“พรเทพ” ตรวจ ซ.ลาซาล หลังถูกร้องก่อสร้างล่าช้า

“พรเทพ” ลงพื้นที่ตรวจงานปรับปรุงถนนสุขุมวิท 105 ซอยลาซาล หลังประชาชนร้องเรียนถึงปัญหาความเดือดร้อน และความล่าช้าจากการก่อสร้าง เผย เร่งประสานสาธารณูปโภค รื้อย้ายสิ่งกีดขวางแนววางท่อระบายน้ำ นัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุก 15 วัน คาดก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปีนี้

 

วันนี้ (16 มิ.ย.) นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจการก่อสร้างปรับปรุง ถ.สุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ช่วงจากถนนสุขุมวิท ถึงหมู่บ้านสายลม เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนถึงปัญหาความเดือดร้อนและล่าช้าในการดำเนินงาน โดยมี นายมนู สิทธิประศาสน์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายจุมพล สำเภาพล ผู้อำนวยการสำนักการโยธา นายเสือชนะ สุดเจริญ ผู้อำนวยการเขตบางนา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่บริเวณถนนสุขุมวิท 105

 

ทั้งนี้ นายพรเทพ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าและอุปสรรคในการก่อสร้างปรับปรุงถนนสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ช่วงจากถนนสุขุมวิท ถึงหมู่บ้านสายลม โดยโครงการดังกล่าวเป็นถนน ค.ล.ส.2 ช่องจราจร ความกว้างประมาณ 8-10 ม.ความยาวประมาณ 1,500 ม.ซึ่งสัญญาเดิมกำหนดเสร็จเดือน พ.ค.2553 ขณะนี้อยู่ระหว่างขอต่อสัญญาครั้งที่ 2 เนื่องจากปัญหาอุปสรรคในการรื้อย้ายสาธารณูปโภคกีดขวางแนวทางก่อสร้างทางระบายน้ำเพิ่มเติม 366 วัน ขอต่ออายุสัญญาเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบ 45 วัน และขอต่อสัญญาจากเหตุการณ์น้ำท่วม 30 วัน เป็นระยะเวลาก่อสร้างรวม 787วัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค.2555

 

สำหรับการรื้อย้ายสาธารณูปโภคกีดขวางแนวทางก่อสร้างทางระบายน้ำ ประกอบด้วย ไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ ที่กีดขวางแนวการก่อสร้างท่อระบายน้ำนั้น กทม.ไม่สามารถดำเนินการเองได้ ต้องประสานความร่วมมือจากหน่วยงานนั้นๆ    ในการเข้ามาดำเนินงาน การรื้อย้ายเสาไฟฟ้าไปชิดตำแหน่งท่อประปาจ่ายเดิม ต้องรอให้การประปานครหลวงวางท่อประปาจ่ายแล้วเสร็จก่อน การไฟฟ้านครหลวงจึงจะย้ายเสาไฟฟ้าได้ ส่วนท่อร้อยสายโทรศัพท์ใต้ดินที่กีดขวางแนวก่อสร้างท่อระบายน้ำด้านขวานั้น ทางบริษัท ทีโอที ได้ดำเนินการวางสายไฟเบอร์ออพติกใหม่บนเสาไฟฟ้า จึงสามารถรื้อย้ายสายโทรศัพท์ใต้ดินของเดิม และวางท่อระบายน้ำฝั่งทางขวาได้ ส่วนท่อร้อยสายโทรศัพท์ใต้ดินของบริษัท ทรู จะดำเนินการรื้อย้ายพร้อมงานก่อสร้างของ กทม.

 

นายพรเทพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กทม.ยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในถนนดังกล่าว ซึ่งเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำฝนที่ไหลลงสู่บ้านเรือนที่อยู่ระดับ ต่ำกว่าถนน จึงขอให้กทม.ปรับลดระดับผิวจราจรให้ ซึ่งทาง กทม.ได้พิจารณาปรับปรุงรูปแบบจนสามารถลดระดับผิวจราจรลง โดยลดระดับผิวจราจรจากเดิม 80 ซม.เป็นระดับ 50 ซม.เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลเข้าสู่บ้านเรือนประชาชน นอกจากนี้ยังได้มีการเปลี่ยนขนาดท่อระบายน้ำจากเดิมมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.80 ม.เป็นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.0 ม. ในฝั่งขวาของถนน และขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.2 ม.ในฝั่งซ้ายของถนน เพื่อให้ปริมาณการระบายน้ำมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

ในส่วนการจัดจราจรนั้น กทม.จะปิดป้ายเตือนให้ประชาชนทราบถึงซอยที่จะปิดการจราจร และเส้นทางเลี่ยง เพื่อให้ประชาชนหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน ทั้งนี้ การดำเนินก่อสร้างปรับปรุงถนนสุขุมวิท 105 ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ม.ค.2555นั้น กทม.จะเร่งดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.2554 โดยจะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงความคืบหน้าในการดำเนินงานทุกๆ 15 วัน เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ใช้ถนนดังกล่าว

