด ที่มีผลสะท้อนชัดเจนว่า เยาวชนไทยติดยาเพิ่มจากร้อยละ 1 ในปี 2550 เป็นร้อยละ 12 ในปี 2554 เป็นตัวเลขที่น่าตกใจ ตนเสนอว่า ควรจะมีการพูดถึงนโยบายด้านยาเสพติด คอรัปชั่น การแก้ไขค่านิยมของคนไทย เด็ก เยาวชน เพศศึกษา เพื่อให้ประชาชนได้ทราบแนวทางการทำงานของแต่ละพรรคให้มากขึ้น