 

“พรเทพ” ลงพื้นที่ตรวจงานปรับปรุงถนนสุขุมวิท 105 ซอยลาซาล หลังประชาชนร้องเรียนถึงปัญหาความเดือดร้อนและความล่าช้าจากการก่อสร้าง เผยเร่งประสานสาธารณูปโภค รื้อย้ายสิ่งกีดขวางแนววางท่อระบายน้ำ นัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุก 15 วัน คาดก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปีนี้

 

วันนี้(16 มิ.ย.) นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ลงพื้นที่ตรวจการก่อสร้างปรับปรุง ถ.สุขุมวิท 105 (ซอย ลาซาล) ช่วงจากถนนสุขุมวิท ถึงหมู่บ้านสายลม เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนถึงปัญหาความเดือดร้อนและล่าช้า ในการดำเนินงาน โดยมีนายมนู สิทธิประศาสน์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายจุมพล สำเภาพล ผู้อำนวยการสำนักการโยธา นายเสือชนะ สุดเจริญ ผู้อำนวยการเขตบางนา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่บริเวณถนนสุขุมวิท 105

 

ทั้งนี้ นายพรเทพ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าและอุปสรรคในการก่อสร้างปรับปรุงถนนสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) ช่วงจากถนนสุขุมวิท ถึงหมู่บ้านสายลม โดยโครงการดังกล่าวเป็นถนน ค.ล.ส. 2 ช่องจราจร ความกว้างประมาณ 8-10 ม. ความยาวประมาณ 1,500 ม. ซึ่งสัญญาเดิมกำหนดเสร็จเดือน พ.ค.2553 ขณะนี้อยู่ระหว่างขอต่อสัญญาครั้งที่ 2 เนื่องจากปัญหาอุปสรรคในการรื้อย้ายสาธารณูปโภคกีดขวางแนวทางก่อสร้างทางระบายน้ำเพิ่มเติม 366 วัน ขอต่ออายุสัญญาเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบ 45 วัน และขอต่อสัญญาจากเหตุการณ์น้ำท่วม 30 วัน เป็นระยะเวลาก่อสร้างรวม 787วัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค. 2555

 

สำหรับ การรื้อย้ายสาธารณูปโภคกีดขวางแนวทางก่อสร้างทางระบายน้ำประกอบด้วยไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ ที่กีดขวางแนวการก่อสร้างท่อระบายน้ำนั้น กทม.ไม่สามารถดำเนินการเองได้ ต้องประสานความร่วมมือจากหน่วยงานนั้นๆ    ใน การเข้ามาดำเนินงาน การรื้อย้ายเสาไฟฟ้าไปชิดตำแหน่งท่อประปาจ่ายเดิม ต้องรอให้การประปานครหลวงวางท่อประปาจ่ายแล้วเสร็จก่อน การไฟฟ้านครหลวงจึงจะย้ายเสาไฟฟ้าได้ ส่วนท่อร้อยสายโทรศัพท์ใต้ดินที่กีดขวางแนวก่อสร้างท่อระบายน้ำด้านขวานั้น ทางบริษัททีโอที ได้ดำเนินการวางสายไฟเบอร์ออพติกใหม่บนเสาไฟฟ้า จึงสามารถรื้อย้ายสายโทรศัพท์ใต้ดินของเดิม และวางท่อระบายน้ำฝั่งทางขวาได้ ส่วนท่อร้อยสายโทรศัพท์ใต้ดินของบริษัททรู จะดำเนินการรื้อย้ายพร้อมงานก่อสร้างของกทม.

 

นาย พรเทพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กทม.ยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในถนนดังกล่าว ซึ่งเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำฝนที่ไหลลงสู่บ้านเรือนที่อยู่ระดับ ต่ำกว่าถนน จึงขอให้กทม.ปรับลดระดับผิวจราจรให้ ซึ่งทางกทม.ได้พิจารณาปรับปรุงรูปแบบจนสามารถลดระดับผิวจราจรลง โดยลดระดับผิวจราจรจากเดิม 80 ซม. เป็นระดับ 50 ซม. เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลเข้าสู่บ้านเรือนประชาชน นอกจากนี้ยังได้มีการเปลี่ยนขนาดท่อระบายน้ำจากเดิมมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.80 ม. เป็นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.0 ม. ในฝั่งขวาของถนน และขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.2 ม. ในฝั่งซ้ายของถนน เพื่อให้ปริมาณการระบายน้ำมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

ใน ส่วนการจัดจราจรนั้น กทม.จะปิดป้ายเตือนให้ประชาชนทราบถึงซอยที่จะปิดการจราจรและเส้นทางเลี่ยง เพื่อให้ประชาชนหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน ทั้งนี้การดำเนินก่อสร้างปรับปรุงถนนสุขุมวิท 105 ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ม.ค.2555นั้น กทม.จะเร่งดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค. 2554 โดยจะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงความคืบหน้าในการดำเนินงานทุกๆ15 วัน เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ใช้ถนนดังกล่าว